- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 30 March 2022 09:15
- Hits: 5169
สินิตย์ สั่ง'กรมเจรจาฯ' ลุยสงขลา ดันผ้าทอเกาะยอ-ปลากะพง-ยางพารา ใช้ประโยชน์ FTA ขยายส่งออกตลาดอาเซียน
สินิตย์ สั่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่สงขลา สำรวจศักยภาพสินค้าผ้าทอเกาะยอ ปลากะพง และผลิตภัณฑ์ยางพารา พร้อมนำทีมผู้เชี่ยวชาญเปิดเวทีวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ แนะยกระดับการผลิตให้มีคุณภาพมาตรฐาน ตอบโจทย์ผู้บริโภค เน้นใช้นวัตกรรมสร้างจุดเด่นให้สินค้า หนุนผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร ใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินโครงการ “สร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน”ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อลงพื้นที่พบปะกับผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร จังหวัดสงขลา พร้อมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันสินค้าศักยภาพในพื้นที่สู่ตลาดการค้าเสรี และจัดสัมมนาสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายส่งออกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอาเซียน
นายสินิตย์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการครั้งนี้ ถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” โดยได้ทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา และภาคเอกชน มุ่งเน้นการให้ความรู้เรื่องชี้ช่องการใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายการส่งออก การใช้จุดแข็งของภูมิศาสตร์และความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมเข้าสู่ตลาดอาเซียนและตลาดฮาลาล
และส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นของจังหวัดชายแดนภาคใต้เชื่อมโยงกับห่วงโซ่มูลค่าการค้าของตลาดโลก ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้จะช่วยผลักดันสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัดสงขลา ทั้งผ้าทอเกาะยอ ปลากะพง ยางพารา ไข่ครอบ และมะม่วงเบา ขยายการส่งออกสู่ตลาดการค้าเสรีได้มากขึ้น
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า กรมฯ ได้นำทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการค้าระหว่างประเทศ พบปะกับผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ การผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และส่งเสริมการใช้สื่อทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ท้องถิ่นเข้ามาขับเคลื่อนการค้า
โดยกรมฯ ได้หารือกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักเกาะยอ ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงในกระชัง ที่มีจุดเด่นเป็นปลากะพง 3 น้ำ มีเนื้อปลารสชาติหวานและอร่อยที่สุดในประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยกลุ่มมีความต้องการเข้าสู่ตลาดส่งออกปลากะพงรมควัน
นางสาวบุณิกา เพิ่มเติมว่า กรมฯ ได้พบปะกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มร่มไทร ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าทอเกาะยอที่มีชื่อเสียง โดยมีลวดลายผ้ามากกว่า 400 ลาย โดยในปีนี้ ได้ขึ้นทะเบียน ‘ลายราชวัตร’ เป็นลายผ้าประจำจังหวัดสงขลา และยังได้ร่วมประชุมกับสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา หาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าให้กับยางพารา ซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจของประเทศที่มีการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน มหาวิทยาลัย และตลาดโลก โดยจะช่วยการสร้างงานและสร้างรายได้ในพื้นที่ อาทิ หวายเทียมที่ใช้ยางพารากับขยะผลิตเป็นงานหัตถกรรมจักสาน ซึ่งถือเป็นสินค้า BCG ที่จะส่งมอบให้กับวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้จัดสัมมนาในหัวข้อ “การใช้ประโยชน์จาก FTA และโอกาสทางการค้าในตลาดอาเซียน” ณ โรงแรมเดอะเบด เวเคชั่น รัชมังคลา เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสมาชิก MOC Biz Club เกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จาก FTA กฎระเบียบทางการค้า การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และการสร้างความร่วมมือด้านการตลาดระหว่างเกษตรกร ผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐ
พร้อมเปิดเวทีวิเคราะห์สินค้า ชี้แนะแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ และสร้างอัตลักษณ์ของสินค้าเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ อาทิ กลุ่มคนรักสุขภาพและคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตอบสนองความต้องการของตลาดในยุคการค้า Next Normal
ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้ เปิดบริการจดสิทธิบัตรระหว่างประเทศออนไลน์ เลือกได้ 155 ประเทศ
สินิตย์ เผยกรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมเปิดให้บริการยื่นคำขอจดสิทธิบัตรระหว่างประเทศผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เลือกจดได้ 155 ประเทศ ดีเดย์วันที่ 1 เม.ย.นี้ ช่วยเพิ่มความสะดวก ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่าย
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมเปิดตัวให้บริการยื่นคำขอจดสิทธิบัตรทั่วโลกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-PCT เพื่อเพิ่มช่องทางการยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรระหว่างประเทศ อำนวยความสะดวก และส่งเสริมให้คนไทยได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรในต่างประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ป้องกันการลอกเลียนแบบหรือการนำสิทธิบัตรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เกิดการคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และการพัฒนาต่อยอดทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย รวมทั้งสนับสนุนนักประดิษฐ์ นักวิจัย นักคิดค้นสร้างสรรค์ และผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า บริการยื่นคำขอจดสิทธิบัตรระหว่างประเทศผ่านระบบ e-PCT กำหนดเปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2565 เป็นต้นไป โดยสามารถยื่นคำขอผ่านเว็บไซต์ https://pct.wipo.int/ePCT ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้การคุ้มครองกว่า 150 ประเทศทั่วโลกที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการยื่นคำขอจดสิทธิบัตรผ่านระบบดังกล่าว จะช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอ กรณีเป็นบุคคลธรรมดาจ่ายเพียง 4,100-4,900 บาท จากเดิม 5,300 บาท และนิติบุคคลจ่ายเพียง 41,000-49,000 บาท จากเดิม 53,000 บาท
สำหรับ ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจทั่วไป สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th หรือขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานระบบ e-PCT ได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368