- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 03 March 2022 22:43
- Hits: 9497
พาณิชย์ เผย'ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ' ดาวรุ่งพุ่งแรง ปี 64 ตั้งใหม่โต 200%
พาณิชย์ วิเคราะห์ธุรกิจดาวรุ่งปี 64 พบ 'ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ' มาแรง เปิดธุรกิจใหม่สูงถึง 560 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 200% หลังผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าออนไลน์ อินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่าย จ่ายเงินสะดวก คาดยังโตได้ต่อเนื่อง
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจดาวเด่นที่น่าสนใจจากคลังข้อมูลธุรกิจในปี 2564 พบว่า ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของเป็นธุรกิจดาวเด่นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดยมีตัวเลขการจัดตั้งธุรกิจใหม่สูงถึง 560 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน 184 ราย เพิ่มขึ้น 376 ราย หรือโตแบบก้าวกระโดดกว่า 200% ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยนิยมสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ระบบการจ่ายเงินที่หลากหลายและมีความสะดวก และระบบการขนส่งที่มีความสะดวกและรวดเร็ว
สำหรับ การลงทุนในธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ เป็นการลงทุนของผู้ประกอบการไทย มีเงินลงทุนรวม 4,702.58 ล้านบาท คิดเป็น 95.47% ของเงินลงทุนทั้งหมด และที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ โดยนักลงทุนชาวจีนเข้ามาลงทุนสูงสุด ด้วยเงินลงทุน 65.70 ล้านบาท คิดเป็น 1.33% ตามมาด้วยฮ่องกง 18.41 ล้านบาท คิดเป็น 0.37% เยอรมัน 13.77 ล้านบาท คิดเป็น 0.28% และสัญชาติอื่น ๆ 125.12 ล้านบาท คิดเป็น 2.55%
นายสินิตย์ กล่าวว่า แม้ว่ามาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของภาครัฐ จะผ่อนคลายลง แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังคงป้องกันตัวเองด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคยังพึ่งพาการซื้อสินค้าออนไลน์ และใช้งานการขนส่งแบบเดลิเวอรี ทำให้ธุรกิจมีมูลค่าการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ จึงยังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจเข้ามาลงทุน
อย่างไรก็ตาม จากการที่มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้าสู่ธุรกิจเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจึงมีตัวเลือกที่หลากหลายในการเลือกใช้บริการ ทำให้อัตราการแข่งขันของผู้ประกอบการมีสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งการแข่งขันด้านราคา การขยายสาขาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า การยกระดับคุณภาพการให้บริการ ทั้งความรวดเร็วในการส่งสินค้าและการรักษาสินค้าไม่ให้เกิดการสูญหายหรือเสียหายจากการขนส่งเพื่อรักษาฐานลูกค้า อีกทั้งยังพบปัญหาการแย่งชิงพนักงานขนส่งสินค้า ยิ่งในช่วงนี้ที่พนักงานส่วนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องคำนึงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ด้วย เพราะส่งผลให้ธุรกิจมีต้นทุนที่สูงขึ้น อาจส่งผลให้ประสบภาวะขาดทุนในระยะหนึ่ง แต่จะทำให้ธุรกิจสามารถสร้างความแข็งแกร่งผ่านฐานลูกค้าที่เชื่อมั่นในธุรกิจที่มากขึ้น ส่งผลดีและผลกำไรที่เป็นบวกในระยะยาว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค.2565) มีธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย จำนวน 1,324 ราย คิดเป็น 0.16% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ และมีมูลค่าทุนรวม 4,925.58 ล้านบาท คิดเป็น 0.02% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย โดยดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัด จำนวน 837 ราย (63.22%) มูลค่าทุน 890.00 ล้านบาท เป็นธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,104 ราย ทุน 1.01-5.00 ล้านบาท จำนวน 189 ราย ทุน 5.01-100 ล้านบาท จำนวน 27 ราย มากกว่า 100 ล้าน จำนวน 4 ราย และเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) มากที่สุด 1,280 ราย (96.68%) ธุรกิจขนาดกลาง (M) 29 ราย (2.19%) และธุรกิจขนาดใหญ่ (L) 15 ราย (1.13%)
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร 449 ราย (33.91%) ทุนจดทะเบียนรวม 3,783.88 ล้านบาท (76.82%) อันดับ 2 ภาคกลาง 276 ราย (20.84%) อันดับ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 228 ราย (17.22%) อันดับ 4 ภาคใต้ 142 ราย (10.73%) อันดับ 5 ภาคเหนือ 115 ราย (8.69%) อันดับ 6 ภาคตะวันออก 104 ราย (7.85%) และลำดับ 7 ภาคตะวันตก 10 ราย (0.76%)
เมื่อพิจารณาจากมูลค่าทางบัญชี (สินทรัพย์รวม-หนี้สินรวม) ปี 2563 มีมูลค่าสูงถึง 10,903.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.28% จากปี 2562 ที่มีมูลค่าทางบัญชี 5,790.91 ล้านบาท ส่วนมูลค่าทางบัญชีปี 2564 อยู่ระหว่างธุรกิจนำส่งข้อมูลตามกฎหมาย ขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจ (รายได้รวม) ปี 2561-2563 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2561 รายได้รวม 20,623.70 ล้านบาท ปี 2562 รายได้รวม 32,202.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.14% และปี 2563 รายได้รวม 44,800.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.12%