- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 01 March 2022 10:50
- Hits: 5680
ม.ค.65 ไฟเขียวต่างชาติลงทุนไทย 18 ราย นำเงินเข้า 821 ล้าน จ้างงาน 393 คน
พาณิชย์ เผยเดือนม.ค.65 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อนุญาตคนต่างชาติประกอบธุรกิจในไทย 18 ราย นำเงินเข้า 821 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 393 คน และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เป็นจำนวนมาก คาดปีนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้ามาต่อเนื่องแน่ หลังรัฐมีมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือนม.ค.2565 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในไทยจำนวน 18 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ มีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 821 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 393 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์ที่ใช้สำหรับการตรวจวิเคราะห์เลือด องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติงานเชิงซ้อนในขั้นตอนการประเมินต้นทุนเนื้องาน การผลิตชิ้นงาน และขั้นตอนทดสอบมาตรฐานชิ้นงาน และองค์ความรู้เกี่ยวกับการให้บริการยานพาหนะผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และธุรกิจให้บริการแอปพลิเคชัน เป็นต้น
ส่วนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่ เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) รวมถึงสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต เช่น บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ สำหรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า รวมทั้งสำหรับการสั่งซื้อสินค้าและบริการ บริการขุดเจาะปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย บริการตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาสินค้าประเภทเครื่องมือแพทย์ และบริการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมระบบการบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร เป็นต้น
ทางด้านการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในเดือนม.ค.2565 นักลงทุนส่วนใหญ่ลงทุนในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 27 ราย และนักลงทุนต่างชาติยังสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 8 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 16% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมดในเดือนนี้ โดยมีเงินลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 1,575 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 16% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดย 3 ลำดับแรกเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 4 ราย ลงทุน 660 ล้านบาท ฮ่องกง 1 ราย ลงทุน 826 ล้านบาท และเนเธอร์แลนด์ 1 ราย ลงทุน 50 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน เช่น 1.บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ 2.บริการให้เช่าที่ดินและอาคาร ในนิคมอุตสาหกรรม และ 3.บริการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
นายสินิตย์ กล่าวว่า คาดว่าตลอดปี 2565 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผ่อนคลายให้มีการเปิดประเทศ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ผนวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ผ่อนคลายขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลัก ทั้งสหรัฐฯ จีน และยุโรป ที่เศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19
นอกจากนี้ การลงทุนจากต่างประเทศ น่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นสัญญาณจากการลงทุนของบริษัทไทยและต่างชาติที่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในลักษณะที่เป็นการเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทไทย ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น