- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 27 February 2022 12:38
- Hits: 7441
สนค.เผยส่งออกภาคใต้ปี 64 โต 34.7% สงขลาแชมป์มูลค่า ยางสัดส่วนสูงสุด
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ติดตามข้อมูลการส่งออกรายภูมิภาค ประเดิมภาคใต้ พบปี 64 เติบโตสูงถึง 34.7% สูงกว่าส่งออกรวมของประเทศ เผยสงขลานำโด่ง จังหวัดส่งออกสูงสุด ตามด้วยสุราษฎร์ธานี ตรัง ภูเก็ต และชุมพร ระบุกลุ่มยางพาราและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าส่งออกหลัก มีสัดส่วน 60% ของส่งออกภาคใต้ แต่พบสินค้าที่มีศักยภาพ ทั้งผลไม้ อาหารทะเลกระป๋อง อาหารสุนัข แมว ไม้แปรรูป
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ติดตามข้อมูลการส่งออกสินค้ารายภูมิภาคของไทย พบว่า ในปี 2564 มูลค่าการส่งออกของภาคใต้ เติบโตสูงถึง 34.7% สูงกว่าอัตราการเติบโตของการส่งออกของประเทศโดยรวมที่ปี 2564 การส่งออกของไทย มีมูลค่า 271,174 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 17.1% โดยการส่งออกของภาคใต้มีมูลค่า 11,817 ล้านเหรียญสหรัฐ รองจากกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่มีมูลค่า 94,955 , 78,780 และ 70,016 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
ทั้งนี้ การส่งออกของภาคใต้ ที่มีมูลค่ารวม 11,817 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วน 4.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งประเทศ โดยจังหวัดที่มีการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สงขลา สุราษฎร์ธานี ตรัง ภูเก็ต และชุมพร และสินค้าส่งออกสำคัญของภาคใต้ 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.ถุงมือยาง 2,192 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.ยางทีเอสเอ็นอาร์ 1,725 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 1,383 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.น้ำยางข้น 1,253 ล้านเหรียญสหรัฐ 5.ไม้แปรรูป 853 ล้านเหรียญสหรัฐ 6.น้ำมันปาล์ม 824 ล้านเหรียญสหรัฐ 7.ยางแผ่นรมควันชั้นที่ 3 612 ล้านเหรียญสหรัฐ 8.ทูน่ากระป๋อง 271 ล้านเหรียญสหรัฐ 9.ทุเรียนสด 263 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 10.ไม้อัด 223 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนตลาดส่งออกสำคัญของภาคใต้ ได้แก่ จีน สัดส่วน 34.9% สหรัฐฯ สัดส่วน 13.4% มาเลเซีย สัดส่วน 12.4% อินเดีย สัดส่วน 6.4% และญี่ปุ่น สัดส่วน 5.9%
อย่างไรก็ตาม หากแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า จังหวัดสงขลา มีมูลค่าการส่งออก 7,547 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 29.6% โดยมูลค่าการส่งออกเกือบ 80% เป็นการส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราและผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ถุงมือยาง 2,010 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 42.6% ยางทีเอสเอ็นอาร์ 1,488 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 72.3% ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3% น้ำยางข้น 930 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 17% และยางแผ่นรมควัน ชั้นที่ 3 376 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 73.1%
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีมูลค่าการส่งออก 1,452 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 108.2% โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญอันดับหนึ่ง คือ น้ำมันปาล์ม ส่งออกเป็นมูลค่า 608 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 426.6% และมีสัดส่วนประมาณ 41.9% ของมูลค่าการส่งออกของทั้งจังหวัด สินค้าส่งออกสำคัญรองลงมา ได้แก่ ไม้แปรรูป มูลค่า 242 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 12.9% น้ำยางข้น มูลค่า 88 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 146.6% และถุงมือยาง มูลค่า 81 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 163.7%
จังหวัดตรัง มีมูลค่าการส่งออก 495 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 11.4% โดยมีไม้แปรรูป เป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของจังหวัดตรัง มีมูลค่า 239 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 11.4% และมีสัดส่วน 48.2% ของมูลค่าการส่งออกของทั้งจังหวัด
จังหวัดภูเก็ต มีมูลค่าการส่งออก 480 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 23.4% โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราและผลิตภัณฑ์ เช่น ยางทีเอสเอ็นอาร์ ถุงมือยาง ยางแท่ง น้ำยางข้น และยางแผ่นรมควันชั้นที่ 3
จังหวัดชุมพร มีมูลค่าการส่งออก 447 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 29.2% โดยเป็นการส่งออกทุเรียนสด และแช่แข็ง รวมมูลค่า 284 ล้านเหรียญสหรัฐ แยกเป็นทุเรียนสด และแช่แข็ง 234 และ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ มีสัดส่วนถึง 63.5% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของจังหวัดชุมพร
นอกจากนี้ จากการติดตาม พบว่า กลุ่มสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าส่งออกหลักของภาคใต้ มีสัดส่วนประมาณ 60% ของมูลค่าการส่งออกรวมของภาคใต้ แต่ภาคใต้ก็มีสินค้าศักยภาพอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีแนวโน้มขยายตัวดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตรหรือสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ผลไม้สด โดยในปี 2564 การส่งออกของไทย มีการขยายตัว 115.0% และ 83.5% ในตลาดมาเลเซีย และจีน อาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัว 47.12% และ 30.3% ในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ อาหารสุนัขและแมว ขยายตัว 76.6% , 72.2% และ 38.4% ในตลาดอินเดีย แคนาดา และมาเลเซีย ไม้แปรรูป ขยายตัว 61.8% ในตลาดมาเลเซีย ไม้อัด ขยายตัว 92.3%, 45.4% และ 18.6% ในตลาดสหรัฐฯ มาเลเซีย และจีน ไฟเบอร์บอร์ด ขยายตัว 145.3% และ 69.6% ในตลาดคูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น