- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 20 February 2022 22:21
- Hits: 10422
กรมเจรจาฯ ชี้เป้า 'น้ำผึ้ง-โกโก้' ใช้ประโยชน์จาก FTA เจาะตลาดต่างประเทศ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย หนุนผู้ประกอบการน้ำมันและโกโก้ ใช้ประโยชน์จาก FTA ในการทำตลาดต่างประเทศ หลังปัจจุบันทั้ง 2 สินค้า มี 14 ประเทศ ที่ไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว พร้อมแนะพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ลงพื้นที่อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมการผลิตน้ำผึ้งของวิสาหกิจชุมชนสมายล์ บี และจัดเสวนาหัวข้อ ‘การพัฒนาศักยภาพน้ำผึ้งไทยสู่การค้าเสรี’ ให้กับกลุ่มผู้ผลิตน้ำผึ้ง โดยพบว่าป่าแดดเป็นอำเภอที่มีการเลี้ยงผึ้งกันมาอย่างยาวนานหลายครอบครัว ในช่วงเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ เป็นการเลี้ยงเพื่อจำหน่ายน้ำผึ้งให้กับผู้สนใจนำไปบรรจุขวดและขายต่อ ไม่ได้ขายให้กับผู้บริโภคโดยตรง จึงทำให้ขาดอำนาจการต่อรองราคา ต่อมากลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งได้รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมายล์ บี เพื่อนำน้ำผึ้งมาบรรจุขวด ตรวจสอบคุณภาพ และจัดจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรงเอง ทำให้สามารถกำหนดราคาจำหน่ายได้ตามต้องการมากขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการพบปะหารือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมายล์ บี สนใจขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยเฉพาะไปยังกลุ่มผู้รักสุขภาพในจีนและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดพรีเมี่ยม จึงได้แนะนำให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน เช่น มาตรฐานการผลิตอาหาร GMP (Good Manufacturing Practice) และการรับรองมาตรฐานฟาร์ม GAP (Good Agricultural Practice) เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก
ขณะเดียวกัน ได้แนะนำให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA)ที่ไทยทำกับคู่ค้า เนื่องจากปัจจุบัน 14 ประเทศที่ไทยมี FTA ด้วย ได้แก่ อาเซียน จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และชิลี ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับน้ำผึ้งธรรมชาติที่ส่งออกจากไทยแล้ว ยังเหลืออีก 4 ประเทศคู่ FTA คือ อินเดีย ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าน้ำผึ้ง อัตรา 60% ญี่ปุ่น อัตรา 25.5% เกาหลีใต้ อัตรา 194.4% และเปรู อัตรา 6%
ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำผึ้งอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากเวียดนาม และเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ในปี 2564 ไทยส่งออกน้ำผึ้งสู่ตลาดโลก 10,315 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22.48 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25% โดยตลาดส่งออกสำคัญในอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นสัดส่วน 29% ของการส่งออกไปโลก รองลงมา คือ จีนไทเป สหรัฐฯ จีน และซาอุดีอาระเบีย
นางอรมน กล่าวว่า ยังได้ไปเยี่ยมบริษัท โกโก้แลนด์ คอร์ปอร์เรชั่น ที่นำผลโกโก้สดและผลโกโก้แห้งมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์โกโก้หลากหลายชนิด มีมาตรฐาน และรสชาติดี จนเป็นที่ยอมรับและรู้จักของผู้บริโภค โดยจากการหารือพบว่า บริษัทมีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์จากโกโก้ที่เพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จากการเติบโตของห้างสรรพสินค้า ร้านคาเฟ่และขนม ความใส่ใจเรื่องสุขภาพ จึงเป็นความท้าทายของไทยที่จะผลักดันให้ผลิตภัณฑ์โกโก้ไทยมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก และผลิตได้ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้โกโก้เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดของไทย ที่จะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่เกษตรกร
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้แนะนำว่า ในการส่งออก ควรจะใช้ประโยชน์จาก FTA ช่วยสร้างแต้มต่อในตลาดสำคัญ เนื่องจากปัจจุบัน 14 ประเทศคู่ FTA ได้แก่ อาเซียน จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และชิลี ได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าโกโก้และของปรุงแต่งจากโกโก้ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ยังเหลืออีก 4 ประเทศ คือ อินเดียเก็บภาษีสินค้าขนมและอาหารปรุงแต่งที่ทำจากโกโก้ อัตรา 30% ญี่ปุ่น อัตรา 1-29.8% เกาหลีใต้ อัตรา 5% และเปรู อัตรา 6-11%
ในปี 2564 ไทยส่งออกโกโก้และของปรุงแต่งจากโกโก้สู่ตลาดโลก มูลค่า 42.22 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น มูลค่า 14.93 ล้านเหรียญสหรัฐ อาเซียน มูลค่า 14.73 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกหลัก คือ เมียนมา สปป.ลาว และมาเลเซีย และจีน มูลค่า 5.27 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ช็อกโกแลต และอาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ที่มีโกโก้ ผงโกโก้ที่ไม่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่น เป็นต้น
