- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 01 February 2022 22:26
- Hits: 4463
พาณิชย์ นำผู้ประกอบการโคนม Live Sale บนเถาเป่าเป็นครั้งแรก ยอดขายสุดปัง
พาณิชย์ นำผู้ประกอบการนมแปรรูปไทย จัด Live Sale บนแพลตฟอร์มเถาเป่าของจีนเป็นครั้งแรก ได้รับการตอบรับจากชาวจีนอย่างล้นหลาม สินค้านม UHT นมอัดเม็ด และไอศกรีม ขายหมดอย่างรวดเร็ว ย้ำในการส่งออก อย่าลืมใช้ FTA เปิดทาง และการผลิตสินค้าต้องได้คุณภาพ มาตรฐาน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและจำหน่ายสินค้าแบบจัดถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ (Live Sale) โดยได้นำผู้ประกอบการนมโคแปรรูปของไทยที่ผ่านการคัดเลือก 5 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เชียงใหม่ เฟรชมิลค์ จำกัด 2.บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจ เพื่อสังคม จำกัด 3.บริษัท บุณยเกียรติไอศกรีม จำกัด 4.บริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด และ 5.สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด มาร่วมจับคู่ธุรกิจและจัด Live Sale บนแพลตฟอร์มเถาเป่าที่มีชื่อเสียงของจีนเป็นครั้งแรก ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยสินค้านมแปรรูปของไทย ได้แก่ นม UHT นมอัดเม็ด และไอศกรีม ที่ได้รับมาตรฐานส่งออก Est. ของกรมปศุสัตว์ไทย และผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) แล้ว ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
“การจัดกิจกรรรมครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้โครงการ 'โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA' ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 และในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงได้เพิ่มกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และการทำ Live Sale ผ่านระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มเถาเป่าขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้เชิญนายภากร ธนศรีวนิชชัย นักแสดงชายไทยที่เป็นที่นิยมและมีแฟนคลับในจีนจำนวนมาก มาเป็น Influencer ทำ Live Sale ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างมาก และได้กดสั่งซื้อสินค้าจนสามารถจำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็ว”
นายสินิตย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) บุกตลาดต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จาก FTA อาเซียน-จีน ซึ่งได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้านมโคแปรรูปที่ส่งออกจากไทยแล้ว เพื่อเพิ่มแต้มต่อขยายตลาดส่งออก และยังได้กระตุ้นให้ผู้ประกอบการตื่นตัวในการพัฒนาสินค้า และใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งยกระดับการผลิตสินค้านมโคแปรรูปให้ได้คุณภาพมาตรฐาน
นอกจากนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศยังได้ทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิด โดยได้ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งเพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการนมโคแปรรูปที่ต้องการส่งออกไปตลาดจีน เน้นย้ำการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและจีน ซึ่งแม้กระบวนการในการตรวจสอบความปลอดภัยและมาตรฐานของสำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) จะใช้เวลามาก แต่ถือว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรถึง 1,400 ล้านคน และผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง
ปัจจุบันไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 7 ของโลก โดยในปี 2564 ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดโลกมูลค่า 582.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.5% โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อาเซียน ส่วนแบ่งตลาด 83.5% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมทั้งหมดของไทย ฮ่องกง ส่วนแบ่งตลาด 4.5% จีน ส่วนแบ่งตลาด 4.2% กานา ส่วนแบ่งตลาด 1.8% และญี่ปุ่น ส่วนแบ่งตลาด 1.2% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นม UHT นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม และนม ครีมที่ไม่เติมน้ำตาล
