- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 27 January 2022 22:50
- Hits: 13622
DBD ธันวาคม 2564 จำนวน 3,705 ราย โดยมีมูลค่าทุน 18,301.28 ล้านบาท
การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนธันวาคม 2564 และปี 2564
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนธันวาคม 2564 และปี 2564 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนธันวาคม 2564
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนธันวาคม 2564 จำนวน 3,705 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 18,301.28 ล้านบาท
- ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 390 ราย คิดเป็น 11% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 250 ราย คิดเป็น 7% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจในภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 126 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 2,546 ราย คิดเป็น 68.72% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,065 ราย คิดเป็น 28.74% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 77 ราย คิดเป็น 2.08% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 17 ราย คิดเป็น 0.46% ตามลำดับ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่ปี 2564
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ ปี 2564 จำนวน 72,958 ราย เมื่อเทียบกับปี 2563 จำนวน 63,340 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 9,618 ราย คิดเป็น 15% และเมื่อเทียบปี 2562 จำนวน 71,485 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,473 ราย คิดเป็น 2%
- ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 7,029 ราย คิดเป็น 10% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 3,386 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร จำนวน 2,258 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 229,808.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 จำนวน 235,278.75 ล้านบาท ลดลงจำนวน 5,470.22 ล้านบาท คิดเป็น 2.32% และเมื่อเทียบกับปี 2562 จำนวน 327,470.24 ล้านบาท ลดลงจำนวน 97,661.73 ล้านบาท คิดเป็น 30%
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 54,915 ราย คิดเป็น 75.27% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน16,881 ราย คิดเป็น 23.14% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 1,022 ราย คิดเป็น 1.40% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 140 ราย คิดเป็น 0.19%
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนธันวาคม 2564
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนธันวาคม 2564 มีจำนวน 5,709 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 22,243.95 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 450 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 245 ราย คิดเป็น 4% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 149 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 4,044 ราย คิดเป็น 70.83% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 1,353 ราย คิดเป็น 23.70% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 294 ราย คิดเป็น 5.15% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 18 ราย คิดเป็น 0.32% ตามลำดับ
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการปี 2564
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำปี 2564 มีจำนวน 19,326 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 384,376.83 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
- ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,535 ราย คิดเป็น 8% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,035 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 575 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 13,620 ราย คิดเป็น 70.48% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 4,685 ราย คิดเป็น 24.24% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 932 ราย คิดเป็น 4.82% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 89 ราย คิดเป็น 0.46% ตามลำดับ
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนธันวาคม 2564
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 809,110 ราย มูลค่าทุน 19.57 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 196,530 ราย คิดเป็น 24.29% บริษัทจำกัด จำนวน 611,262 ราย คิดเป็น 75.55% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,318 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 478,634 ราย คิดเป็น 59.15% รวมมูลค่าทุน 0.42 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 239,868 ราย คิดเป็น 29.65% รวมมูลค่าทุน 0.81 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.12% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 73,968 ราย คิดเป็น 9.14% รวมมูลค่าทุน 2.03 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.36% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,640 ราย คิดเป็น 2.06% รวมมูลค่าทุน 16.32 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.37% ตามลำดับ
การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนธันวาคม 2564
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล และ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวก เพื่อลดต้นทุนลดเวลาและลดการใช้กระดาษโดยพัฒนางานบริการทุกกระบวนการของกรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ใช้บริการยื่นขอรับบริการได้ทุกที่ ทุกเวลาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และประกาศกรมเรื่องการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
การบริการหนังสือรับรองข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์และผลักดันการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ยกระดับการเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล โดยการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) มาให้บริการ ซึ่งการบริการ e-Service เป็นการบริการขอหนังสือรับรองผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปี 2564 (ม.ค. - ธ.ค.) มีจำนวนขอรับข้อมูล 3,016,509 ราย ซึ่งผ่านช่องทาง Self Pick up มีจำนวน 1,257,482 ราย , EMS จำนวน 535,832 ราย , Delivery จำนวน 11,801 ราย และการออกหนังสือรับรองรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Certificate File) จำนวน 1,211,394 ราย และรองรับการให้บริการหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติและสมาคมการค้า หนังสือรับรองภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ การขอรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากผ่านทาง www.dbd.go.th แล้ว สามารถขอรับบริการผ่านApplicationDBD e- Service ได้ทั้งระบบ Android และ iOS
การให้บริการขอหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ส่วนกลาง) และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 ให้ขอรับบริการได้เฉพาะทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Service) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (www.dbd.go.th) มาตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขยายเวลาการลดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทลง 50% สำหรับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาเฉพาะกิจ (พื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในท้องที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย และจังหวัดสตูล) ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ให้ขยายไปสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566
DBD e - Filing การนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี 2563 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินแล้ว จำนวน 590,934 ราย คิดเป็น 81% ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงิน โดยนำส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 586,643 ราย คิดเป็น 99% และนำส่งในรูปแบบกระดาษ จำนวน 4,291 ราย คิดเป็น 1% ทั้งนี้ การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นสามารถนำส่งได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถตรวจสอบข้อมูลงบการเงินผ่าน DBD Data Warehouse หรือ DBD Service ผ่าน Application ได้อย่างรวดเร็ว
กรมจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจ สมาคมการค้า หอการค้า ที่ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2564 ให้นำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) เป็นหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลงบการเงินประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าระบบ DBD e-Filing จะเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนและสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้ก้าวสู่การค้าในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรม
e-Certificate บริการระบบหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดระบบการให้บริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2555 และผ่านการรับรองระบบพิมพ์ออกฯ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) จึงเป็นนวัตกรรมที่สามารถบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการ ณ สาขาธนาคารใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้รวมทั้งสิ้น 9 ธนาคาร จำนวน 3,220 สาขา
e-Secured จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร ผ่าน Web Application และ Web Service แบบ Host to Host และชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และออกใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) โดยเจ้าพนักงานทะเบียนลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) รวมถึงสามารถตรวจค้นข้อมูลการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ผ่านเว็ปไซต์ www.dbd.go.th และ Application : DBD e-service ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
และผ่านเว็ปไซต์ Biz Portal ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ทั้งนี้ ตั้งแต่ 4 กรกฎาคม 2559 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 654,455 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 12,386,305 ล้านบาท โดยมีการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและใช้ประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สิน
สำหรับ เดือนธันวาคม 2564 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 6,611 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 86,473 ล้านบาท โดยทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ มากที่สุด ได้แก่ สิทธิเรียกร้อง เช่น บัญชีเงินฝาก ลูกหนี้การค้า สิทธิการเช่า คิดเป็นร้อยละ 85.42 (มูลค่า 73,864 ล้านบาท) รองลงมาคือ สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่นเครื่องจักร สินค้าคงคลัง คิดเป็นร้อยละ 14.56 (มูลค่า 12,592 ล้านบาท) กิจการ มีการจดทะเบียน คิดเป็นร้อยละ 0.02(มูลค่า 16 ล้านบาท) ไม้ยืนต้น คิดเป็นร้อยละ 0.001 (มูลค่า 0.63 ล้านบาท) ทั้งนี้ มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 584 คำขอ และจดทะเบียนยกเลิกสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 3,005 คำขอ โดยมีผู้รับหลักประกัน จำนวนทั้งสิ้น 346 ราย
e-Registration การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 -31ธันวาคม 2564 มีการยืนยันการใช้งาน (Activate) จำนวน 132,831 ราย รับจดทะเบียน 55,401 ราย ซึ่งกรมได้มีการเตรียมการพัฒนาระบบให้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการยืนยันตัวตนนิติบุคคลและการใช้ระบบงาน รวมถึงการเชื่อมโยงเพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้แก่ SME ทั้งด้านการเงินและซอฟแวร์ รวมทั้งการให้บริการสำเนาเอกสารทะเบียนนิติบุคคลรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration
DBD Connect เชื่อมระบบบัญชีสู่การยื่นงบการเงินออนไลน์ (DBD e-Filing)
กรมฯ ร่วมกับผู้ผลิตซอฟแวร์บัญชีชั้นนำของประเทศ จำนวน 16 ราย (20 โปรแกรม) พัฒนาการเชื่อมโยงซอฟต์แวร์บัญชีกับระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) แบบอัตโนมัติ ผ่านระบบ DBD Connect อำนวยความสะดวกการจัดทำบัญชีและงบการเงินสำหรับนักบัญชีให้สามารถนำส่งงบการเงิน ในรูปแบบ XBRL ที่เชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีพร้อมนำส่งงบการเงินผ่าน DBD e-Filing ได้โดยตรง และไม่ต้องคีย์ข้อมูลงบการเงินซ้ำ
การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร (Total Solution for SMEs) และ e-Accounting for SMEs
Total Solution for SMEs เป็นการขับเคลื่อน SMEs ด้วยนวัตกรรม โดยส่งเสริมให้ธุรกิจเข้าถึงเทคโนโลยีในการบริหารจัดการธุรกิจที่ครบวงจรได้โดยง่าย เปลี่ยน Traditional SMEs เป็น Smart SMEs ซึ่งกรมได้รวบรวมโปรแกรมด้านการบริหารจัดการทั้ง 3 ภาคส่วนไว้ด้วยกันคือ โปรแกรมสำนักงาน (Office) โปรแกรมหน้าร้าน (POS) โปรแกรมบัญชี online (Cloud Accounting) ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 โปรแกรม
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้แจกฟรี ‘โปรแกรม e-Accounting for SMEs’ ซึ่งเป็นโปรแกรมหน้าร้าน (POS) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าขาย เช่น มี Scanner เพื่อซื้อขายสินค้าในตัว , มีฐานข้อมูลของสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ เป็นต้น โดยร้านค้าสามารถสมัครขอใช้งานโปรแกรม e-Accounting for SMEs ได้ผ่านทางโครงการ Total Solution for SMEs หรือดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store ในระบบ Android
DBD Data Warehouse
กรมได้พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีความสมบูรณ์หลากหลาย และสามารถจัดทำผลวิเคราะห์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจ ประกอบด้วยข้อมูลนิติบุคคล ข้อมูลและวิเคราะห์งบการเงิน ข้อมูลซัพพลายเออร์ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ ข้อมูลโอกาสทางธุรกิจ ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลไทย รวมทั้งข้อมูลสถิติการจดทะเบียน นิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล พร้อมทั้งนำข้อมูลธุรกิจไปสนับสนุนการตัดสินใจในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยในปี 2564 (ม.ค.-ธ.ค.) มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้นจำนวน 9,882,964 ครั้ง