- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 20 November 2014 13:08
- Hits: 2121
พิษจำนำข้าวฉุดส่วนแบ่งตลาดวูบ ฮ่องกงจาก 90%หดเหลือ 40%
แนวหน้า : พิษจำนำข้าวฉุดส่วนแบ่งตลาดวูบ ฮ่องกงจาก 90% หดเหลือ 40%‘พาณิชย์’ทวงคืนมาร์เก็ตแชร์
รมช.พาณิชย์ หารือผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกง 40 ราย ทำแผนดึงส่วนแบ่งตลาดกลับคืน หลังจากราคา 'จำนำข้าว' ทำไทยเสียส่วนแบ่งตลาดไป ด้านผู้นำเข้าแนะไทยจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองเป็นภาษาจีน สร้างความเชื่อมั่น และป้องกันปัญหาปลอมปน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2557 ได้หารือร่วมกับทางคณะผู้ประกอบการ ค้าข้าว 40 ราย จากฮ่องกง ที่ได้เดินทางมาเยือน กระทรวงพาณิชย์ ทราบว่า ขณะนี้ราคาข้าวของไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ เป็นราคาที่ผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกงยอมรับได้ ทำให้ผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกงมีความต้องการข้าวไทย ประกอบกับข้าวหอมมะลิไทยมีคุณภาพดี เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทำให้ผู้นำเข้าข้าวเชื่อมั่นในข้าวไทยมากกว่าข้าวของคู่แข่ง ทั้งสองฝ่ายจึงได้ตกลงกันว่าควรจะมีการทำตลาดข้าวหอมมะลิร่วมกันระหว่างไทยและฮ่องกง ซึ่งจะเป็นการช่วยดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิไทยที่ได้สูญเสียไปก่อนหน้านี้กลับมาได้ โดยตอนนี้เหลือส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิในฮ่องกงเพียง 40-50% จากเดิมที่ไทยเคยครองตลาดอยู่ 90%
ซึ่งการที่ “ส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทยก่อนหน้านี้ลดลงกว่าครึ่ง เพราะข้าวมีราคาแพงขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าวที่รับซื้อข้าวในราคาสูง จึงดันให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง เป็นผลให้ไทยเสียส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิในฮ่องกงไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มภัตตาคาร และร้านอาหารที่ซื้อลดลง และจากการหารือร่วมกันก็เชื่อว่าไทยจะมีโอกาสดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิกลับคืนมาได้”
ทั้งนี้ ผู้นำเข้าได้เสนอให้ไทยเร่งประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพให้กับข้าวหอมมะลิไทย โดยการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยของกรมการค้าต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงขอให้ไทยจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองเป็นภาษาจีน จากเดิมที่ใช้คำภาษาอังกฤษว่า Thai Hom Mali Rice โดยให้จดทั้งในฮ่องกงและจีน เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และการจดทะเบียนเป็นภาษาจีนยังจะเป็นการช่วยป้องกันปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยด้วย อีกทั้งเชื่อว่าจะเป็นแนวทางในการดึงส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทยในฮ่องกงกลับคืนมาได้ อีกทั้งฮ่องกงยังได้เชิญให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่ฮ่องกง ที่จะจัดขึ้นในเดือน ส.ค. 2558 เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้กับผู้บริโภคชาวฮ่องกงด้วย
นอกจากนี้ ไทยยังมีแผนที่จะประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิชนิดอื่นๆ ที่เป็นข้าวคุณภาพดีในแต่ละพื้นที่ของไทย ทั้งข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิท้องถิ่นชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวสังข์หยด เป็นต้น ในตลาดฮ่องกงด้วย ส่วนในตลาดอื่นที่ซื้อข้าวหอมมะลิจากไทย เช่น สิงคโปร์ ก็จะเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน โดยจะทำให้ผู้ซื้อมีความเชื่อมั่นว่าข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวคุณภาพสูง มีมาตรฐานระดับโลกขณะเดียวกัน
นางอภิรดี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการส่งมอบข้าวตามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับคอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน จากการหารือได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ โดยคอฟโกกับผู้ส่งออกสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวได้แล้ว และจะเริ่มส่งออกข้าวลอตที่ 4 ในเดือน ธ.ค.2557 นี้ แต่อาจจะมีบางส่วนเป็นข้าวหอมมะลิ ซึ่งวิธีการคงจะใช้วิธีเดิม โดยให้ผู้ส่งออกไปซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ปี 2557/2558 ไปส่งมอบ
นายวิทยากร มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ประเทศจีน กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่คณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง 40 ราย เดินทางมาเยือนไทย ซึ่งทางคณะผู้นำเข้าได้เข้าร่วมหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าในปี 2588 ไทยจะส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น 2% จากปีนี้
แหล่งข่าวจากวงการผู้ส่งออกข้าว กล่าวว่า สมาคมมีการหารือถึงแนวทางการผลักดันการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยในตลาดฮ่องกง โดยเสนอแนวทางการตั้งกองทุน เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าพรีเมียมให้กับผู้นำเข้าฮ่องกงที่ทำยอดได้สูงตามเป้าหมาย เช่น ทำยอดเพิ่มได้เท่าไร จะได้รับค่าพรีเมียมเท่าไร ซึ่งทั้งหมดนี้ อยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางการตั้งกองทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
พณ.ทวงส่วนแบ่งข้าวฮ่องกงคืน
บ้านเมือง : นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับคณะผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกงจำนวน 40 ราย ที่เดินทางมาเยือนไทยว่า ได้ตกลงที่จะทำตลาดข้าวหอมมะลิไทยในฮ่องกงร่วมกัน เพื่อดึงส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทยให้กลับคืนมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ข้าวหอมมะลิไทยมีราคาแพงขึ้นจากการใช้โครงการรับจำนำข้าวในราคาสูง ทำให้ข้าวไทยราคาแพงกว่าคู่แข่ง จนเสียส่วนแบ่งตลาดในฮ่องกงไป จากเดิมที่เคยครองตลาดอยู่ถึง 90% ได้ลดลงมาเหลือ 40-50% โดยเฉพาะกลุ่มภัตตาคารและร้านอาหารที่ซื้อลดลง
ทั้งนี้ แนวทางในการดึงส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทยในฮ่องกงกลับคืน ผู้นำเข้าได้เสนอให้ไทยเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับข้าวหอมมะลิไทยในด้านคุณภาพ โดยการประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยของกรมการค้าต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และขอให้ไทยจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองเป็นภาษาจีน จากเดิมที่ใช้คำภาษาอังกฤษว่า Thai Hom Mali Rice โดยให้จดทั้งในฮ่องกงและจีน เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น และยังเป็นการป้องกันปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยด้วย
"จากการหารือร่วมกัน เชื่อว่าไทยมีโอกาสที่จะดึงส่วนแบ่งทางการตลาดของข้าวหอมมะลิไทยกลับคืนมาได้ เพราะขณะนี้ระดับราคาข้าวหอมมะลิไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และผู้ซื้อในฮ่องกงยอมรับในราคาได้ ที่สำคัญข้าวไทยมีคุณภาพดี เป็นที่ยอมรับ ผู้นำเข้าจึงมีความเชื่อมั่นมากกว่าข้าวของคู่แข่ง"
นอกจากนี้ ไทยยังมีแผนที่จะประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิชนิดอื่นๆ ในตลาดฮ่องกง เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิท้องถิ่นชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวสังข์หยด เป็นต้น ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีในแต่ละพื้นที่ของไทย ส่วนในตลาดอื่นๆ ที่ซื้อข้าวหอมมะลิจากไทย เช่น สิงคโปร์ ก็จะเดินหน้าเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน โดยจะทำให้ผู้ซื้อมีความเชื่อมั่นว่าข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวคุณภาพสูง มีมาตรฐานระดับโลก
นางอภิรดี กล่าวว่า สำหรับปัญหาการส่งมอบข้าวตามสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับคอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน จากการหารือได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ โดยคอฟโกกับผู้ส่งออกสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวได้แล้ว และจะเริ่มส่งออกข้าวล็อตที่ 4 ในเดือน ธ.ค.57 นี้ แต่อาจจะมีบางส่วนเป็นข้าวหอมมะลิ ซึ่งวิธีการคงจะใช้วิธีเดิม โดยให้ผู้ส่งออกไปซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ปี 2557/2558 ไปส่งมอบ