- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 16 November 2021 06:45
- Hits: 4700
จุรินทร์ ปิดจ๊อบ ปั้น CEO Gen Z ทะลุเป้า 20,000 ราย มั่นใจเพิ่มแม่ทัพการค้ารุ่นใหม่
จุรินทร์ ปิดโครงการ From Gen Z to be CEO โชว์ผลสำเร็จปั้นนักศึกษาเป็น CEO รุ่นใหม่ให้กับประเทศครบ 20,000 ราย ตั้งความหวังเป็นแม่ทัพรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศ ชี้การค้าโลกยุคใหม่ อีคอมเมิร์ซมาแรง ฝากอย่าหยุดเรียนรู้ เพื่อแสวงหาความได้เปรียบในการทำธุรกิจ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานให้โอวาทและมอบประกาศนียบัตร ในพิธีปิดโครงการ From Gen Z to be CEO ที่ Ture Digital Park สุขุมวิท 101 ว่า การจัดโครงการ Gen Z to be CEO เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะเดิมสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ตั้งใจสร้างนักธุรกิจหรือ CEO รุ่นใหม่ให้กับประเทศ ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ได้ซัก 10,000 คน โดยใช้ระบบเทคโนโลยีมาช่วยในการอบรม แต่เริ่มนับหนึ่งเดือนมิ.ย.2563 ก็เริ่มต้นที่ 12,000 คน และมีสมัครมาอีก สุดท้ายขึ้นเป็น 20,000 คน ดำเนินการครบ 20,000 คนแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ทุกคนที่เข้ามาเรียนได้รับความรู้การบริหารจัดการธุรกิจ การผลิตสมัยใหม่ การให้บริการยุค New Normal และการตลาด
“ปัจจุบันเราจะทำแต่เรื่องการผลิตเหมือนสมัยในอดีต แล้วไปหาตลาดไม่ทันแล้ว เพราะมีความเสี่ยง ยุคนี้ต้องใช้ตลาดนำการผลิต เหมือนแนวคิดของกระทรวงพาณิชย์และแนวคิดของวิสัยทัศน์’เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด’ โดย CEO Gen Z ที่ได้รับการอบรมจะมีหลักสูตรต่างๆ และการใช้เทคโนโลยี การบริหารจัดการตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การส่งออกโลกยุคใหม่ จึงเป็นโอกาสดีที่น้องๆ 20,000 คน มีโอกาสเรียนสิ่งเหล่านี้ ถือเป็นโอกาสแรกๆ ที่ได้รับล้ำหน้าหลายคน ได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งของ TRUE , Huawei , Bitkub การเข้าถึงแหล่งทุนจาก EXIM Bank และประโยชน์จากการใช้ TikTok”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า โลกเศรษฐกิจการค้ายุคใหม่ ยุค New Normal หัวใจสำคัญ คือ การใช้เทคโนโลยีช่วยทำการค้า เป็นอีคอมเมิร์ซ ซึ่งการเจรจาการค้าทั้ง FTA ทวิภาคี หรือแบบพหุภาคี ไม่มีข้อตกลงทางการค้าไหนในปัจจุบันที่ไม่ระบุเรื่องอีคอมเมิร์ซ หรือ Digital Economy หรือสัปดาห์ที่แล้ว ประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC เรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล ก็เป็นหัวข้อที่มีความสำคัญ และปีนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพเอเปก รับไม้ต่อจากนิวซีแลนด์ เรื่องนี้ก็ยังสำคัญ และความตกลง RCEP ที่จะมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า ก็มีบทบัญญัติว่าด้วยอีคอมเมิร์ซ
“อยากจะบอกน้องๆ ว่า แม้จะเรียนจบแล้ว แต่ที่สำคัญต้องเรียนเพิ่มเติม ผู้ที่เป็น CEO เชี่ยวชาญทำการค้า ก็จำเป็นต้องศึกษากฎระเบียบ เพื่อแสวงหาความได้เปรียบในการทำธุรกิจการค้ากับโลกต่อไปในอนาคต หลักสูตรปั้น GenZ เป็น CEO จึงทันต่อสถานการณ์และมีความทันสมัยอย่างยิ่ง ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และหวังว่าน้องทุกคนที่ผ่านหลักสูตรนี้จะมีอนาคตที่งดงามต่อไป”
ทั้งนี้ ปี 2564 จะมีนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยจบการศึกษา 290,000 คน คำถาม คือ จะไปทำอะไรหรือจะหางานได้ที่ไหน และปี 2565 อีก 280,000 คน รวม 2 ปีที่เจอวิกฤตโควิด-19 570,000 คน เป็นภาระหนักของรัฐบาลที่จะต้องเข้ามาช่วยให้น้อง ๆ มีงานทำ อย่างน้อยที่สุด 20,000 คนนี้ คิดว่าได้เปรียบไม่แพ้คนอื่น ถือเป็นแต้มต่อและขออวยพรให้น้อง ๆ ทั้ง 20,000 คน ที่เข้าร่วมอบรมสำเร็จได้ดังฝัน ขอให้ทุกคนสามารถก้าวต่อไปเป็นแม่ทัพเจนเนอเรชันใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อทำรายได้ให้กับตัวเอง ครอบครัว องค์กร และประเทศของเราต่อไปในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ได้มอบใบประกาศนียบัตรกับน้อง Gen Z ที่ได้คะแนนสูงสุด 100 อันดับแรก Top 100 students และรางวัล Gen Z Ambassadors สําหรับผู้ที่เป็น 1 ใน 4 คน ที่มีคะแนนสูงที่สุดของประเทศ ประกอบด้วย 1.นายสุวรรณ เขียนภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สํานักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปี 4 2.น.ส.ศิริวิภา พวงจําปี วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลพบุรี ช้ันปี 2 3.นายณัฐดนัย ต้ังหะรัฐ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์ ชั้นปี 3 และ 4.น.ส.พิริยดา ลิมประภัทร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปี 4
******************************************
