- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 03 November 2021 10:40
- Hits: 11441
จุรินทร์ ถกทูตจีน ประสานเร่งเปิด 2 ด่าน พร้อมดันส่งออก 'ไก่-รังนก-ข้าว'
'จุรินทร์'หารือเอกอัครราชทูตจีน ขอให้ประสานเปิดด่านเพิ่มอีก 2 ด่าน ที่ปิดไปช่วงโควิด-19 ทั้งด่านโมฮาน และเส้นทางผ่านแม่น้ำโขง ที่ไปเข้ายูนนาน ตอนใต้ และอนุญาตให้นำเข้าผลไม้ไทยผ่านด่านได้ด้วย พร้อมขอให้เร่งตรวจโรงงานไก่ เพิ่มรายการนำเข้าไก่ ตรวจโรงงานรังนก และนำเข้าข้าวตาม MoU ที่ได้ตกลงกันให้ครบถ้วน เล็งนัดประชุม JC โดยเร็ว ขยายร่วมมือการค้า ลงทุน ความร่วมมือเศรษฐกิจ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ขอเข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ห้องรับรองชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้หารือขอให้จีนเปิดด่าน 2 ด่าน ที่ปิดไปในช่วงโควิด-19 คือ 1.ด่านโมฮาน ที่เป็นด่านทางบก เริ่มต้นจากเชียงของ ทางเหนือของไทย ผ่านบ่อเต็นไปเข้าจีนทางยูนนาน ตอนใต้ 2.เส้นทางผ่านแม่น้ำโขง จากท่าเรือเชียงแสนของไทยไปเข้ายูนนาน ตอนใต้ของจีน ที่ด่านกวนเหล่ย หรือท่าเรือกวนเหล่ยโดยอยากให้เร่งกลับมาเปิดโดยเร็ว
ทั้งนี้ ยังได้ขอเพิ่มเงื่อนไข คือ 1.สำหรับด่านกวนเหล่ย ขอให้จีนอนุญาตนำเข้าผลไม้จากไทยผ่านด่านได้ด้วย 2.การนำเข้าไก่จากไทย โดยไทยมีโรงงานส่งออกไก่ไปจีน 22 โรง แต่ปิดไป 9 โรง ช่วงโควิด-19 ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว ขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งให้ GACC หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร ที่มีหน้าที่มาตรวจโรงงานผลิตไก่ในไทย เพื่ออนุญาตให้นำเข้าจีนได้ต่อไป โดยขอเร่งตรวจโรงงานส่งออกไก่ 9 โรงงาน ผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งขอให้จีนเพิ่มรายการนำเข้าไก่ในส่วนที่ยังไม่อนุญาต เช่น ไก่ทั้งตัวรวมหัว สะบักไก่ ข้อไก่ รวมทั้งเป็ด เป็นต้น
ขณะเดียวกัน เรื่องการนำเข้ารังนกจากไทย ปัจจุบันจีนนำเข้าจากไทยแค่ 2 บริษัท ยังมีอีก 9 ราย ที่ขออนุญาตจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ ขอให้จีนเร่งมาตรวจโรงงานเพิ่ม เพื่อจะได้ส่งออกรังนกไปจีนได้เพิ่มขึ้น และเรื่องข้าว ซึ่งจีนกับไทยมี MoU อยู่ 1 ล้านตัน ซึ่งจีนได้นำเข้าแล้ว 7.2 แสนตัน ค้างอยู่อีก 2.8 แสนตัน จึงขอรบกวนท่านทูตช่วยแจ้งคอฟโก้ ซึ่งเป็นองค์กรนำเข้าข้าวของจีนให้เร่งดำเนินการให้ครบถ้วนตาม MoU ต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นอื่น ๆ ที่ได้มีการหารือ และเห็นตรงกัน คือ ไทยและจีน ต้องการจัดการประชุม JC หรือคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน โดยจะเร่งจัดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ทางการค้าการลงทุนและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน , ไทยและจีนต้องการเร่งให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้ ซึ่งต้องมีสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศเป็นอย่างน้อยให้สัตยาบัน และสมาชิกนอกอาเซียนอย่างน้อย 3 ประเทศให้สัตยาบัน ซึ่งไทยได้ยื่นให้สัตยาบันไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา และจะร่วมมือกันเร่งรัดให้ข้อตกลง RCEP มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศสมาชิกทั้ง 15 ประเทศ
นอกจากนี้ ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน รวมทั้งเรื่องของรถไฟความเร็วสูง ซึ่งท่านทูตจีนได้แจ้งว่ารถไฟจากจีนไปลาวเปิดให้บริการแล้ว และจะร่วมมือกับไทยในการเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางที่จะเชื่อมลาวเพื่อให้ระบบการขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างกัน มีความคล่องตัวและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นโดยเร็ว และไทยกับจีน จะร่วมมือกันในการนำเข้าส่งออกสินค้าระหว่างกัน โดยท่านทูตแจ้งว่ายินดีให้ความร่วมมือในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย พร้อมอำนวยความสะดวกสินค้าอื่น ๆ ด้วย
สำหรับ ความสัมพันธ์ไทย-จีน มีมาต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างกัน มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ ตัวเลขล่าสุด ปี 2563 ไทยกับจีน มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2.49 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับช่วง 9 เดือนปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) มูลค่าการค้าสูงกว่าปี 2563 เยอะมาก ทำไปแล้ว 2.41 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เฉพาะตัวเลขการส่งออกของไทยไปจีน 878,280 ล้านบาท เพิ่ม 27%
การค้าไทย-จีน +32% จุรินทร์ รับไมตรีทูตจีน พร้อมประสานดัน เปิด 2 ด่านด้านยูนนาน เพื่อส่งออกสินค้าไทย ติดตามการซื้อ ข้าว-ไก่ รังนก-ผลไม้ คลี่คลายอุปสรรค ดันส่งเสริมการค้าระหว่างกัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมแถลงข่าวภายหลังเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ขอเข้าเยี่ยมคาระวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ห้องรับรองชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยจีนมีมาต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านการค้าที่มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ ซึ่งในปี 2563 ไทยกับจีนมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2.49 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2564) มูลค่าการค้าสองฝ่ายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าสูงมาก โดยมีมูลค่า 2.41 ล้านล้านบาท ทำให้มูลค่าการค้า +32% เฉพาะตัวเลขการส่งออกของไทยไปจีน 878,280 ล้านบาท +27%
สำหรับ การหารือในครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง ดังนี้
ประเด็นที่ 1 ไทยและจีนเห็นตรงกันว่าจะเร่งจัดการประชุม JC หรือคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันโดยเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ทางการค้าการลงทุนและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน
ประเด็นที่ 2 ไทยและจีนต้องการเร่งให้ RCEP มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะต้องมีสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศ ให้สัตยาบัน และสมาชิกนอกอาเซียนอย่างน้อย 3 ประเทศให้สัตยาบัน ซึ่งไทยได้ยื่นให้สัตยาบันไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา และจะร่วมมือกันเร่งรัดให้ข้อตกลง RCEP มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศสมาชิกทั้ง 15 ประเทศ
ประเด็นที่ 3 ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระหว่างกัน รวมทั้งเรื่องของรถไฟความเร็วสูงด้วย ซึ่งท่านทูตจีนได้แจ้งว่ารถไฟจากจีนไปลาวเปิดให้บริการแล้ว และจะร่วมมือกับไทยในการเร่งสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางที่จะเชื่อมลาวเพื่อให้ระบบการขนส่งสินค้าเข้าออกระหว่างกันนั้นมีความคล่องตัวและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้นโดยเร็ว
ประเด็นที่ 4 ไทยกับจีนจะร่วมมือกันนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างกัน โดยเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่ายินดีให้ความร่วมมือในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย และพร้อมอำนวยความสะดวกสินค้าอื่นๆ ด้วย
“ผมได้หยิบยกเรื่องการค้าระหว่างไทยกับจีนมาหารือเป็นการเฉพาะ รวมทั้งหมด 4 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ขอให้ทางการจีน เปิดด่าน 2 ด่าน ที่ปิดไปในช่วงโควิด คือ (1) ด่านโมฮาน ที่เป็นด่านทางบกเริ่มต้นจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย ทางตอนเหนือของไทย ผ่านบ่อเต็นไปเข้าทางยูนนานตอนใต้ของจีน และ (2) เส้นทางผ่านแม่น้ำโขงจากท่าเรือเชียงแสนของไทยไปเข้ายูนนานตอนใต้ของจีน ที่ด่านกวนเหล่ยหรือท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งปิดไปเพราะโควิดเช่นกัน อยากให้เร่งกลับมาเปิดโดยเร็ว
รวมทั้งเพิ่มเงื่อนไข คือ ขอให้จีนอนุญาตนำเข้าผลไม้จากไทยผ่านด่านกวนเหล่ยได้ ประเด็นที่ 2 การนำเข้าไก่จากไทย เรามีโรงงานส่งออกไก่ไปจีน 22 โรงงาน แต่ในช่วงโควิดปิดไป 9 โรงงาน ขณะนี้สถานการณ์โควิดคลี่คลายแล้ว จึงขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งให้ GACC หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรที่มีหน้าที่มาตรวจโรงงานผลิตไก่ในไทย เพื่ออนุญาตให้นำเข้าจีนได้ต่อไป และเร่งตรวจโรงงานส่งออกไก่ 9 โรงงานผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งขอให้จีนเพิ่มรายการนำเข้าไก่ในส่วนที่ยังไม่อนุญาต เช่น ไก่ทั้งตัวรวมหัว สะบักไก่ ข้อไก่ และเป็ด เป็นต้น
ประเด็นที่ 3 เรื่องการนำเข้ารังนกจากไทย ซึ่งจีนนำเข้าจากไทยแค่ 2 บริษัท แต่ไทยยังมีอีก 9 ราย ที่ขออนุญาตจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ จึงขอให้จีนเร่งตรวจโรงงานเพิ่ม เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกรังนกไปจีนเพิ่มขึ้น และประเด็นที่ 4 เรื่องข้าว ซึ่งจีนกับไทยมี MoU ระหว่างกันอยู่ 1 ล้านตัน ที่จีนจะนำเข้าข้าว โดยจีนได้นำเข้าไป 7.2 แสนตัน ยังคงค้างอยู่อีก 2.8 แสนตัน จึงได้ขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งคอฟโก้ ซึ่งเป็นองค์กรนำเข้าข้าวจากไทย เร่งดำเนินการให้ครบถ้วนตาม MoU ต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยในช่วง 9 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 76,965 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นร้อยละ 31.61 โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปจีน มูลค่า 28,274 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีนมาไทย มูลค่า 48,692 ล้านเหรียญสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ