WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

จีนจ่อซื้อข้าวไทยสัญญา‘รัฐต่อรัฐ’ รวมสองล้านตันพร้อม‘ยางพารา’

       แนวหน้า : รมว.พาณิชย์ หวังใช้ความสัมพันธ์ 'ไทย-จีน' ขายข้าว-ยางพาราให้จีนเพิ่ม ชี้ช่องการทำการค้าจากนี้ต้องเจาะลึกเป็นรายตลาด และรายสินค้ามากขึ้น

    พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลการไปเข้าร่วมงานประชุมเอเปก และหารือด้านการค้ากับจีน เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไทยได้ขอให้จีนช่วยสนับสนุนด้านสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งทางจีนก็ตอบรับพร้อมให้การสนับสนุน อีกทั้งมีโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-จีน ในปี 2558 ไทยและจีนตกลงที่จะจัดกิจกรรมร่วมกัน

   โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นั้น ได้เสนอและรับผิดชอบ 2 เรื่อง คือ การของให้จีนสนับสนุนสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งได้เสนอให้จีนพิจารณาการซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) จำนวน 2 ล้านตัน ผ่านบริษัทคอฟโก้ (รัฐวิสาหกิจของจีน) และการเสนอให้จีนรับซื้อยางจำนวน 2 แสนตัน กำหนดส่งมอบระหว่างปี 2558-2559 คาดให้การเจรจาแล้วเสร็จ

     ส่วนการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลนั้น ตอนนี้อยู่ก็ต้องขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว(นบข.) ที่จะระบายออกมาให้เหมาะสมไม่กระทบกับข้าวใหม่ที่ออกมา

     รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า นอกจากยังได้เสนอให้ สมาคมการค้าไทย-จีน ให้มีการทำงาน และมีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ เช่น การเข้าไปขยายตลาดสินค้าในประเทศจีนมากขึ้น การที่จีนจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เป็นต้น ขณะเดียวกันในวันที่ 19 พ.ย. 2557 นี้ ทางรัฐวิสาหกิจจีนจะเดินทางมาหารือแนวทางการลงทุนอุตสาหกรรมยางพาราในภาคใต้ของไทยด้วย

   “ตอนนี้รัฐบาลจีนได้เริ่มมียุทธศาสตร์ในกาค้า การลงทุนให้ขยายตัวไปให้ทั่วถึงในพื้นที่ประเทศจีน ซึ่งตนก็ได้มีการพูดคุยกับเอกชนไทยบ้างแล้วว่า หลังจากนี้การเข้าไปทำตลาดการค้าที่จีนต้องไปในหลายรูปแบบ เลือกเจาะไปแต่ละเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจีนด้วย”

    นอกจากนี้ ในวันที่ 14 พ.ย. ยังได้หารือร่วมกับตัวแทนเกษตรกร ติดตามความคืบหน้าในการวางยุทธศาสตร์ข้าว ซึ่งได้มีการตั้ง คณะทำงานของกระทรวงพาณิชย์ที่จะช่วยติดตามช่วยเหลือเรื่องข้าว และติดตามถึงสถานการณ์ราคาข้าว ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปัญหาเรื่องความชื้นสูง จากการช่วงก่อนหน้าที่ฝนตกชุกที่ทิ้งท้ายช่วงปลายฤดู ทำให้ผู้ส่งออกและโรงสีรับซื้อต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่ขอความร่วมมือไว้ จึงจะต้องมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาทำความเข้าใจร่วมกันอีกครั้ง แต่ก็เชื่อว่า จากนี้สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ เพราะหมดปัญหาเรื่องฝนแล้ว

'ฉัตรชัย'ตื๊อจีนซื้อข้าว 2 ล้านตัน คาด 2 สัปดาห์ได้ข้อสรุปแจงราคาตกเหตุชื้นสูง

     ไทยโพสต์ : พาณิชย์ *'ฉัตรชัย'จีบคอฟโก้ รัฐวิสาหกิจจีนซื้อข้าวไทยเพิ่ม 2 ล้านตัน ยางอีก 2 แสนตัน คาดได้ข้อสรุปอีก 2 สัปดาห์ แจงราคาหอมมะลิตกต่ำ เหตุข้าวมีความชื้นสูง เพราะฝนตก เตรียมเรียกผู้ส่งออก โรงสี เคลียร์ปัญหาดันราคาอีกรอบ

    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับคอฟโก้ รัฐวิสาหกิจของจีน ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีเดินทางร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) โดยได้เสนอขายข้าวไทย 2 ล้านตันให้พิจารณา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะมีการซื้อขายข้าวล็อตดังกล่าวภายใน 2 สัปดาห์ และหากคอฟโก้ตกลงซื้อข้าวจากไทยเพิ่ม 2 ล้านตัน จะมีการลงนามในระดับรัฐมนตรีระหว่างกันภายในเดือน ธ.ค.นี้ และยังได้เสนอให้จีนซื้อยางพาราจากไทย 2 แสนตันด้วย

    "ได้เสนอให้จีนช่วยเรื่องสินค้าเกษตร ทั้งข้าวและยาง โดยข้าวมีการพูดคุยกันเบื้องต้น ขอให้จีนซื้อเพิ่มอีก 2 ล้านตัน โดยมีกรอบระยะเวลาส่งมอบปี 2558-2559 ส่วนราคาขายให้ยึดตามราคาตลาดโลก ส่วนยางได้พูดคุยกับบริษัทยางของจีน ให้นำเข้ายางจากไทย 2 แสนตันเช่นกัน" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

     พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวถึงการหารือกับตัวแทนเกษตรกร ว่า ได้มีการติดตามความคืบหน้าประเด็นต่างๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับกลุ่มชาวนา 5 เครือข่าย โดยคณะทำงานในกลุ่มชาวนาได้มีการมอบหมายให้ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงานการพูดคุยของกลุ่มเกษตรกร 5 เครือข่าย และยังได้ติดตามการรับจำนำข้าวหอมมะลิยุ้งฉางให้ครอบคลุมกลุ่มสหกรณ์ชุมชนด้วย

     สำหรับ กรณีที่คณะอนุ กรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ระบุว่ามีข้าว เหลือในสต็อก 19.1 ล้านตัน เป็นตัวเลขที่คำนวณถึงเดือน พ.ค. เท่านั้น แต่หลังจากที่ตนมารับ มอบงานในตำแหน่ง รมว.พา ณิชย์ ข้าวในสต็อกได้มีการระบาย ออกคงเหลือเพียง 18 ล้านตัน ซึ่งการระบายจะยึดตามกรอบยุทธศาสตร์ที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมติไว้

   โดยเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรม การพิจารณาการระบายข้าว จะมีการเสนอกรอบการระบายข้าวรอบใหม่ให้ นบข.พิจารณาว่าการระบายข้าวจะกระทบต่อราคาข้าวเปลือกในตลาดที่กำลังทยอยออกมาหรือไม่ หากไม่กระทบ จะทำการระบายข้าวต่อไป

    อย่างไรก็ตาม กรณีข้าวเปลือกหอมมะลิราคาตกต่ำ ไม่เป็นไปตามการขอความร่วมมือกับกลุ่มผู้ส่งออกและโรงสีที่ให้รับซื้อข้าวในราคาตามที่ตกลงไว้ คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 1.5-1.6 หมื่นบาท/ตัน ข้าวสาร 29-30 บาท/กก.นั้น เห็นว่าปัญหาเกิดจากชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวมีความชื้นสูง เพราะเป็นช่วงฝนตกหนัก ทำให้ราคาข้าวไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ แต่หลังจากนี้ เชื่อว่าเมื่อผ่านฤดูฝน ข้าวจะมีความชื้นต่ำลง น่าจะทำให้ราคาข้าวหอมมะลิปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเชิญกลุ่มชาวนา โรงสี และผู้ส่งออกข้าว มาทำความเข้าใจกันใหม่ เพื่อผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเป็นไปตามที่กำหนด.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!