WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1AA1A3MC

MC‘เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ง CEO แม็คกรุ๊ป เปิดกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจปีบัญชี 2564/2565 ประกาศนำแม็คยีนส์ เป็นบริษัทค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ชั้นนำของไทย พร้อมสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น คาดรายได้เติบโตจากปีก่อน ฐานะการเงินแกร่ง ปันผลผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง

       นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ แถลงแผนธุรกิจงวดปีบัญชี 2565 ผ่านระบบออนไลน์ ว่า ‘แม็คกรุ๊ป’ ได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อผลักดันบริษัทให้เป็นบริษัทค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ชั้นนำของไทย และสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีกลยุทธ์หลักในการทำธุรกิจ ดังนี้ 

       1.เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจทั้งในด้านการเงินควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพทางการผลิตสินค้าและบริการเพื่อการเติบโตต่อเนื่อง 2.ขยายฐานการรับรู้แบรนด์และชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ โดยเสริมสร้างความแข็งแรงในการสื่อสาร แบรนด์ สร้างความจดจำในแบรนด์ สร้างความนิยมในผลิตภัณฑ์ และขยายกลุ่มลูกค้า 3.พัฒนาแพลตฟอร์มค้าปลีกชั้นนำ           ด้วยการนำประสบการณ์ที่ดีที่สุดมาให้ผู้บริโภค พัฒนาช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และการเชื่อมต่อกันอย่างมีเสริมศักยภาพ ให้ส่วนงานโอเปอเรชั่น เพื่อยกระดับการให้บริการ รวมทั้งพัฒนากลยุทธ์การเข้าถึงท้องถิ่นด้วยความเข้าใจ 4.การปรับเปลี่ยนการดำเนินงานในองค์กร เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะองค์กรให้กับพนักงาน 5.เพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยีและกระบวนการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) อย่างมีประสิทธิภาพ

       ทั้งนี้ บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับสูง จากการเดินเกมกลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะเจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย, สัดส่วนการขายสินค้า รวมไปถึงการบริหารช่องทางจัดจำหน่ายได้สอดคล้องเหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลาอย่างลงตัว ภายใต้การบริหารจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของภาครัฐที่มีนโยบายและความเข้มข้นแตกต่างกัน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) ยังคงอยู่ระดับสูง 59.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 57.8% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) เพิ่มขึ้นจาก 12.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 13.7% จากประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี โดยสามารถรักษาอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ไว้ได้ในระดับใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อนที่ราว 43% 

       “เชื่อมั่นว่า บริษัทจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในรอบปีบัญชี 2564 จะต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่าและโควิด- 19 ระลอก 4 ที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ส่งผลให้ยอดขาย 2 เดือนแรกของปีบัญชี 2565 ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดลดลงและการฉีดวัคซีนมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนรัฐบาลเตรียมประกาศเปิดเมือง จึงทำให้มั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายเจมส์ กล่าว

      นอกจากนี้ การที่ Mc มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน โดย ณ งวดสิ้นปีบัญชีที่ผ่านมา บริษัทมีเงินสดในมือกว่า 1,864 ล้านบาท จะสนับสนุนให้บริษัทแสวงหาโอกาสในการเติบโตได้เพิ่มขึ้น รวมถึงยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากดูสถิติในอดีตที่ผ่านมานับจากปี 2557 ถึงปัจจุบันพบว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นได้รับอยู่ในระดับ 5-6% ต่อเนื่องทุกปี และจ่ายปันผลสูงกว่านโยบายที่ตั้งไว้ หรือเฉลี่ย จ่ายประมาณ 90% ของกำไรสุทธิ โดยปีล่าสุดจ่ายในอัตรา 98.1% ของกำไรสุทธิสูงกว่านโยบายที่จะจ่ายไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ  โดยงวดครึ่งปีหลังปีบัญชี 2564 จะจ่ายผู้ถือหุ้นอีกหุ้นละ 0.20 บาท

      นายเจมส์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทจะใช้กลยุทธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากสินค้าและบริการของ Mc ซึ่งในส่วนของออนไลน์ นอกจาก mcshop.com ยังมีช่องทางมาร์เก็ตเพลสและพันธมิตรออนไลน์ ทั้ง Shopee, Lazada, และ JD CENTRAL เป็นต้น นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรและหุ้นส่วน   ทางยุทธศาสตร์หลายๆ บริษัท เพื่อสร้างความร่วมมือทางธุรกิจที่จะก่อให้เกิดรายได้หรือกำไรสูงสุดและเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

                การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทางออนไลน์ (Online Engagement) ก็เป็นสิ่งสำคัญ เรามีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิก MC CLUB กว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ MC CLUB ที่สามารถใช้งานได้สะดวกสบายผ่าน LINE OA เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ การทำโปรโมชั่นและบริการพิเศษ รวมถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วม      ของลูกค้าในกิจกรรมต่างๆ จะสนับสนุนการขายผ่านออนไลน์ของบริษัทให้เติบโตต่อเนื่อง สำหรับช่องทางโซเชียลมีเดีย ของบริษัทก็แข็งแรงเช่นกัน เช่น Facebook Page Mc Jeans มีผู้ติดตามประมาณ 1 ล้านคน ในอนาคตคาดหวังว่ายอดขาย   จากช่องทางออนไลน์จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 15% ของยอดขายรวมทั้งหมดของบริษัทจากปีก่อนอยู่ที่ 389 ล้านบาท คิดเป็น 12%  

     “การบริหารจัดการธุรกิจในยามวิกฤต เรายังคงเดินหน้าสร้างความสามารถในการทำกำไร การดำเนินการลดต้นทุนอย่างจริงจังในทุกๆ ส่วนงาน และมุ่งเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ยังคงรักษารายได้ และความสามารถในการทำกำไรของช่องทางออฟไลน์ รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย ของพนักงานที่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญในอันดับแรกของ Mc โดยบริษัทฯได้มีการจัดให้พนักงานได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง” นายเจมส์ กล่าวทิ้งท้าย

   ด้านนายปิยะ โอฬารริกสุภัค ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ  Mc กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีบัญชี 2564/2565 บริษัทฯ คาดว่าจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 80 ล้านบาท โดยจะใช้ดำเนินการขยายทั้งธุรกิจออนไลน์และธุรกิจออฟไลน์ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของธุรกิจออนไลน์ใกล้เคียง15% ตามเป้าที่วางไว้ รวมทั้งมีแผนเปิดสาขาใหม่ รวม 22 สาขา ประกอบด้วย Mc Outlet 15 แห่ง  SHOP 4 แห่งและเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า 3 เคาน์เตอร์ ขณะที่ในอนาคตอีก 2 ปี ข้างหน้าบริษัทวางแผนจะใช้เงินประมาณ 400 ล้านบาท ในการสร้างศูนย์กระจายสินค้าทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์

คุณเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

Highlight

           ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บริหารระดับสูง                        ในบริษัทข้ามชาติมากว่า 30 ปี

           มีประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญด้านแบรนด์แฟชั่น                             ด้านอี-คอมเมิร์ช และด้านการตลาด

ประสบการณ์การทำงาน

           ปัจจุบัน : รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MC”

           2015-2021 : ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Minor Lifestyle

           2004-2015: J&J/ ManCom Asia Pacific  (ASEAN & North Asia)

           1995-2003: Coca-Cola/ เกาหลีใต้ จีน ฟิลิปปินส์

           1988-1994: P&G ประเทศไทย

การศึกษา

           ปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์: Syracuse University, New York U.S.A

           ปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์: Syracuse University, New York U.S.A

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!