- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 12 November 2014 22:07
- Hits: 1983
พาณิชย์ ย้ำห้ามอ้างค่าแก๊สขึ้นราคาจานด่วน ชี้อาหารต้นทุนเพิ่มแค่จานละบาท
แนวหน้า : พาณิชย์ย้ำห้ามอ้างค่าแก๊สขึ้นราคาจานด่วน ชี้อาหารต้นทุนเพิ่มแค่จานละบาท แต่ยอมรับดีเซลขยับกระทบขนส่ง
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมการจำหน่ายร้านอาหารปรุงสำเร็จ ณ ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ จ.นนทบุรี ว่า กรมการค้าภายใน มีการติดตามราคาอาหารปรุงสำเร็จอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเขตชุมชน ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามผู้ประกอบการร้านอาหาร ยอมรับว่าการปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มในทุกเดือน มีผลกระทบต่อราคาอาหารจริง แต่ไม่มากถึงขั้นปรับขึ้นราคาอาหารในขณะนี้ โดยยังยืนยันว่าสามารถขายอาหารในราคาเดิมได้ ซึ่งภาพรวมราคาอาหารยังอยู่ที่จานละ 30 บาท ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ราคาผักสด เนื้อหมู เนื้อไก่ ก็ยังราคาทรงตัว และมีแนวโน้มที่ราคาวัตถุดิบอาจปรับลดลง
“ปัจจุบันผู้ประกอบการระบุว่าตนซื้อแก๊สหุงต้มถัง 15 กก. ในราคา 360 บาท โดยแก๊ส 1 ถังสามารถทำอาหารได้เฉลี่ย 300 จาน ซึ่งทางกรมก็มีการวิเคราะห์แล้วว่าการขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม 1 บาทต่อกก. จะกระทบราคาอาหาร 3-5 สตางค์ต่อจานเท่านั้น และแก๊ส 1 ถังทำให้ต้นทุนอาหารเพิ่มเพียง 15 บาท และเมื่อรวมกับค่าต้นทุนภาพรวมก็เชื่อว่ามีผลต่ออาหารปรุงสำเร็จประมาณ 1 บาทต่อจาน ดังนั้น จึงอยากขอความร่วมมือว่าไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างในการขึ้นราคาอาหาร”
สำหรับ เรื่องของการที่จะมีการปรับโครงสร้างพลังงานนั้น ยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า อาหาร โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ที่จะกระทบกับต้นทุนภาคการขนส่ง เนื่องจากรถบรรทุกสินค้าส่วนใหญ่กว่า 96% ใช้น้ำมันดีเซล แต่ทั้งนี้ ทางกรมยังไม่สามารถชี้แจงถึงรายละเอียดผลกระทบต่อการปรับตัวของราคาอาหาร และราคาสินค้าได้ว่าจะมากหรือน้อยอย่างไร เนื่องจากต้องรอผลการหารือพิจารณาที่ชัดเจนก่อน กรมจึงจะสามารถดำเนินการเรื่องต่างๆ ได้
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนต.ค. 2557 ที่ผ่านมา มีผู้บริโภคร้องเรียนเฉพาะเรื่องอาหารปรุงสำเร็จแพงเข้ามาที่กรม 12 ราย และตั้งแต่ม.ค.-ต.ค. มีผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมา 198 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยกรมไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้ และในแต่ละวันกรมส่งสายตรวจ 10 สาย ออกตรวจอยู่ประจำทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดก็มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจอยู่ต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบดูแลป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาอาหาร หรือขายอาหารในราคาที่แพงเกินจริง ซึ่งหากพบว่าราคาไม่สอดคล้องกับต้นทุน เข้าข่ายการความผิด ก็จะมีมาตรการจัดการ โดยขั้นแรกจะเป็นการตักเตือน เพื่อให้แก้ไข แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็จำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าจัดการ ซึ่งจะมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา
“ทางกรมไม่ได้ต้องการจะเข้าไปบังคับ หรือเข้าไปควบคุมผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ แต่หากพบการกระทำที่เข้าข่ายการฉวยโอกาสต่อผู้บริโภคก็ต้องมีการใช้มาตรการ ขั้นแรกคือจะตักเตือนและให้มีการแก้ไขก่อน แต่หากเขายังไม่ยอมให้ความร่วมมือก็จำเป็นต้องมีการใช้กฎหมายเข้ามาช่วย ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท จำคุก 7 ปี อีกทั้งยังมีเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ที่จะเป็นตัวทางเลือกให้ผู้บริโภค หากพบว่าไม่มีการปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท”
พาณิชย์ เช็กราคาจานด่วนทั่วไทย ส่งสายตรวจลงพื้นที่-ยังไม่พบสินค้าขอขึ้น
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์ส่งสายตรวจเช็กราคาอาหารจานด่วนทั่วประเทศ ป้องกันพ่อค้าแม่ค้าเอาเปรียบ เหตุต้นทุนในการผลิตไม่ได้ปรับขึ้น ส่วนราคาก๊าซหุงต้มยังกระทบเล็กน้อย ยันทั่วประเทศมีร้านหนูณิชย์พาชิมแล้วกว่า 2 พันแห่ง ช่วยดึงราคาจานด่วนได้ จับตาปรับโครงสร้างพลังงาน หวั่นดันต้นทุนสินค้า เผยแม้ใกล้พ้นช่วงตรึงราคา แต่ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดยื่นขอปรับขึ้น
นายบุณยฤทธิ์ กัลยา ณมิตร อธิบดีกรมการค้าภาย ใน เปิดเผยภายหลังการตรวจสถานการณ์การจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ณ ร้านอาหารข้าวแกงปักษ์ใต้ ถ.ติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจของกรมการค้าภายในออกสุ่มตรวจราคาอาหารปรุงสำเร็จทั่วประเทศ เพื่อติดตามดูแลราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคหรือฉวยโอกาสขึ้นราคา จนกระทบต่อ ค่าครองชีพของประชาชน เนื่องจากต้นทุนในการผลิตอาหารไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น
"จากการสำรวจพบว่า ร้านค้ายังขายอาหารปรุงสำ เร็จตามราคาแนะนำ คือ กับ ข้าว 2 อย่าง 30-35 บาท แต่ยอมรับมีบางพื้นที่ที่ขายอาหารราคาสูง เพราะต้นทุนค่าเช่าที่สูง บางแห่งใช้วัตถุดิบราคาแพง ซึ่งก็ต้องเห็นใจผู้ประกอบการด้วยเช่นกัน" นายบุณยฤทธิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละพื้นที่ก็มีร้านอาหารปรุงสำเร็จและร้านหนูณิชย์พาชิมที่จะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาถูกเมนูละ 25-35 บาท ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิมแล้วกว่า 2,019 ร้านค้าทั่วประ เทศ
ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มที่ได้ปรับขึ้นมาต่อเนื่องทุกเดือนนั้น มีผลกระทบต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จเพียง 3 สตางค์ต่อจานเท่านั้น จึงไม่มีเหตุผลในการใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาอาหาร
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า กรมกำลังติดตามการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของกระทรวงพลังงานที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.2557 อย่างใกล้ชิด รวมทั้งรอมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า จะมีการปรับโครงสร้างอย่าง ไรบ้าง เพราะอาจมีผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้า โดยเฉพาะหากมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล จะกระทบต่อการ ขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เช่น ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ประ กอบการใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาสินค้าได้
นอกจากนี้ ในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ จะหมดมาตรการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้า ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประ กอบการรายใดยื่นขอปรับราคาสินค้าเข้ามา และเชื่อว่าหากต้นทุนไม่เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าจะยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในมีการรายงานสถิติการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายใน โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 6 พ.ย.2557 มีการร้องเรียนแล้วกว่า 1,156 ราย ในจำนวน 1,156 ราย เป็นการร้องเรียนหมวดอาหารและเครื่องดื่มมากสุด 454 ราย รองลงมา เป็นหมวด สินค้าเกษตร 150 ราย ปิโตร เลียม 198 ราย หมวดบริการ 30 ราย โดยพฤติกรรมที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคา 325 ราย จำหน่ายสินค้าราคาแพง 273 ราย ทำผิด พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 182 ราย เป็นต้น.
ขึ้นดีเซลกระทบต้นทุนสินค้า
บ้านเมือง : นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ร้านข้าวแกง ย่านกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี โดยระบุว่าการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จย่านชุมชนส่วนใหญ่ยังอยู่ในราคาแนะนำไม่เกินจานละ 35 บาท แต่ยอมรับว่าได้รับการร้องเรียนมายังสายด่วน 1569 บ้าง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับอาหารปรุงสำเร็จรวม 198 ราย ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ขณะเดียวกันจะมีสายตรวจลงพื้นที่ย่านชุมชนทั่วประเทศออกตรวจสอบเป็นรายวัน พร้อมใช้มาตรการขั้นต้นตั้งแต่การตักเตือนจนถึงใช้มาตรการทางกฎหมาย หากพบไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับ 10,000 บาท ถ้าจำหน่ายแพงเกินสมควรจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยไม่สามารถใช้เหตุจากราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้นมาอ้างขอปรับขึ้นราคาได้ เพราะการปรับราคาก๊าซที่ผ่านมา 4.50 บาทต่อถังกระทบต้นทุนต่อจานเพียง 20 สตางค์เท่านั้น
ทั้งนี้ ประชาชนยังมีทางเลือกในการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จที่จำหน่ายราคาแนะนำไม่เกินจานละ 35 บาท ตามโครงการหนูณิชย์พาชิมที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศแล้วกว่า 2,000 ร้าน แบ่งเป็นเขตปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร 1,600 ร้าน และต่างจังหวัดกว่า 400 ร้าน โดยสามารถตรวจสอบร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.noonid.dit.go.th
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งจะมีผลต่อการปรับขึ้นราคาน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลนั้น ยอมรับว่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้า เพราะเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้กับรถบรรทุกสินค้าส่วนใหญ่ แต่ราคาน้ำมันดีเซลยังตรึงอยู่ที่ลิตรละ 29.99 บาท จึงไม่มีผลกระทบในขณะนี้ ซึ่งหากมีมติให้ปรับขึ้นจริงจะมีการวิเคราะห์ต้นทุน เพื่อให้ทราบผลกระทบชัดเจนแต่ละกลุ่มสินค้า แต่การปรับขึ้นราคาสินค้า ผู้ประกอบการจะต้องยื่นหนังสือขอปรับขึ้นราคามายังกรมการค้าภายในก่อนทุกครั้ง
ขณะที่นายพระขรรชัย ศรีภวาทีกุล ประธานศูนย์บริการส่งออกโบ๊เบ๊ เปิดเผยว่า ผลพวงจากสถานการณ์การเมืองในประเทศประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ยังมีปัญหา ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าแฟชั่นไทยตลอดปีนี้ แม้เหลืออีก 1 เดือนเศษที่จะเร่งส่งออกเพิ่มขึ้นได้ แต่คาดว่าจะยังทำได้จริงต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15
