- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 11 November 2014 19:27
- Hits: 2304
พาณิชย์ ตั้งเป้าส่งออกตลาดอาเซียนปี 58 โต 5.9% รับ AEC หวังขับเคลื่อนส่งออกทั้งปี
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมจัดทำเป้าหมายส่งออก ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์และกิจกรรม ตามนโยบายพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรมว.พาณิชย์ ในการขับเคลื่อนการส่งออกในปี 2558 ว่า จากผลการหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกตลาดภูมิภาคอาเซียนขยายตัว 5.9% หรือ มีมูลค่า 63,554 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในแผนยุทธศาสตร์นั้น กรมฯจะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของไทยในอาเซียนเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) มุ่งรักษาตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ควบคู่กับการขยายตลาดสินค้าประเภทนวัตกรรม มีแบรนด์ มีดีไซน์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยเพื่อสามารถแข่งขันในเวทีอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ภายใต้กลยุทธ์ในการดำเนินการนั้น จะเร่งส่งเสริมการย้ายฐานผลิตของไทยไปยังสมาชิกอาเซียน เพื่อผลิตสินค้าป้อนตลาดในประเทศและลดต้นทุนการผลิตในการส่งออกไปตลาดอาเซียนและตลาดประเทศที่สาม โดยการเข้าไปใช้ประโยชน์จากค่าแรงที่ถูกวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์และสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่ประเทศในกลุ่ม CLMV ได้รับในการส่งออกไปประเทศพัฒนาแล้ว การส่งเสริมการตลาด และจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจ เพื่อให้สินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับ เพื่อรักษาและขยายส่วนแบ่งตลาดนอกจากนี้จะส่งเสริมการค้าและลงทุนตามแนวเส้นทางเชื่อมโยงทางกายภาพภายใต้กรอบอาเซียน(ระเบียงเศรษฐกิจ-economic corridors) และให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาเชิงลึกเพื่อเสริมสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการในการเข้าสู่ตลาด
นางนันทวัลย์ กล่าวถึงสินค้าและบริการเป้าหมายในตลาดอาเซียนว่า สินค้าหลักอยู่ในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ(ไม่รวมทอง) อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติก กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ยานยนต์และชิ้นส่วน วัสดุก่อสร้าง และเครื่องสำอาง โดยจะจัดกิจกรรม อาทิ เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศ จัดงานแสดงสินค้าไทย(Thailand Week) จัดงานส่งเสริมการขายในห้าง/ซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำณ จุดขาย นำคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจ เป็นต้น รวม 51 งาน โดยคาดว่าสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 20%
"ปี 58 จะเน้นการทำตลาดอาเซียนเป็นหลัก เนื่องจากมีสัดส่วนการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 อีกทั้งเป็นปีที่จะเปิดเออีซีอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นระหว่างนี้จนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น จะเปิดรับผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก 250 ราย เพื่อเข้าร่วมงานไทยแลนด์ วีค 2015 ณ กรุงย่างกุ้ง โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 14 - 18 มกราคม 2558 ส่วนที่ประเทศกัมพูชาจะเปิดรับเพียง 180 ราย จนถึง 27 พฤศจิกายนนี้ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2558ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา" นางนันทวัลย์ กล่าว
สำหรับ เมียนมาร์ในแผนยุทธศาสตร์จะมุ่งส่งเสริมการค้าชายแดน ตามนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง การส่งออกวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจบริการแฟรนไชส์โดยในภาพรวมคาดว่าตลาดปี 58 จะขยายตัว20%หรือมีมูลค่า 5,455 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนกัมพูชา จะเร่งรัดธุรกิจบริการ เพื่อเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์และต่อยอดการส่งออกสินค้าไทยอื่นๆ ควบคู่ไปกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนด้านธุรกิจบริการโรงแรม โรงพยาบาล คาดว่าตลาดจะขยายตัว 10%หรือ มีมูลค่า 5,150 ล้านเหรียญสหรัฐ
อินโฟเควสท์
ดันส่งออกอาเซียนโต 6% ชูเอกชนใช้ประโยชน์ AEC
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * พาณิชย์ตั้งเป้าดันส่งออกอาเซียนปี 2558 โต 5.9% ดันผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากเปิดเออีซีให้มากที่สุด
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากผลการหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน กรมตั้งเป้าหมายส่งออกตลาดภูมิภาคอาเซียนขยายตัว 5.9% หรือมีมูลค่า 63,554 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยแผนยุทธศาสตร์นั้น กรมจะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของไทยในอาเซียนเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) มุ่งรักษาตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ควบคู่กับการขยายตลาดสินค้าประเภทนวัตกรรม มีแบรนด์ มีดีไซน์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย
สินค้าและบริการเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติก กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ยานยนต์และชิ้นส่วน วัสดุก่อ สร้าง และเครื่องสำอาง โดยจะ จัดกิจกรรม เช่น เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ จัดงานแสดงสินค้าไทย (Thailand Week) จัดงานส่งเสริมการขายในห้าง/ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ณ จุดขาย นำคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาธุรกิจ เป็นต้น รวม 51 งาน คาดว่าสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวสูงสุดถึง 20%.