- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 27 February 2021 13:33
- Hits: 15166
จุรินทร์ แจ้งความคืบหน้าคดี'ถุงมือยาง'ใกล้รู้ตัวคนผิด พร้อมสั่งผอ.ใหม่ร่วมมือป.ป.ช.เต็มสูบ
จุรินทร์ แจ้งความคืบหน้าการจัดการปัญหาการทุจริตจัดซื้อถุงมือยางของ อคส. ล่าสุด คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงใกล้ได้ข้อสรุป คาดชี้ตัวผู้กระทำความผิดได้เร็วๆ นี้ เผยหากรู้ชัด จะตั้งกรรมการชี้โทษ และชี้ความรับผิดชดใช้ความเสียหาย พร้อมมอบผอ.อคส.คนใหม่ ร่วมมือป.ป.ช.เต็มที่ ทั้งการเอาคนผิดมาลงโทษ และตามเงิน 2,000 ล้านบาทคืน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการดำเนินการเกี่ยวกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า หัวใจสำคัญที่เป็นภารกิจที่ได้ติดตามมาโดยตลอด คือ การเร่งรัดนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วและทำอย่างไรเอาเงินคืน อคส. ให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ขั้นตอนกระบวนการที่นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส. คนใหม่กำลังเร่งรัดดำเนินการ คือ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยได้ดำเนินการแล้ว
และได้รับรายงานล่าสุดว่า คาดว่าจะเสร็จเร็วๆ นี้ ถ้ากรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ชี้ลงไปว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 2 ชุด เพื่อชี้โทษ และอีกชุดหนึ่งเพื่อชี้ความรับผิดชดใช้ค่าเสียหายว่าใครต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับ อคส. จำนวนเท่าใด เป็นกลไกที่จะต้องปฏิบัติโดยเร็วให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อคส.
ส่วนเรื่องของบอร์ดหรือกรรมการบริหารนั้น ผู้อำนวยการคนใหม่ได้ยื่นเรื่องให้กับ ป.ป.ช. ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.2563 และ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว รวมทั้งอายัดเงินในบัญชีต่างๆ เสร็จสิ้นก่อนหน้านี้นานแล้ว จากนี้ไปเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.จะดำเนินการพิจารณาชี้มูลว่ามีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือกระทำการโดยมิชอบบ้าง เพราะ ป.ป.ช.มีอำนาจตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงานทุกคน รวมถึงบอร์ด หรือรัฐมนตรี
“ผมได้สั่งการให้ อคส. ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ว่าต้องให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.อย่างเต็มที่ เพื่อเร่งรัดในการเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และเอาเงินมาคืนให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โดยไม่มีการละเว้นผู้ใดทั้งสิ้น และเป็นเรื่องที่บอร์ดหรือประธานบอร์ดจะต้องพิจารณาว่ายังสมควรที่จะทำหน้าที่อยู่ต่อไปหรือไม่”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการระงับสัญญาได้รับแจ้งจากผู้อำนวยการคนใหม่ว่าฝ่ายกฎหมายได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วว่าสัญญาทุกสัญญาเป็นโมฆะ เพราะผู้ลงนามในสัญญาลงนามเกินอำนาจหน้าที่ เนื่องจากเป็นเงินเกินกว่า 50 ล้านบาท และไม่ผ่านบอร์ดและสัญญาก็ไม่ผ่านอัยการ เป็นต้น และเท่าที่ได้รับรายงานนั้น แต่ละสัญญาก็มีข้อบกพร่อง เช่น ผู้ลงนามแทนบริษัทไม่มีอำนาจหรือบางกรณีเซ็นไปแล้ว ไม่มีตราประทับบริษัทที่จดทะเบียนไว้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผลให้สัญญาเป็นโมฆะ นี่เป็นความเห็นเบื้องต้นของฝ่ายกฎหมาย
“เพราะฉะนั้น 112,500 ล้านบาท ที่อยู่ในสัญญา ก็เสมือนไม่ได้มีนิติกรรมผูกพันกับ อคส. สัญญานั้นไม่เกิดขึ้น ภารกิจที่เหลือ คือ ทำอย่างไรที่จะเอาเงิน 2,000 ล้านบาท ที่อดีตรักษาการผู้อำนวยการโอนไปให้กับบริษัทนั้นคืนมาให้ได้โดยเร็วที่สุดโดย ป.ป.ช.ได้อายัดบัญชีเหล่านั้นแล้ว”นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับ การทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นรักษาการผู้อำนวยการ อคส. เมื่อเดือนส.ค.2563 โดยได้ทำสัญญากับการ์เดียนโกลฟส์ ผู้ผลิต และผู้ซื้อถุงมือยางจาก อคส. เพื่อไปขายต่ออีก 7 ราย และได้นำเงินของ อคส. 2,000 ล้านบาทจ่ายให้การ์เดียนโกลฟส์เป็นค่ามัดจำสินค้า โดยไม่ผ่านการพิจารณาของบอร์ด อคส. ถือว่าผิดกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เป็นการกระทำโดยมิชอบ ส่งผลให้บอร์ด อคส. มีมติให้นายเกรียงศักดิ์ ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งผู้อำนวย อคส. คนใหม่เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2563 ทำหนังสือถึงดีเอสไอ , ป.ป.ช.พิจารณาความผิด และส่งเรื่องให้ ปปง. อายัดเงิน 2,000 ล้านบาท รวมถึงให้ระงับการดำเนินการตามสัญญาทั้งหมด
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ