- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 27 December 2020 15:59
- Hits: 6365
พาณิชย์ รับสมัครผู้ส่งออกอาหาร-อาหารแปรรูป เจรจาการค้าออนไลน์กับห้างดังญี่ปุ่น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รับสมัครผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มอาหารและอาหารแปรรูป เข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์กับ Beisia ห้างชื่อดังญี่ปุ่น ช่วงปลายเดือนม.ค.64 หลังจากจัดครั้งแรกเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สินค้าไทยขายได้เพียง ทำยอดได้กว่า 50 ล้านบาท
นายกิตติวัฒน์ ปัจฉิมนันท์ อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้กำหนดจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างซุปเปอร์มาร์เก็ต Beisia กับผู้ประกอบการไทยในสินค้ากลุ่มอาหารและอาหารแปรรูป ในช่วงปลายเดือนม.ค.2564 เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น
“ขณะนี้ สำนักงานฯ ได้มีการประสานกับทาง Beisia เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการรับสมัครผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าในกลุ่มอาหารให้เข้าร่วมกิจกรรม โดยสามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 ม.ค.2564 และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0 2507 8219 หรือทางอีเมล [email protected]”
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ที่จะถึงนี้ เป็นการจัดต่อเนื่อง หลังจากที่เคยจัดมาแล้วในวันที่ 25 พ.ย.2563 ซึ่งผลการเจรจามียอดการสั่งซื้อกว่า 50 ล้านบาท โดยสินค้าที่ Beisia ให้ความสนใจ ได้แก่ เบียร์ , น้ำผลไม้ , แยม , ผลไม้แช่แข็ง , ผลไม้อบแห้ง , อาหารกระป๋อง (ปลาแมกเคอเรล , ทูน่า , ปลาเข็ม , ปลาซาร์ดีน , ข้าวโพด) , ทูน่าต้ม , อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน , ไก่แปรรูป , ขาไก่สำหรับใช้ทำคาราเกะ , ขาไก่ติดกระดูก (ไม่ผ่านความร้อน , แช่แข็ง) และไก่สำหรับทำยากิโทริ (ไม่ผ่านความร้อน)
ปัจจุบัน Beisia มีสาขาทั้งหมด 141 สาขา ใน 15 จังหวัด กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น มียอดขายกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี และมีการนำเข้าสินค้าไทยประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี
สำหรับ ตลาดญี่ปุ่น เป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 ของไทย ในปี 2562 การส่งออกสินค้าไทยไปญี่ปุ่น มีมูลค่า 760,000 ล้านบาท และการส่งออกในช่วง 11 เดือนปี 2563 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 645,000 ล้านบาท
DITP รุกตลาดญี่ปุ่นต่อเนื่องจัดเจรจาการค้าออนไลน์ เร่งส่งออกสินค้าไทยเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ
นายกิตติวัฒน์ ปัจฉิมนันท์ อัครราชฑูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว จับมือซุปเปอร์มาร์เก็ต Beisia เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดญี่ปุ่นเพิ่มเติม กำหนดจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 จากที่เคยจัดมาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 วันเดียวมียอดสั่งซื้อกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน Beisia มียอดขายกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยนำเข้าสินค้าไทยประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี สำหรับสินค้าไทยที่มีศักยภาพ และ Beisia ให้ความสนใจในครั้งนี้ ได้แก่ เบียร์, น้ำผลไม้, แยม, ผลไม้แช่แข็ง, ผลไม้อบแห้ง, อาหารกระป๋อง (ปลาแมกเคอเรล, ทูน่า, ปลาเข็ม, ปลาซาร์ดีน, ข้าวโพด), ทูน่าต้ม, อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน,
ไก่แปรรูป, ขาไก่สำหรับใช้ทำคาราเกะ, ขาไก่ ติดกระดูก (ไม่ผ่านความร้อน, แช่แข็ง) และไก่สำหรับทำยากิโทริ (ไม่ผ่านความร้อน) ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้สอดรับกับนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และยุทธศาสตร์เมืองรอง ที่มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นพนักงานขายหรือเซลส์แมนประเทศ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทย และขยายตลาดสู่เมืองรอง ซึ่ง Beisia มีสาขาทั้งหมด 141 สาขา ใน 15 จังหวัด กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปเมืองรองของญี่ปุ่นเพิ่มเติม พร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP อีกด้วย
ปัจจุบันตลาดญี่ปุ่น เป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 ของไทย โดยในปี 2562 การส่งออกสินค้าไทยไปญี่ปุ่น มีมูลค่ากว่า 760,000 ล้านบาท และการส่งออกในเดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 มีมูลค่า 645,000 ล้านบาท เพื่อให้การส่งออกเติบโตต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กรมฯ เห็นถึงพลังของการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ที่สามารถทำให้ผู้ประกอบการไทยขายสินค้าได้ เนื่องจากมีทูตพาณิชย์คัดกรองผู้ซื้อที่มีคุณภาพในต่างประเทศให้มาเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการศักยภาพของไทย
โดยทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อศึกษากันและกันล่วงหน้าก่อนเริ่มการเจรจาการค้าระหว่างกัน จึงมีศักยภาพมากขึ้นสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกได้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าวข้างต้น สมัครเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2564 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0 2507 8219 หรือทาง E-mail: [email protected]
สำหรับ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ