WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaa1Mแมสก์

จุรินทร์ ถก'เฟซบุ๊ก-ลาซาด้า-ช้อปปี้'ขอคุมเข้มคนขาย'แมสก์' ห้ามเกินราคาควบคุม

     จุรินทร์ เชิญประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ลาซาด้า ช้อปปี้ ไปรษณีย์ไทย หารือป้องกันไม่ให้ร้านค้าหรือผู้โพสต์ขายสินค้ามีการขาย ‘หน้ากากอนามัย’ เกินราคาควบคุม ย้ำต้องขายชิ้นละไม่เกิน 2.50 บาท ส่วนนำเข้าบวกเพิ่มได้ไม่เกิน 60% พร้อมมอบกรมการค้าภายใน ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิด ให้จัดการตามกฎหมายเด็ดขาด  

     ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 24 ธ.ค.2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมมาตรการป้องปรามและป้องกันการกักตุนและการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 รอบใหม่ มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ.ต.อ.สุธีร์  มัลลิกะมาลย์ ผู้กำกับ (สอบสวน) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.ท. ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) บริษัท เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ลาซาด้า จำกัด บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นต้น เข้าร่วมหารือ

      นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ นายจุรินทร์ได้ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยให้ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ควบคุมร้านค้าหรือผู้โพสต์ขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มตนเองอย่างเคร่งครัดไม่ให้ขายเกินราคาหรือกระทำความผิด เพราะประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เรื่องกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัยยังบังคับใช้อยู่ โดยผู้ขายจะต้องขายหน้ากากอนามัย (Surgical mask) ไม่เกิน 2.50 บาทต่อชิ้น หน้ากากนำเข้าจะบวกราคาเพิ่มได้ไม่เกิน 60% ของราคานำเข้า ส่วนหน้ากากผ้าที่ใช้ทดแทน ไม่ได้อยู่ในบัญชีควบคุม

      “ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และทุกแพลตฟอร์มที่ให้บริการออนไลน์ ทำหน้าที่และทำตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และต้องไม่ให้เกิดปัญหากับผู้บริโภคและประชาชน พร้อมกับมอบกรมการค้าภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ทั้งป้องกันและป้องปรามการกระทำความผิดการจำหน่ายเกินราคาหรือกักตุน หากใครพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเกิดการเอาเปรียบประชาชน โดยประชาชนที่พบข้อมูลเบาะแสสามารถแจ้งสายด่วน 1569 ได้ทันที”นางมัลลิกากล่าว

     สำหรับ โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีดังนี้ ความผิดการขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ความผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ความผิดข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ต้องมีเจตนาทุจริต โพสต์ข้อมูลเท็จ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

1aaa1Mบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร

ปลัดพาณิชย์ สั่งตรวจสอบการจำหน่าย'แมสก์'ทั่วประเทศ ย้ำพบผิดเล่นงานหนัก

       ปลัดพาณิชย์ สั่งปูพรมตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ เผยล่าสุดตรวจไปแล้ว 573 ราย พบยังขายในราคาควบคุม ยกเว้นสินค้านำเข้า ยันมีเพียงพอ ไม่ต้องตื่นกักตุน และสามารถใช้หน้ากากทางเลือกแทนได้ พร้อมย้ำผู้ค้าอย่าเอาเปรียบ พาณิชย์เอาจริง เล่นงานตามกฎหมายทุกราย ส่วนผลตรวจที่ชลบุรี ไม่พบร้านขายแพง ที่สมุครสาคร สินค้ามีพอ แต่คนซื้อเพิ่มขึ้น ล่าสุดพบผิด 1 ราย สั่งดำเนินคดีแล้ว 

     นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภายหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาครและจังหวัดอื่นๆ โดยให้ตรวจสอบว่าผู้ค้ามีการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 หรือไม่ ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคา การจำหน่ายในราคาสูงเกินกว่าที่กำหนด ขายเกินราคา และปฏิเสธการขาย 

         โดยล่าสุดได้รับรายงานว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดใหม่จนถึงวันที่ 22 ธ.ค.2563 ได้มีการตรวจสอบร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ รวม 573 ราย พบว่า ร้านค้าต่างๆ ยังขายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไม่เกินราคาควบคุมที่ชิ้นละ 2.50 บาท โดยราคาขายแบบกล่อง (50 ชิ้น) อยู่ที่กล่องละ 50-125 บาท หรือเฉลี่ยชิ้นละ 1.00-2.50 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และคุณภาพของสินค้า

     นอกจากนี้ ยังไม่พบการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย แต่ปริมาณการซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้นมาก ทำให้บางร้าน มีสินค้าไม่เพียงพอ เพราะช่วงก่อนหน้านี้ ประชาชนซื้อน้อยลง ทำให้ร้านไม่ได้สต๊อกสินค้าเอาไว้ แต่ได้สั่งสินค้าจากโรงงานผู้ผลิตแล้ว จะได้สินค้าภายใน 2-3 วัน ส่วนหน้ากากอนามัยที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาจขายสูงเกินกว่าราคาควบคุม เพราะผู้นำเข้าต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ จากการนำเข้า โดยกระทรวงพาณิชย์อนุญาตให้ตั้งราคาขายโดยบวกค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มได้ไม่เกิน 60% ของราคานำเข้า

      ทั้งนี้ ยืนยันว่า หน้ากากอนามัยทางการแพทย์มีเพียงพอกับความต้องการใช้ของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยล่าสุดมีโรงงานผลิตเพิ่มเป็น 30 แห่ง กำลังการผลิตวันละ 5 ล้านชิ้น จากในช่วงแรกๆ มี 9 แห่ง ผลิตได้วันละ 1.2 ล้านชิ้น ส่วนประชาชนทั่วไป ก็มีจำหน่ายตามช่องทางต่างๆ ขออย่าตื่นตระหนกและซื้อครั้งละจำนวนมาก เพราะสินค้าผลิตเข้ามาต่อเนื่อง และยังมีหน้ากากทางเลือก อย่างหน้ากากผ้า ที่จะใช้ได้

      นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า หากประชาชนพบเห็นผู้มีพฤติกรรมเอาเปรียบ ให้แจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยต้องระบุรายละเอียดที่อยู่ ร้านค้า ให้ชัดเจน จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบทันที หากพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยการขายสินค้าเกินราคาควบคุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ขายสินค้าราคาแพงเกินควร และปฏิเสธการขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

      “ขอฝากไปถึงผู้ค้าด้วยว่าอย่าเอาเปรียบประชาชน เพราะกระทรวงพาณิชย์เอาจริง โดยการจับกุมดำเนินคดีผู้ค้าหน้ากากอนามัยที่กระทำผิดในช่วงก่อนหน้านี้ จำนวน 435 ราย มี 2 รายที่คดีถึงที่สุดแล้ว ได้แก่ จ.บึงกาฬ ขายแพงเกินสมควร ศาลสั่งจำคุก 1 ปีแต่รอลงอาญา และปรับ 50,000 บาท อีกรายที่เพชรบูรณ์ จงใจขายแพง และปฏิเสธการขาย ศาลสั่งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา และปรับอีก 5,000 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล”นายบุณยฤทธิ์กล่าว

     ส่วนการตรวจสอบที่ จ.ชลบุรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อโซเชียลว่ามีร้านค้าแถวบางแสนขายหน้ากากอนามัยกล่องละ 300 บาท สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี ได้ออกตรวจสอบร้านค้าแถวบางแสนและบริเวณใกล้เคียงรวม 10 ร้าน ได้แก่ ร้านดีฟาร์มาซี ร้านฟาซิโน ร้าน WHC วังยาเอลแคร์ ร้านบ้านยาบูรพา ร้านยาหยีเภสัช ร้านเฮลท์ อัพ สาขาห้างแหลมทอง ร้านบูทส์ สาขาห้างแหลมทอง ร้านวัตสัน สาขาห้างแหลมทอง ร้านบริบาลเภสัช และร้านคลังยา 51 พบว่า ร้านค้ายังขายหน้ากากอนามัยไม่เกินราคาควบคุม ส่วนใหญ่ราคาอยู่ที่กล่องละ 50-120 บาท และไม่พบร้านใด ขายเกินราคาอย่างที่เป็นข่าว และที่จ.สมุทรสาคร ที่มีปัญหาการระบาด ผลการตรวจสอบ พบว่า สินค้ามีเพียงพอ ไม่พบขายเกินราคา แต่ประชาชนซื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัว  

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดพบผู้กระทำผิด 1 รายที่ จ.ตรัง โดยผู้ค้าไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย และขายราคาชิ้นละ 10 บาท สูงกว่าราคาควบคุม เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับ และส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!