WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaBวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์

'พาณิชย์'ผลักดัน'ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้' สินค้า GI ต้นแบบขายสู่ตลาดโลก

       กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกิจกรรม 'ส่งมอบข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สู่ครัวโลก' หวังใช้เป็นต้นแบบผลักดันสินค้า GI รายการอื่นออกสู่ตลาดโลกได้เพิ่มขึ้น เผยแผนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้า จะเร่งการขึ้นทะเบียน GI ในจีน มาเลเซีย และยื่นคำขอจด GI ที่อินโดนีเซียปีหน้า

        นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ลงพื้นที่แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกิจกรรม “ส่งมอบข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้สู่ครัวโลก” เพื่อผลักดันให้สินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นสินค้าต้นแบบและเป็นสินค้าตัวอย่างที่สามารถขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศ และจะผลักดันให้สินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI รายการอื่นๆ เดินตามรอยขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นต่อไป

      ทั้งนี้ ในการช่วยขยายตลาดต่างประเทศให้กับสินค้าข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กรมฯ ได้ผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียน GI ในตลาดสหภาพยุโรป (อียู) สำเร็จแล้ว ทำให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ สามารถส่งออกไปยังตลาดอียูได้เพิ่มขึ้น และกำลังอยู่ระหว่างการขอจดทะเบียน GI ในจีนและมาเลเซีย ที่เป็นตลาดเป้าหมายในการขยายตลาดของไทย รวมทั้งกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำคำขอจดทะเบียน GI ในอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะยื่นคำขอได้ในปีหน้า

      “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นสินค้า GI ที่มีศักยภาพ และถือเป็นต้นแบบสินค้า GI ที่เป็นที่ยอมรับถึงคุณภาพมาตรฐาน มีชื่อเสียงไปไกลถึงสหภาพยุโรป ด้วยเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ มีความหอมที่โดดเด่นต่างจากข้าวชนิดเดียวกันที่ปลูกนอกพื้นที่ อีกทั้งยังคำนึงถึงการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล ทำให้ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ยังคงรสชาติ ความหอม อร่อยถูกใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ หากรักษาคุณภาพตามมาตรฐาน GI ไว้ได้ ก็จะทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการ และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้า GI อื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน มีโอกาสที่จะขยายตลาดได้เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ”นายวุฒิไกรกล่าว

      ปัจจุบัน กลุ่มผู้ประกอบการและเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และโรงสีในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี รวมทั้งกลุ่มศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด ที่ได้พัฒนาองค์ความรู้วิธีการปลูกข้าว เพื่อให้ได้มาซึ่งข้าว GI คุณภาพ ที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนลดต่ำลง รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ที่มีการนำแกลบ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ มาพัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ตอบโจทย์เทรนด์ Zero Waste จนได้รับรางวัล Prime Minister Award ในหมวดสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) จากนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าการรวมกลุ่มผู้ผลิตสินค้า GI อย่างเข้มแข็งในพื้นที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถเป็นชุมชนต้นแบบให้แก่ผู้ผลิตสินค้า GI ในพื้นที่อื่นๆ ได้

       นายสินสมุทร ศรีแสนปาง ผู้นำในการตั้งกลุ่มศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบการทำนาจากวิถีดั้งเดิมที่ปลูกโดยการหว่าน จะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 30–35 กิโลกรัมต่อไร่ มาเป็นรูปแบบการทำนาหยอดที่ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 4 กิโลกรัมต่อไร่ ทำให้ได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก 320 กิโลกรัม เป็น 600 กิโลกรัม โดยที่สินค้าดังกล่าวยังคงคุณภาพตามมาตรฐาน GI จึงเป็นการช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก และสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร ส่งผลให้เกษตรกรที่เข้าร่วมกลุ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยทางกลุ่มมีแผนที่จะขยายกลุ่มผู้ผลิตตามแนวทางนาหยอดให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชนต่อไป

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!