- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 11 November 2020 22:51
- Hits: 7190
พาณิชย์ เคาะจ่ายส่วนต่างข้าวงวดที่ 1 ปี 63/64 เผย“หอมมะลิ”รับชดเชยสูงสุด
พาณิชย์ เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 1 ปีการผลิต 2563/64 จ่าย 5 ชนิดรวด หลังราคาข้าวปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาประกัน เผยข้าวเปลือกหอมมะลิได้รับชดเชยสูงสุด พร้อมแจงสาเหตุข้าวราคาตก มาจากผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด การบริโภคในประเทศลดลง หลังไม่มีนักท่องเที่ยว และข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่ง เร่งใช้มาตรการเสริมดันราคา ดึงผลผลิตส่วนเกินเข้าเก็บสต๊อก เป้า 7 ล้านตัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 งวดที่ 1 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวจนถึงวันที่ 8 พ.ย.2563 จำนวน 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว เพราะทุกชนิดมีราคาต่ำกว่าราคาที่ประกันรายได้
ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้ ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน
สำหรับ ผลการพิจารณาราคาตลาดปัจจุบัน ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 12,088.83 บาท มีส่วนต่างที่ต้องจ่ายตันละ 2,911.17 บาท , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,862.55 บาท มีส่วนต่างตันละ 2,137.45 บาท , ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,777.64 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,222.36 บาท , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,933.04 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,066.96 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,915.66 บาท มีส่วนต่างตันละ 2,084.34 บาท
โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 1 ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 40,756.38 บาท , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 34,199.2 บาท , ข้าวเปลือกเจ้า 36,670.8 บาท , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,674 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 33,349.44 บาท โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 16 พ.ย.2563
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวปรับตัวลดลง เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น การบริโภคในประเทศลดลง จากการไม่มีนักท่องเที่ยว เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การส่งออกปรับตัวลดลง จากการที่ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง เพราะเงินบาทแข็งค่า ทำให้ผู้ซื้อหันไปซื้อข้าวจากประเทศอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งผลักดันใช้มาตรการเสริม เพื่อชะลอผลผลิตข้าวเข้าสู่ตลาด โดยจะจูงใจให้เกษตรกร สหกรณ์ สถาบันเกษตรกร รวมทั้งผู้ประกอบการค้าข้าวทั่วไปเก็บสต็อก เพื่อเป็นการสร้างเสถียรภาพราคาตลาด โดยมีเป้าหมาย 7 ล้านตันข้าวเปลือก ผ่านโครงการโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ให้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร สหกรณ์เสียดอกเบี้ยร้อยละ 1 เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการร้อยละ 3 เป้าหมาย 4 ล้านตัน
******************************************
