- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 01 November 2020 20:29
- Hits: 10623
จุรินทร์ ประกาศหนุน SMEs สุดตัว เตรียมช่วยทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ
'จุรินทร์'ประกาศสนับสนุน SMEs สุดตัว เตรียมช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด ทั้งการผลักดันให้ค้าขายออนไลน์ การนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เพื่อสร้างโอกาสในการค้าขาย และเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศ เผยยังร่วมมือกับหัวเว่ย เพิ่มพูนความรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้ SMEs สามารถนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจ และมีแผนปั้นเด็กรุ่นใหม่ เป็น CEO ค้าขายออนไลน์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงาน Smart SME Expo 2020 ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย คิดเป็น 95% ของผู้ประกอบการทั้งประเทศ ให้มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น ตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” โดยจะเข้าไปช่วยเหลือทางด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะยุคโควิด-19 ถ้าใครใช้ออนไลน์ไม่เป็น ใครทำอีคอมเมิร์ซไม่ได้ เพื่อนก็ก้าวล้ำหน้าไป ดังนั้น หลักสูตรของกระทรวงพาณิชย์มีทั้งหลักสูตรหลักสูตรพื้นฐาน หลักสูตรธรรมดา ปานกลาง และหลักสูตรเข้มข้น ที่จะมาอบรมให้เข้าใจจนลึกซึ้ง สุดท้ายส่งออกได้ตามลำดับ
“นอกจากจะให้องค์ความรู้ทางด้านการตลาดกับ SMEs แล้ว จะให้โอกาสการเข้าร่วมการจัดงานแสดงสินค้า อย่างน้อยเวลาจัดงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จะเปิดพื้นที่ 10 -15% เป็นโอกาสให้ SMEs หรืองานจัดแสดงสินค้าในตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) และมาเลเซีย ต้องเปิดพื้นที่ให้กับ SMEs ในภาคต่างๆ ได้มีโอกาสได้มาแสดงสินค้าในงานของกระทรวงพาณิชย์”
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ ทำหน้าที่เซลล์แมนประเทศ ไปเจรจากับผู้นำเข้าในประเทศต่างๆ แล้วจับคู่ธุรกิจในประเทศไทย เพราะเดินทางไม่ได้ เนื่องจากติดโควิด-19 จึงต้องใช้ระบบออนไลน์ เจรจากับผู้ส่งออกไทย ผ่านระบบเทคโนโลยี และลงนามสัญญาซื้อขาย ทำให้ส่งออกได้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ หัวเว่ย ตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะช่วยนำเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งเทคโนโลยี 5G , IoT (Internet of Things) และระบบคลาวด์ มาพัฒนาภาคการผลิตและภาคการตลาดให้กับ SMEs ของไทย ซึ่งได้อบรมไปแล้ว 250 ราย
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายปั้นเด็ก GenZ เป็น CEO หรือที่เรียกว่า CEO GenZ โดยจะผลักดันเด็กรุ่นใหม่ที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย กำลังจะเรียนจบ และเด็กรุ่นใหม่ที่มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนายตัวเอง ให้มีความรู้ในการทำธุรกิจ และการค้าขายออนไลน์ ตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะทำให้ได้ 12,000 คน โดยได้เริ่มต้นไปแล้วมหาวิทยาลัยในภาคเหนือ 7 มหาวิทยาลัย จัดอบรมชุดแรกไปแล้ว 1,500 คน จะทำต่อไปในภาคอื่นให้ครบ 12,000 คน เพื่อให้ CEO GenZ เป็นทัพหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศยุคโควิด-19 และหลังโควิด-19 ในอนาคต และกลุ่มนี้ถ้าไม่ไปทำสตาร์ทอัพ ก็ต้องมาทำ SMEs สุดท้ายก็จะมาเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศต่อไปในอนาคต
******************************************
