- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 16 September 2020 17:52
- Hits: 3606
พาณิชย์ ถกบริษัทชั้นนำยุโรปกว่า 50 ราย หารือแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19
พาณิชย์ หารือสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน และบริษัทชั้นนำของยุโรปที่ทำธุรกิจในอาเซียนกว่า 50 ราย ผ่านระบบทางไกล แลกเปลี่ยนมุมมองการรับมือวิกฤตโควิด-19 แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เผยไทยได้ใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่น ยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้า ย้ำส่งเสริมการลงทุน พร้อมแลกเปลี่ยนการฟื้นเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป ชี้แจงความคืบหน้าอาร์เซ็ป
นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2563 ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมหารือกับสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ASEAN Business Council: EU-ABC) ผ่านระบบการประชุมทางไกล กับบริษัทชั้นนำของยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนกว่า 50 ราย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองของไทยเกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการฟื้นเศรษฐกิจในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
โดยไทยได้ใช้โอกาสนี้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนสหภาพยุโรปว่า ไทยให้ความสำคัญกับการยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรป การอำนวยความสะดวกทางการค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การยกระดับมาตรฐานสินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร
ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นการค้าอื่นๆ เช่น การฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป ความคืบหน้าของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) และการลดอุปสรรคด้านมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน เป็นต้น
“การหารือครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากภาคเอกชนสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก โดย EU-ABC มีกำหนดหารือกับรัฐมนตรีการค้าเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นลำดับถัดไปปลายเดือนก.ย.2563 ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสทางการค้าระหว่างภูมิภาคยุโรปและอาเซียนในอนาคต”นายสรรเสริญกล่าว
สำหรับ EU-ABC เป็นสภาธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจระหว่างภาคเอกชนยุโรปกับอาเซียน ปัจจุบันมีสมาชิกเป็นหอการค้าของประเทศยุโรปในภูมิภาคอาเซียน 9 แห่ง และบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ของยุโรปกว่า 30 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจหลากสาขา เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค การเงิน และโลจิสติกส์ เป็นต้น
พาณิชย์ ถกภาคธุรกิจสหภาพยุโรปชั้นนำกว่า 50 ราย สร้างความมั่นใจ ไทยพร้อมร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19
กระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับ สภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน และบริษัทชั้นนำของยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน กว่า 50 ราย ข้ามทวีปผ่านระบบทางไกล แลกเปลี่ยนมุมมองการรับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความเชื่อมั่นในการฟื้นเศรษฐกิจในระดับประเทศและระดับภูมิภาคของไทย
ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เข้าร่วมหารือกับสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ASEAN Business Council: EU-ABC) ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองของไทยเกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการฟื้นเศรษฐกิจในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยมีบริษัทชั้นนำของยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วมการหารือกว่า 50 ราย
ดร.สรรเสริญ เพิ่มเติมว่า ได้ใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนสหภาพยุโรปว่า ไทยให้ความสำคัญกับการยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรป การอำนวยความสะดวกทางการค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การยกระดับมาตรฐานสินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นการค้าอื่นๆ เช่น การฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ความคืบหน้าของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และการลดอุปสรรคด้านมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน เป็นต้น โดยการหารือครั้งนี้ได้รับความสนใจจากภาคเอกชนสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก โดย EU-ABC มีกำหนดหารือกับรัฐมนตรีการค้าเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นลำดับถัดไปปลายเดือนกันยายน นี้ ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสทางการค้าระหว่างภูมิภาคยุโรปและอาเซียนในอนาคต
ทั้งนี้ EU-ABC เป็นสภาธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจระหว่างภาคเอกชนยุโรปกับอาเซียน ปัจจุบันมีสมาชิกเป็นหอการค้าของประเทศยุโรปในภูมิภาคอาเซียน 9 แห่ง และบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ของยุโรปกว่า 30 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจหลากสาขา เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค การเงิน และโลจิสติกส์ เป็นต้น
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ