WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaa1aต้นกล้า

ต้นกล้า ทู โกล’63 โชว์ศักยภาพ SMEs ท้องถิ่น ปรับตัวไว เปิดเกมรุกยุค New Normal

            กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) โชว์ความสำเร็จ ‘ต้นกล้า ทู โกล ประจำปี 2563’หลักสูตรอบรมเข้มข้นเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่น หนุนใช้นวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ วางกลยุทธ์ธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ เพิ่มขีดแข่งขันสู้ศึกการค้ายุค New Normal

          นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในพิธีปิดโครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ประจำปี 2563 ว่า การอบรมในปีนี้ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นและพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งส่วนของเนื้อหาหลักสูตรที่ปรับใหม่ทั้งหมด เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ทางการค้ายุคใหม่ครบทุกมิติ ให้ผู้ประกอบการนำไปใช้พัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ให้พร้อมแข่งขันในเวทีการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงรูปแบบการอบรมแบบ Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างการอบรมแบบ Online ผ่านระบบ Zoom และการอบรมในพื้นที่จริงในจังหวัดจันทบุรีและเชียงใหม่ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลาย

   “SMEs ไทยปรับตัวรวดเร็วมาก สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แก่ผู้บริโภค และตอบโจทย์กระแสนิยมในโลกยุคใหม่ได้ดีเยี่ยม เช่น กระแสรักสุขภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความคิดสร้างสรรค์นำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาผลิตสินค้าใหม่ เรียนรู้ไว และสามารถใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือ SMEs ไทย ที่แสดงถึงความพร้อม ‘ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส’ ได้อย่างแท้จริง”นายสมเด็จกล่าว

      ทั้งนี้ โครงการต้นกล้า ทู โกล ปี 2563 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - วันที่ 20 สิงหาคม 2563 แบ่งการอบรมเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ และ การสร้างแรงบันดาลใจ ระยะที่ 2 การเสริมสร้างองค์ความรู้ระหว่างประเทศ และการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์และการจัดทำแผนธุรกิจ ระยะที่ 3 การเสริมสร้างองค์ความรู้ระหว่างประเทศ และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อต่อยอดสินค้านวัตกรรมในเชิงสร้างสรรค์ และระยะที่ 4 ประกอบด้วยการมอบวุฒิบัตรและโล่รางวัลแก่ผู้เข้าอบรม การเสวนา การแสดงสินค้า และการเจรจาการค้ากับผู้ซื้อจำนวน 9 บริษัท ได้แก่ เครือเดอะมอลล์, เครือเซ็นทรัล, กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ , บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด  (มหาชน) , กลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์, บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด, บริษัท Grand Style Co., Ltd. ประเทศเมียนมาร์, บริษัท JB Trading ประเทศลาว, CASA ประเทศจีน

    ในปีนี้มีผู้สนใจทั่วไปและผู้ประกอบการ SMEs ท้องถิ่นจากทั่วประเทศร่วมอบรมระยะแรกรวม 463 ราย และมีผู้ประกอบการนิติบุคคลจากภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ผ่านการคัดเลือกและอบรมจนครบหลักสูตร 4 ระยะ จำนวนทั้งสิ้น  50 ราย จากกลุ่มสินค้า 4 ประเภทหลักได้แก่ สินค้าเกษตร/เกษตรแปรรูป อาหารและอาหารแปรรูป และเครื่องดื่ม จำนวน 31 ราย สินค้าเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิวและสมุนไพรไทย จำนวน 13 ราย สินค้าหัตถกรรม/เครื่องใช้และของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ของชำร่วย จำนวน 3 ราย และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ จำนวน 3 ราย

          นอกจากนี้ มีการประกวดชิงรางวัล 2 ประเภท คือ รางวัลการเขียนแผนธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ ผู้ชนะรางวัลได้แก่

-          ภาคใต้:  คุณรุจฌ์ พวงวงศ์ บริษัท ชาวเล ซีเกรป จำกัด ผู้ผลิตสินค้า PRIME สาหร่ายพวงองุ่น

-          ภาคตะวันออก: คุณสรัลชนา อธิปัญญา บริษัท เอิร์ธบาวน์ด จำกัด ผู้ผลิตสินค้า Earthbound (เอิร์ธบาวด์น)

-          ภาคเหนือ: คุณธันยาพร ผลนาค บริษัท ไฟน์อิมเมจ จำกัด ผู้ผลิตสินค้า ไส้กรอกเยอรมัน Nature D'Lite

รางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ ผู้ชนะรางวัล ได้แก่

-          ภาคใต้: คุณอากฤษฏิ์ ศศิอังกูร ห้างหุ้นส่วนจำกัด ออลวีลไรด์ ผู้ผลิตสินค้า ปลากระพงขาวรมควันทะเลสาบสงขลา

-          ภาคตะวันออก: คุณนัทมน แสงฉาย บริษัท อินทู อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตสินค้าลำไยแปรรูป

-          ภาคเหนือ: คุณธันยาพร ผลนาค บริษัท ไฟน์อิมเมจ จำกัด ผู้ผลิตสินค้า ไส้กรอกเยอรมัน Nature D'Lite

       นางอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กล่าวว่า ในปีหน้า NEA ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่านการอบรมโครงการต้นกล้า ทู โกล ตลอด 4 ระยะรวม 100 รายจากทั่วประเทศ และจะปรับหลักสูตรให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของ SMEs ท้องถิ่นมากยิ่งขึ้นด้วย

      นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังนำหลักการ 'ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส' จากอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มาปรับใช้เป็นวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของ NEA ด้วยแนวทาง “NEA Care รักแท้ แชร์ความรู้” ที่ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์หลัก มี Flagship Projects สำคัญ ดังนี้

  1.       เข้าถึง ใส่ใจ ทุกภูมิภาค ด้วยโครงการ Gen-Z to be CEO ให้ความรู้แก่นักศึกษาเพื่อปูทางสู่การเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ ตั้งเป้าหมายให้ความรู้แก่นักศึกษา 12,000 รายทั่วประเทศในปี 2564
  2.        สร้างโอกาสในทุกระดับ ด้วยโครงการ NEA Reborn เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้สายอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เพื่อเตรียมพร้อมสู่การค้าในยุค New Normal
  3.       สร้างคุณภาพที่แตกต่าง ประกอบด้วย 3.1) โครงการ Smart Content ช่วยให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.2) โครงการ Train the Creators ร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด 77 แห่ง สร้างนักปั้นผู้รอบรู้ทางการค้า ที่ถ่ายทอดความรู้ต่อได้
  4.        เต็มที่เรื่อง Technology & Innovation ประกอบด้วย 4.1) โครงการ The Guru ด้วยหลักสูตร e-learning โดยคนรุ่นใหม่ ส่งเสริมแนวคิดการเรียนรู้ที่ไม่มีสิ้นสุด  4.2) หลักสูตร NEA x Huawei ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความรู้ด้านเทคโนโลยีและการค้าระหว่างประเทศ
  5.      สนุกในทุกห้องเรียน ด้วยการเรียนรู้รูปแบบใหม่ จากโครงการตรวจสุขภาพคู่ค้า เสริมคาถาธุรกิจ ให้ผู้ประกอบการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริงจากผู้รอบรู้ เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ และความเหมาะสมกับธุรกิจ โดยมีกิมมิคคือการตรวจดูโหงวเฮ้งทางธุรกิจ

     สำหรับ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!