- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 22 October 2014 22:23
- Hits: 2750
เปิดประมูลข้าวสต๊อกล็อต 3 พาณิชย์ประกาศหลักเกณฑ์ยื่นซองเสนอราคา 28 ต.ค.นี้
บ้านเมือง : พาณิชย์ ประกาศหลักเกณฑ์การยื่นซองประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลล็อตที่ 3 กว่า 2 แสนตัน คาดเปิดยื่นซองเสนอราคา 28 ต.ค.นี้ รัฐเตรียมเสนอออกพันธบัตรออมทรัพย์ใช้หนี้จำนำข้าว ด้าน ธ.ก.ส.จ่ายเงินชาวนาวันแรก 5 หมื่นรายกว่า 500 ล้านบาท คาดเงินถึงมือชาวนาเฉลี่ยวันละ 3 พันล้านบาท
กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ออกประกาศคณะทำงานดำเนินการระบายข้าว เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐ ครั้งที่ 3/2557 รวมปริมาณ 207,898 ตัน เพียง 2 ชนิด ได้แก่ ข้าวขาว 5% และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ โครงการนาปี 54/55 นาปรัง 55 และ 55/56 (รอบ 1) (รอบ2) และ 56/57 แบบรายคลัง หรือรายกอง โดยเน้นประมูลข้าวขาว 5% เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อข้าวที่กำลังออกผลผลิตที่ส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิ ทั้งนี้ กำหนดชี้แจงรายละเอียด และเปิดให้ดูตัวอย่างข้าวในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 22 ตค. 57) เวลา 15.30 น. ก่อนที่จะเปิดให้ผู้สนใจ เข้ายื่นซองเสอนราคา ได้ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.30-11.00 น. และจะทำการเปิดซอง เพื่อประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติ ในเวลา 13.00 น.ของวันเดียวกัน ที่ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารปฏิบัติการ 5 ชั้น กรมการค้าต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน เร่งจัดทำรายละเอียดและแผนงานตามนโยบายคืนความสุขให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยจะเชิญผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ร่วมจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกรับเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณา และเริ่มโครงการได้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2557 ถึงกลางเดือนมกราคม 2558 เบื้องต้นจะไม่จำกัดรายการสินค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ประกอบการ และจะใช้ฐานคำนวณราคาของโครงการธงฟ้าเดิม คือ ลดราคาตั้งแต่ประมาณ 20-40% เชื่อว่านอกจากจะช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นยอดขายและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมด้วย
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวถึงแนวคิดการออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อชำระหนี้โครงการรับจำนำข้าวว่า เป็นแนวคิดที่เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐได้รายงานตัวเลขบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งปิดบัญชีเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ว่ามีความเสียหายเป็นจำนวนเงินถึง 8 แสนล้านบาท ตามที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่ และเมื่อทราบตัวเลขที่ชัดเจนก็จะเสนอนายกรัฐมนตรีดำเนินมาตรการชำระหนี้ต่อไป
โดยยืนยันว่า วิธีการนี้เคยดำเนินการมาแล้วในอดีตเมื่อครั้งจัดการปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ส่วนข้อกังวลจะเป็นการชำระหนี้ยาวนานนั้น มองว่าการออกพันธบัตรออมทรัพย์จะช่วยให้ไม่เป็นหนี้ค้างอยู่ในงบประมาณ เพราะไม่เช่นนั้นภาครัฐก็จะไม่มีงบสำหรับลงทุน ดังนั้นต้องจัดการปัญหาหนี้ให้หมด และเป็นวิธีเดียวที่วางไว้ ไม่มีวิธีอื่นสำรอง
สำหรับ การจ่ายเงินให้กับชาวนาไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการตรวจสอบบัญชีรายชื่อเกษตรกรอย่างละเอียด
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในวันแรก เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยได้จ่ายเงินให้เกษตรกร 1.43 หมื่นราย วงเงินรวม 176.1 ล้านบาท เป็นข้อมูลผลการขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนล่าสุด ณ เวลา 22.00 น. ของวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จะอัพเดทข้อมูลทุก 2 ชั่วโมง ก่อนปิดระบบ เวลา 22.00 น.ของทุกวัน ซึ่งในวันแรกของการจ่ายเงิน คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นราย คิดเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาท และหากระบบการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกรเดินเต็มที่ ธ.ก.ส. จะจ่ายให้เงินให้เกษตรกรได้ประมาณวันละ 3 พันล้านบาททั่วประเทศ ภายในเดือนต.ค.นี้ จะจ่ายเงินได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ที่เหลืออีก 3 หมื่นล้านบาท จะจ่ายหมดภายในเดือน พ.ย.นี้
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีชาวนาได้รับเงินช่วยเหลือ 3.49 ล้านครัวเรือน ส่วนใหญ่ มีที่นาทำกินไม่เกิน 15 ไร่ ประมาณ 45% โดยตัวเลขชาวนา เป็นการประเมินจากฐานข้อมูลชาวนาที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรเมื่อปี 2554-55 เมื่อคำนวณเป็นเงิน 40,096 ล้านบาท แต่เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้วงเงินช่วยเหลือไว้ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท เผื่อมีจำนวนชาวนามากกว่าที่ประเมิน