WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaBอรมน ทรัพย์ทวีธรรม

กรมเจรจาฯ’ ชวนสภาเกษตรกรแห่งชาติเตรียมพร้อมสินค้าเกษตรสระบุรีรับการค้ายุคนิวนอร์มอล ทึ่ง! ศักยภาพเพียบ แนะใช้ FTA ติดปีกไปตลาดต่างประเทศ

     กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จับมือพันธมิตรสภาเกษตรกรแห่งชาติลุยลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไปสระบุรีดูความพร้อมสินค้าเกษตรและให้คำแนะนำเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ เตรียมพร้อมสำหรับการค้ายุคนิวนอร์มอล พบ สินค้าข้าวโพดราชินีทับทิมสยาม และข้าวกล้องอินทรีย์ มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง แนะใช้ FTA เพิ่มโอกาสในตลาดต่างประเทศ

      นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังร่วมลงพื้นที่จังหวัดสระบุรีกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปในการเตรียมความพร้อมสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยรองรับการค้ายุคนิวนอร์มอล โดยเฉพาะการพัฒนาจุดแข็งและความได้เปรียบของสินค้าเกษตรไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยได้เยี่ยมชมการดำเนินงานและแปลงข้าวโพดพันธุ์ราชินีทับทิมสยาม ของบริษัทวิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไทย จำกัด รวมทั้งได้เยี่ยมชมแปลงนาและโรงสีข้าว ซึ่งพัฒนามาเป็นข้าวกล้องอินทรีย์จำหน่ายและส่งออกโดยบริษัท Nature Food Products and Marketing จำกัด ซึ่งพบว่าสินค้าของทั้งสองแห่งมีศักยภาพและมีความพร้อม จึงได้มีการหารือเรื่องการค้าและโอกาสการส่งออกภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งพบว่าแม้สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับยอดขายในประเทศ แต่ยอดส่งออกไปต่างประเทศของข้าวกล้องอินทรีย์และข้าวโพดราชินีทับทิมกลับขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงได้ใช้โอกาสนี้ แนะนำประโยชน์ของความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้

        นางอรมน เสริมว่า กรมฯ ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลและการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการพัฒนาสินค้าเกษตรไทยให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและใช้ประโยชน์จาก FTA จึงได้ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ โดยในปีนี้ได้ลงพื้นที่ในภาคอีสานตอนล่าง (บุรีรัมย์) และภาคกลางตอนล่าง (เพชรบุรี) แล้ว และมีแผนที่จะลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง (พิษณุโลก) ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจากการติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคและตลาดต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับอาหารที่เป็นประโยชน์กับสุขภาพและปลอดภัยจากโควิด จึงเป็นโอกาสดีของเกษตรกรไทย ที่จะพัฒนาสินค้าให้สนองความต้องการตลาด ประกอบกับความตกลงการค้าเสรี (FTA) 13 ฉบับ ที่ไทยทำกับ 18 ประเทศ เช่น อาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น ได้ช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยจากการที่ประเทศคู่เอฟทีเอได้ลดเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าที่ส่งออกจากไทยแล้ว ทำให้สินค้าไทยได้แต้มต่อเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

       ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2563 ไทยขยับเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตร (พิกัด 01-24 รวมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และยางพารา) อันดับที่ 9 ของโลก จากที่อยู่อันดับ 11 ในปี 2562 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยไป 18 ประเทศที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วย ในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปีนี้ มูลค่า 13,117 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วน 66.92% ของการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปทั้งหมดของไทยไปตลาดโลก

กรมเจรจาฯ หารือจีน ผนึกความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ยุค New Normal ดันขยายการค้า 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 64

      กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หารือกรมเอเชียฝ่ายจีน ยกระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้า ส่งเสริมการค้าผ่านออนไลน์ เพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ชวนนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนใน EEC และนิคมอุตสาหกรรมระยอง ย้ำ! ขยายการค้าสองฝ่ายให้ได้ตามเป้า 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564

     นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ได้หารือกับนายเผิง กัง อธิบดีกรมเอเชีย กระทรวงพาณิชย์สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านระบบทางไกล เรื่องการขยายการค้าระหว่างกันที่ 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ รวมถึงการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) และเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Guangdong – Hong Kong – Macao Greater Bay Area: GBA) ของจีน กับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ของไทย โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน กับ EEC ซึ่งถือเป็นตัวอย่างความร่วมมือที่ดีระหว่างไทย-จีน-ญี่ปุ่น พร้อมชวนนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนใน EEC และนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ที่ปัจจุบันมีนักลงทุนจีนเข้ามาดำเนินธุรกิจเป็นจำนวนมาก

       นางอรมน เสริมว่า ได้ขอให้ฝ่ายจีนเร่งรัดการดำเนินการภายใต้ MoU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน โดยเฉพาะการซื้อข้าวภายใต้สัญญาซื้อขายข้าวแบบ G to G ให้ครบ 1 ล้านตัน เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งขอบคุณจีนที่นำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย โดยเฉพาะผลไม้ที่นำเข้าจากไทยเป็นอันดับหนึ่ง โดยในช่วงโควิด-19 เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา จีนได้เปิดด่านนำเข้าผลไม้จากไทยที่ด่านตงซิง เมืองฝ่างเฉิงก่าง และด่านรถไฟผิงเสียงในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพิ่มเติมจากด่านบ่อหานในมณฑลยูนนาน และด่านโหย่วอี้กวาน ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งฝ่ายไทยยังขอให้จีนพิจารณาเปิดด่านท่าเรือกวนเหล่ย ในมณฑลยูนนาน และด่านหลงปัง ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพื่อเพิ่มช่องทางในการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนด้วย ซึ่งฝ่ายจีนขอตรวจสอบเรื่องความพร้อมของด่านก่อน

      นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือทุกด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าแม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาทิ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เศรษฐกิจดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ทั้งผ่านช่องทางออนไลน์และช่องทางปกติ ซึ่งจีนได้เชิญชวนให้ไทยนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo: CIIE) ครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2563 ณ นครเซี่ยงไฮ้ และงานแสดงสินค้าจีน – อาเซียน (China-ASEAN Expo: CAEXPO) ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2563 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน

      ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดนำเข้าอันดับ 1 และเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย โดยในปี 2562 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 79,440 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2563) การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 38,492 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 1.8 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลดีจากการใช้ประโยชน์ของความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น และไทยนำเข้าสินค้าสำคัญจากจีน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

Forex Exness1

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!