- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 18 July 2020 18:00
- Hits: 5319
วีรศักดิ์ สั่งช่วยผู้ผลิต 'ผ้าภูอัคนี'ปรับโฉมสินค้า-เพิ่มช่องทางขายผ่านออนไลน์
วีรศักดิ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแหล่งผลิตผ้าภูอัคนี สินค้าชุมชนที่โด่งดังของจ.บุรีรัมย์ มอบกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผนึกพาณิชย์จังหวัดเข้าช่วยเหลือ ทั้งการพัฒนาสินค้า เพิ่มช่องทางตลาด เน้นการขายออนไลน์ เจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ และใช้เฟซบุ๊กสื่อสารกับลูกค้า พร้อมหารือร้านค้าส่งค้าปลีก รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ ก่อนสั่งเน้นช่วยในเรื่องการบริหารจัดการร้านค้า บริหารสต๊อก ประสานเรื่องเงินทุน
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้การทอผ้าไหม ผ้าฝ้ายภูอัคนี อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผ้าภูอัคนีที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าของ จ.บุรีรัมย์ ว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยกันส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มผ้าภูอัคนี ให้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ให้มีความหลากหลายตรงตามความต้องการของตลาด และทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้เข้ามาช่วยในการทำตลาดผ่านช่องทางต่างๆ
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้เข้าไปช่วยสอนเทคนิคการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ และพัฒนาช่องทางการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ประเภทต่างๆ พร้อมทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น อันจะเป็นการเพิ่มยอดขายและสร้างความรู้จักในวงกว้าง
สำหรับ ศูนย์การเรียนรู้การทอผ้าไหม ผ้าฝ้ายภูอัคนี ตั้งขึ้นโดยชาวชุมชนเจริญสุขที่ต้องการให้ ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นแหล่งเรียนรู้และสืบทอดศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาพื้นบ้านการย้อมผ้าจากดินภูเขาไฟที่สืบทอดกันมานาน โดยชุมชนเจริญสุข เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้เขาอังคาร ภูเขาไฟเก่าแก่ที่ดับแล้ว 1 ใน 6 ลูกของ จ.บุรีรัมย์ ดินสีแดงเมื่อนำมาแยกกรวด เศษไม้ใบหญ้า นำเอาเฉพาะน้ำสีแดงมาใช้ย้อมฝ้าย ผ้าที่ได้จะออกเป็นสีอิฐมีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และเป็นที่มาของผ้าภูอัคนีที่สวยงาม
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ยังได้ไปตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านค้าส่งค้าปลีก ร้านทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะต่างๆ ด้วยตนเอง และพร้อมนำความเห็นนั้นมาดำเนินการช่วยเหลือให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งดำเนินการสร้างความเข้มแข็ง ให้การสนับสนุนส่งเสริม เพิ่มพูนทักษะ ความรู้ด้านการจัดการร้านค้า และให้การช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ร้านค้าส่งค้าปลีกชุมชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความเข้มแข็ง และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
“จากการพูดคุย พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของร้านค้าส่งค้าปลีกโดยทั่วไป คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี ไม่มีระบบการบริหารสต็อกสินค้า และปัญหาด้านเงินทุนสำหรับสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน ซึ่งได้มอบให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าไปช่วยเหลือร้านค้าส่งค้าปลีกที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว”นายวีรศักดิ์กล่าว
วีรศักดิ์ ลงพื้นที่บุรีรัมย์ พบเกษตรกรกลุ่ม 'นครชัยบุรินทร์' ชี้ช่องใช้ FTA เพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พบเกษตรกรกลุ่มนครชัยบุรินทร์ ชี้ช่องใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ขยายส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก พร้อมแนะลู่ทางเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับคุณภาพมาตรฐานสู่ระดับสากล
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ได้นำคณะผู้บริหาร 3 หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพบหารือเกษตรกรกลุ่มนครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ พร้อมเปิดงานสัมมนาโครงการ “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเกษตรกรเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมร้านค้าปลีกค้าส่งทวีกิจ ในเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ และศูนย์เรียนรู้การทอผ้าฝ้ายอัคนี อ.เฉลิมพระเกียรติ และแนะนำช่องทางการจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ ทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ มีการเสวนาในหัวข้อ 'ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจากเอฟทีเอ' และ 'ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดเอฟทีเอ” โดยเกษตรกรให้การตอบรับอย่างดี เนื่องจากเป็นเวทีที่ให้ข้อมูลเรื่องการค้าระหว่างประเทศ และแนวทางการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีเพื่อขยายการส่งออก นอกจากนี้ ยังได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าการตลาดมาติวเข้มวิเคราะห์สินค้า และแนะนำตลาดส่งออกที่เหมาะสมให้กับผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ โดยมีเกษตรกรร่วมนำสินค้ามาวิเคราะห์และจำหน่ายอย่างคึกคัก อาทิ ข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลินิล ผ้าฝ้ายภูอัคนี ผ้าไหมบ้านนาโพธิ์บุรีรัมย์ เสื่อกก และสมุนไพร (ยาหม่อง และน้ำหอมยาสีฟัน)
สำหรับ การเยี่ยมชมบริษัท ทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ในอีสานใต้ อาทิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม นครราชสีมา สระแก้ว และอุบลราชธานี จำหน่ายสินค้าราคาประหยัดเพื่อช่วยลดค่าครองชีพแก่ประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงพาณิชย์ และได้ลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้การทอผ้าฝ้ายอัคนี ทำผ้าย้อมดินภูเขาไฟมีสีแดงอิฐ ที่เป็นเอกลักษณ์ของบุรีรัมย์ ซึ่งเหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ทำงานร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดการค้าเสรี และเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับตลาดโลก รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเชื่อมั่นว่าการลงพื้นที่และจัดสัมมนาครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกรมองเห็นลู่ทางสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร และขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ” นายวีรศักดิ์กล่าว
แม้ว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค. – พ.ค.) การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังมีสินค้าหลายรายการที่สามารถส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ผลไม้มีมูลค่าส่งออกกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 18.57 สินค้าอาหารสำเร็จรูป ส่งออกมูลค่า 913 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.81 และสินค้าเนื้อสัตว์ ส่งออกมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.57 ทั้งนี้ สินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปไทยยังมีแนวโน้มการส่งออกที่ดี เนื่องจากตลาดโลกมีความต้องการบริโภคสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทย
วีรศักดิ์ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตรวจเยี่ยมร้านค้าส่งค้าปลีก และร้านค้าชุมชน รับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ พร้อมสั่งการกรมพัฒน์ฯ... เร่งสร้างความเข้มแข็ง...ให้การสนับสนุนเต็มที่
วีรศักดิ์ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตรวจเยี่ยมร้านค้าส่งค้าปลีก และร้านค้าชุมชนรับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ พร้อมสั่งการกรมพัฒน์ฯ..เร่งสร้างความเข้มแข็ง...ให้การสนับสนุนเต็มที่
วีรศักดิ์ ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ทันที หลังโควิด-19 บรรเทาเบาบาง ตรวจเยี่ยมร้านค้าส่งค้าปลีก และร้านค้าชุมชน พร้อมสั่งการกรมพัฒน์ฯ เร่งดำเนินการสร้างความเข้มแข็ง...ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเต็มที่ มั่นใจ!! ผู้ประกอบการท้องถิ่นอยู่คู่สังคมไทยยาวยาว ภาครัฐต้องคลุกวงใน เข้าถึงเข้าใจทุกรายละเอียดธุรกิจ พร้อมเปิดใจจับเข่าคุยรับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และนำมาปรับปรุงประยุกต์ใช้ให้ตรงความต้องการของแต่ละพื้นที่
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ผู้ประกอบการร้านค้าส่งค้าปลีก และการดำเนินงานร้านค้าชุมชนใน จ.บุรีรัมย์ ว่า ครั้งนี้ได้เดินทางมา จ.บุรีรัมย์เพื่อพบปะผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกและร้านค้าชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงผู้ประกอบการ 2 กลุ่มนี้มาก จึงต้องการลงมารับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะต่างๆ ด้วยตนเอง และพร้อมนำความเห็นนั้นมาดำเนินการช่วยเหลือให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เบื้องต้นได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งดำเนินการสร้างความเข้มแข็ง
ให้การสนับสนุนส่งเสริม เพิ่มพูนทักษะ ความรู้ด้านการจัดการร้านค้า และให้การช่วยเหลือด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองกับสังคมท้องถิ่น อีกทั้ง การที่ภาครัฐให้ความสำคัญและสนใจผู้ประกอบการรายธุรกิจลึกลงไปถึงรายละเอียดปลีกย่อย รับฟังความคิดเห็น จะทำให้เข้าใจและเข้าถึงความต้องการของภาคธุรกิจอย่างแท้จริง นำมาซึ่งแนวทางการแก้ไขและต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้ตรงตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ สามารถหามาตรการสนับสนุนได้อย่างถูกต้อง ส่งผลดีทั้งต่อผู้ประกอบการ ประชาชน ภาครัฐ และเศรษฐกิจของประเทศ
ร้านค้าส่งค้าปลีกที่ตรวจเยี่ยม คือ ร้านทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ต.อิสาณ อ.เมือง เป็นร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ เป็นกิจการของคนไทย 100% มีร้านค้าปลีกสาขา จำนวน 171 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม นครราชสีมา สระแก้ว อุบลราชธานี และสมาชิกเครือข่ายร้านค้าปลีก/ร้านโชวห่วย จำนวน 370 ร้านค้า จากการพูดคุยพบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของร้านค้าส่งค้าปลีกโดยทั่วไป คือ ไม่มีระบบการบริหารจัดการร้านค้าที่ดี ไม่มีระบบการบริหารสต็อกสินค้า และปัญหาด้านเงินทุนสำหรับสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน ฯลฯ ทั้งนี้ ปัจจุบันทางร้านได้มีการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการร้านค้า มีระบบสต็อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ มีบริการเดลิเวอรี่ที่พร้อมจะนำสินค้าไปส่งให้ร้านค้าปลีกรายย่อย พร้อมทั้งเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ร้านโชวห่วยที่เป็นเครือข่าย ทำให้มีลูกค้าที่เป็นร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นและสามารถแข่งขันกับร้านค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ได้ อีกทั้ง ร้านฯ มีนโยบายชัดเจนและยึดมั่นมาโดยตลอด คือ ไม่จำหน่ายบุหรี่ เหล้า เบียร์ ภายใต้สโลแกน เพราะเราห่วงใยคุณและทุกคนในครอบครัว ทำให้สินค้าภายในร้านเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันจริงๆ
นอกจากนี้ สิ่งที่ร้านค้าส่งค้าปลีกต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ คือ การรักษามาตรฐานสินค้าและการบริการที่ดี ต้องมีการตอบแทนชุมชน และต้องรู้จักปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง และได้ใจลูกค้าทั้งที่เป็นร้านค้าปลีกรายย่อย/โชวห่วย และผู้บริโภค จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ร้านค้าส่งค้าปลีก/ร้านโชวห่วยท้องถิ่นเป็นมิตรแท้ผู้บริโภค/ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะในวันที่ไม่สามารถจับจ่ายใช้สอยซื้อหาสินค้าอุปโภค-บริโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ ร้านค้าส่งค้าปลีกและร้านโชวห่วยท้องถิ่นพร้อมยืนเคียงข้างและเป็นที่พึ่งให้แก่ผู้บริโภคในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
รมช.พณ.กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ได้เดินทางไปที่ศูนย์เรียนรู้การทอผ้าไหม ผ้าฝ้ายภูอัคนี อ.เฉลิมพระเกียรติ แหล่งผลิตผ้าภูอัคนีที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าของ จ.บุรีรัมย์... ศูนย์การเรียนรู้ฯ นี้ ตั้งขึ้นโดยชาวชุมชน เจริญสุข ที่ต้องการให้ ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นแหล่งเรียนรู้และสืบทอดศิลปวัฒนธรรม/ภูมิปัญญาพื้นบ้านการย้อมผ้าจากดินภูเขาไฟที่สืบทอดกันมานาน โดยชุมชน เจริญสุข เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้ เขาอังคาร ภูเขาไฟเก่าแก่ที่ดับแล้ว 1 ใน 6 ลูกของ จ.บุรีรัมย์ ดินสีแดงเมื่อนำมาแยกกรวด เศษไม้ใบหญ้า นำเอาเฉพาะน้ำสีแดงมาใช้ย้อมฝ้าย ผ้าที่ได้จะออกเป็นสีอิฐมีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และเป็นที่มาของ ผ้าภูอัคนี ที่สวยงาม
เบื้องต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มผ้าภูอัคนี โดยได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเสริมทักษะและความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร พัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย สวยงาม ตรงความต้องการของตลาด สอนเทคนิคการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ และพัฒนาช่องทางการสื่อสาร/การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ประเภทต่างๆ พร้อมทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค ฯลฯ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น อันจะเป็นการเพิ่มยอดขายและสร้างความรู้จักในวงกว้าง อย่างไรก็ตามได้กำชับให้กรมฯ และพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมถึง ประสานภาคเอกชนให้เข้ามาช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการและขยายตลาดให้กลุ่มผ้าภูอัคนีอีกทางหนึ่งด้วย
โดยหลังจากที่ได้พูดคุยและตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการแล้ว ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งสรุปปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่ได้รับ พร้อมหามาตรการสนับสนุน เน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจน เกิดภาคีเครือข่ายธุรกิจ และสามารถผลักดันให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก/โชวห่วย และร้านค้าชุมชน เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ