- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 09 June 2020 17:14
- Hits: 4599
จุรินทร์นำ 'กษตร-พาณิชย์'ประชุมทลายอุปสรรค ราคาผลไม้-ผลไม้ส่งออก เจาะละเอียดแก้ทุกจุด ให้ชาวสวนผลไม้ทั่วประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมติดตามสถานการณ์ผลไม้ภาคเหนือ (ลำไยมะม่วง) ณ ห้องประชุม อบจ.ลำพูน โดยมีเกษตรกร สมาคมด้านการเกษตรต่าง ๆ ผู้ประกอบการ-ภาคเอกชน ผู้ส่งออก ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาเกษตรกรและผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์่ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เข้าร่วม
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้รับฟังปัญหาและให้ทุกฝ่ายเสนอแนวทาง โดยมีกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงถึงการติดตามแก้ไขปัญหาผลไม้ จากนั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับชาวสวนลำไยในส่วนของทั้งกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการร่วมกันในการที่จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยซึ่งฤดูการผลิตที่จะมาถึงนี้ลำไยจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20 จากปีที่แล้ว ได้มีมาตรการเชิงรุก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะรับไปดำเนินการ คือ 1.เรื่องของการเร่งรัดการออกเอกสารรับรองคุณภาพของสวนหรือที่เรียกว่า GAP ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งขณะนี้สำหรับสวนลำไยนั้นสามารถออกใบ GAP ได้ร้อยละ 15 ของสวนทั้งหมด แต่กระทรวงเกษตรฯ ก็จะไปเร่งรัดดำเนินการต่อไปเพื่อช่วยส่งเสริมการส่งออก เพราะถ้าไม่มี GAP ก็จะไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเราได้ 2.เรื่องของการดำเนินการเพื่อช่วยให้การส่งออกคล่องตัวขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร ในเรื่องของการที่จะต้องมีใบรับรองสุขอนามัย หรือที่เรียกว่า Health Certificate ซึ่งเอกชนอยากได้การตรวจสอบในระบบออนไลน์ เพื่อจะได้ตรวจดูว่ามีใบรับรองสุขอนามัยของเจ้าของสวนรายใดหรือผู้ส่งออกรายใดที่ได้ใช้ไปแล้วบ้าง เพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน ขอให้ทางกรมวิชาการเกษตรได้ช่วยทำแอพพลิเคชั่นหรือระบบการตรวจสอบออนไลน์ที่อำนวยความสะดวก ไม่ต้องรอโทรศัพท์ไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่แบบระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนก็รับไปในส่วนของจังหวัดลำพูน และกรมวิชาการเกษตรก็รับไป ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเข้ามาส่งเสริมการบริโภคลำไยทั้งในตลาดต่างประเทศและในประเทศนั้นมีมาตรการออกมาก่อนหน้านี้แล้วได้ทันทีที่ผลผลิตออกมาในช่วงเดือนกรกฎาคม
มาตรการที่หนึ่ง ในเรื่องของการที่จะช่วยค่าบริหารจัดการสำหรับการจำหน่ายในประเทศสำหรับผู้รวบรวมลำไยกิโลกรัมละ 3 บาท วงเงินไว้ 199 ล้านบาท และสำหรับผู้ที่รวบรวมและส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยตัวเองจะช่วยกิโลกรัมละ 5 บาท ภายใต้วงเงิน 51 ล้านบาท และในเรื่องของดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผู้รวบรวมผลไม้หรือลำไย ผู้แปรรูป และผู้ส่งออก สามารถใช้วงเงินกู้ที่กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยสนับสนุนดอกเบี้ยให้อีกร้อยละ 3 เช่น ถ้ากู้ 4% ก็รับภาระดอกเบี้ยแค่ 1% เพราะกระทรวงพาณิชย์ช่วยร้อยละ 3 ภายในวงเงิน 45 ล้านบาท เพื่อเตรียมช่วยชาวสวนลำไยและผลไม้ทุกชนิดด้วย นี่คือมาตรการที่จะช่วยชาวสวนผลไม้ทุกชนิดต่อไปด้วย ขณะเดียวกันได้มีการเตรียมงานสำหรับการจัดเทศกาลส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในช่วงสองเดือนนี้เป็นกรณีพิเศษ ในวงเงินอีก 50 ล้านบาท ในการจัด Thai Fruit Golden Months คือเดือนมิถุนายนกับเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะช่วยระบายลำไยสำหรับตลาดในประเทศได้อีกเยอะทีเดียว ส่วนตลาดส่งออกก็จะช่วยเร่งรัดแก้ปัญหาหลายประการ เช่นในเรื่องของการส่งออกผลไม้จากประเทศไทย ผ่านประเทศลาวหรือผ่านประเทศเวียดนามไปยังจีนตอนใต้ ขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรเข้าไปช่วยคลี่คลายปัญหาให้คล่องตัวขึ้น ทั้งด้านผิงเสียง โหยวอี้กวน ตงซิงและทางใต้แถวมาเลเซีย ด่านปาดังเบซาร์ ก็ข้ามแดนได้แล้วเช่นเดียวกัน
ในเรื่องของการเปิดตลาดเพิ่มเติมในต่างประเทศ เช่น ตลาดยุโรป ตลาดแคนาดา ตลาดรัสเซีย กระทรวงพาณิชย์ได้มีการเตรียมมาตรการไว้แล้ว โดยเฉพาะตลาดในตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากและกระทรวงพาณิชย์จะช่วยดำเนินการในการเปิดตลาดเพิ่มเติมต่อไปด้วย รวมทั้งในตลาดเดิมของเรา คือ ตลาดอินโดนีเซีย ที่ปีที่แล้วเราส่งออกไม่ได้ แม้จะมีมาตรการกำกับมาหลายขั้นตอน แต่ปีนี้กระทรวงพาณิชย์ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะให้ตลาดอินโดนีเซียเปิดตลาดให้กับประเทศไทย รวมทั้งตลาดออนไลน์
"พรุ่งนี้ แพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงมีผู้นิยมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Tmall ของอาลีบาบา ที่มุ่งเน้นตลาดจีน และ bigbasket.com ของอินเดีย Amazon ของสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ Lotte ของเกาหลี รวมทั้งตลาดอื่น ๆ ที่มีแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในหลายประเทศ เราได้ดำเนินการให้ผลไม้ไทยเกรดพรีเมียมได้ไปขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และวันที่ 9 ที่จะถึงนี้ ผมก็จะทำหน้าที่ช่วยเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่มากของประเทศไทย มาบริโภคผลไม้โดยผ่านการไลฟ์สดที่ชวนเชิญชวนคนจีนมาดูไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ก็จะมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยโดยเฉพาะลำไย ให้คนจีนมาบริโภคมากขึ้น" นายจุรินทร์กล่าว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ