- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 09 June 2020 15:59
- Hits: 3686
จุรินทร์ โชว์แผนช่วยชาวสวน ‘ลำไย’เตรียมผลักดันขายในประเทศ-ส่งออก-ออนไลน์
จุรินทร์ ประชุมติดตามสถานการณ์ลำไย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ยันมีแผนรับมือผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน ก.ค. ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งช่วยค่าบริหารจัดการรวบรวมผลผลิตจำหน่ายในประเทศและส่งออก สนับสนุนดอกเบี้ย 3% พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมบริโภคผลไม้ไทยช่วงมิ.ย.-ก.ค.อย่างหนัก มีลำไยด้วย ด้านส่งออกเล็งขยายตลาดเพิ่ม ตามจี้อินโดฯ เปิดตลาดให้ไทย และมุ่งขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดังในต่างประเทศ เผย 9 มิ.ย. เตรียมไลฟ์สดชวนคนจีนบริโภคผลไม้ไทย สั่งการเกษตรฯ เร่งรัดออก GAP ใบรับรองสุขอนามัย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมติดตามสถานการณ์ผลไม้ภาคเหนือ (ลำไย มะม่วง) ณ ห้องประชุม อบจ.ลำพูน โดยมีเกษตรกร สมาคมด้านการเกษตรต่างๆ ผู้ประกอบการเอกชน ผู้ส่งออก ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรและผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เข้าร่วม ว่า ได้มีการหารือถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ฤดูการผลิตที่จะถึงนี้ มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้มีมาตรการออกมาก่อนหน้านี้แล้ว และพร้อมที่จะใช้ได้ทันทีที่ผลผลิตออกมาในช่วงเดือนก.ค.2563 เป็นต้นไป โดยจะเน้นการส่งเสริมการบริโภคลำไยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับ มาตรการที่เตรียมไว้ จะช่วยค่าบริหารจัดการสำหรับการจำหน่ายในประเทศสำหรับผู้รวบรวมลำไยกิโลกรัมละ 3 บาท วงเงิน 199 ล้านบาท และสำหรับผู้ที่รวบรวมและส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยตัวเองจะช่วยกิโลกรัมละ 5 บาท ภายใต้วงเงิน 51 ล้านบาท และในเรื่องของดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผู้รวบรวมผลไม้หรือลำไย ผู้แปรรูปและผู้ส่งออก สามารถใช้วงเงินกู้ที่กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยสนับสนุนดอกเบี้ยให้อีก 3% เช่นกู้ 4% ก็รับภาระดอกเบี้ยแค่ 1% เพราะกระทรวงพาณิชย์ช่วย 3% ภายในวงเงิน 45 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ได้มีการเตรียมงานสำหรับการจัดเทศกาลส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในช่วง 2 เดือนนี้ เป็นกรณีพิเศษ วงเงินอีก 50 ล้านบาทสำหรับการจัด Thai Fruit Golden Months คือ เดือนมิ.ย.-ก.ค.2563 ซึ่งจะช่วยระบายลำไยด้วย
ส่วนตลาดส่งออก จะช่วยเร่งรัดแก้ปัญหาหลายประการ เช่น ในเรื่องของการส่งออกผลไม้จากประเทศไทยผ่านประเทศลาวหรือผ่านประเทศเวียดนามไปยังจีนตอนใต้ ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้าไปช่วยคลี่คลายปัญหาด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ให้คล่องตัวขึ้น ทั้งด่านโหยวอี้กวน เมืองผิงเสียง และด่านตงซิง และทางใต้แถวมาเลเซีย ด่านปาดังเบซาร์ก็ข้ามแดนได้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตลาดเพิ่มเติมในต่างประเทศ เช่น ยุโรป แคนาดา รัสเซีย โดยเฉพาะตลาดในตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก รวมถึงตลาดเดิมของไทย คือ ตลาดอินโดนีเซียที่ปีที่แล้วส่งออกไม่ได้ แม้จะมีมาตรการกำกับมาหลายขั้นตอน แต่ปีนี้กระทรวงพาณิชย์ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะให้ตลาดอินโดนีเซียเปิดตลาดให้กับประเทศไทย
ทางด้านออนไลน์ จะมุ่งขยายตลาดผลไม้ไทยผ่านแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงที่มีผู้นิยมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Tmall ของอาลีบาบาที่มุ่งเน้นตลาดจีน และ bigbasket.com ของอินเดีย Amazon ของสหรัฐฯ และสิงคโปร์ Lotte ของเกาหลี รวมทั้งตลาดอื่นๆ ที่มีแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในหลายประเทศ ได้ดำเนินการให้ผลไม้ไทยเกรดพรีเมียมได้ไปขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว
ทั้งนี้ ในวันที่ 9 มิ.ย.2563 จะทำหน้าที่ช่วยเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มากของประเทศไทยมาบริโภคผลไม้ โดยผ่านการไลฟ์สดเชิญชวนคนจีนมาดูไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน ก็จะมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย โดยเฉพาะลำไยให้คนจีนมาบริโภคมากขึ้น
นายจุรินทร์กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ จะรับไปดำเนินการ คือ 1.เรื่องของการเร่งรัดการออกเอกสารรับรองคุณภาพของสวนหรือที่เรียกว่า GAP ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งขณะนี้สำหรับสวนลำไย สามารถออกใบ GAP ได้ 15% ของสวนทั้งหมด แต่กระทรวงเกษตรฯ จะไปเร่งรัดดำเนินการต่อไป เพื่อช่วยส่งเสริมการส่งออก เพราะถ้าไม่มี GAP ก็จะไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ได้ 2.เรื่องของการดำเนินการเพื่อช่วยให้การส่งออกคล่องตัวขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร
ในเรื่องของการที่จะต้องมีใบรับรองสุขอนามัย หรือที่เรียกว่า Health Certificate ซึ่งเอกชนอยากได้การตรวจสอบในระบบออนไลน์ เพื่อจะได้ตรวจดูว่ามีใบรับรองสุขอนามัยของเจ้าของสวนรายใดหรือผู้ส่งออกรายใดที่ได้ใช้ไปแล้วบ้าง เพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน ขอให้ทางกรมวิชาการเกษตร ได้ช่วยทำแอปพลิเคชันหรือระบบการตรวจสอบออนไลน์ที่อำนวยความสะดวกไม่ต้องรอโทรศัพท์ไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่แบบระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนก็รับไปในส่วนของจังหวัดลำพูนและกรมวิชาการเกษตรก็รับไป
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ