- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 08 June 2020 16:46
- Hits: 4525
เงินเฟ้อพ.ค.ลบ 3.44% ต่ำสุด 10 ปี 10 เดือน ชี้เป็นเงินฝืดทางเทคนิค ไม่ฝืดจริง ไม่น่ากังวล
พาณิชย์”เผยเงินเฟ้อเดือนพ.ค.63 ติดลบ 3.44% ลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี 10 เดือน เหตุได้รับแรงฉุดจากราคาน้ำมันที่ลดลง รัฐลดค่าครองชีพทั้งค่าไฟฟ้า น้ำประปา และลดราคาสินค้าจำเป็นบางรายการ ระบุเป็นการเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค ไม่ใช่ฝืดจริง จึงไม่น่ากังวล ย้ำสินค้ายังเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นปกติ เป็นบวกด้วย แต่ขึ้นไม่เยอะ ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพ.ค.2563 ลดลง 3.44% ซึ่งเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี 10 เดือนนับจากก.ค.2552 ที่ลดลง 4.4% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีการปรับขึ้นหลายครั้ง แต่ก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งการลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา และลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพหลายรายการ รวมทั้งยังมีการลดลงของราคาผักสด ที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่สินค้าและบริการอื่นๆ ยังปรับเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นไม่มาก ไม่สามารถไปลดสัดส่วนในกลุ่มที่ลดลงแรงได้ จึงเป็นปัจจัยทำให้เงินเฟ้อลดลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) ลดลง 1.04%
“หากมองตามทฤษฎี ตอนนี้เกิดเงินฝืดทางเทคนิค เพราะเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน โดยมี.ค.ลบ 0.54% เม.ย.ลบ 2.99% และพ.ค.ลบ 3.44%แต่ไม่ใช่การฝืดจริง จึงไม่น่ากังวล เพราะหากดูลึกลงไป ราคาสินค้าหลายตัว ทั้งอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ได้ลดลง เป็นบวกด้วยซ้ำ แต่บวกไม่เยอะ เรียกว่าหมู เห็ด เป็ด ไก่ ไม่สามารถไปลดในสัดส่วนที่ลดลงมากของน้ำมัน ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และมาตรการลดค่าครองชีพของกระทรวงพาณิชย์ที่ทำร่วมกับผู้ประกอบการลงได้ ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าเงินฝืดแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจแย่”น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว
ทั้งนี้ หากดูเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักสินค้ากลุ่มอาหารสดและพลังงานออก ยังคงเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินค้ายังมีการเคลื่อนไหวทางด้านราคา ส่วนยอดรวม 5 เดือน ลดลง 0.40%
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะเดือนพ.ค.2563 น่าจะเป็นช่วงที่ต่ำที่สุดของปีนี้แล้ว เนื่องจากปัจจุบันกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น จากการคลายล็อกดาวน์ ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวและปรับตัวสูงขึ้น ส่วนค่าไฟฟ้า น้ำประปา ก็สิ้นสุดมาตรการลงแล้ว เงินเฟ้อน่าจะเริ่มขยับเพิ่มขึ้น แต่ยังคงประเมินว่าทั้งปีเงินเฟ้อน่าจะอยู่ในแดนลบ คงไม่กลับมาเป็นบวก เพราะฐานน้ำมันปีก่อนยังสูง ส่วนตัวเลขที่ชัดเจน ขอรอดูเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.2563 ก่อน ถึงจะประเมินอีกครั้ง แต่ตัวเลขปัจจุบันประเมินเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ ติดลบ 1.0% ถึงลบ 0.2% มีค่ากลางอยู่ที่ 0.6%
สำหรับ ปัจจัยที่มองว่า จะทำให้เงินเฟ้อกลับมาขยายตัว มาจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนได้ คนเริ่มกลับมาใช้จ่าย และยังมีการทยอยเปิดการท่องเที่ยวข้ามจังหวัด รัฐบาลกำลังมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อทดแทนรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจในประเทศหมุนเวียน ซึ่งมีผลต่อราคาสินค้า ขณะที่ภัยแล้ง แม้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ต้องติดตามราคาสินค้าเกษตรบางตัวอย่างใกล้ชิดต่อไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
******************************************
กด Like - Share เพจCorehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ