- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 17 October 2014 12:24
- Hits: 2463
เคาะราคา'หอมมะลิ'ตันละหมื่นหก'พ่อค้า-โรงสี-ชาวนา' รับได้ ชี้ส่งออกปีนี้มูลค่าพุ่งขึ้น 20%
แนวหน้า พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับ สมาคมผู้ส่งออกข้าว เพื่อรับฟังแนวโน้มราคาข้าว และหาแนวทางความร่วมมือในการดูแลราคาข้าวนาปี 2557/58 ไม่ให้ราคาตกต่ำ ขณะที่เอกชนมีความเห็นร่วมกันในการกำหนดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่ความชื้นไม่เกิน 15% ไม่ให้ต่ำกว่าราคา 15,000-16,000 บาทโดยเป็นราคาที่เหมาะสมและทั้ง ผู้ส่งออกข้าว โรงสี และชาวนาต่างยอมรับได้ โดยราคาดังกล่าวจะครอบคลุมในช่วงผลผลิตออกตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.นี้ ถึง ต้นม.ค.ปีหน้า ที่จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดส่วนมากในช่วงเดือน พ.ย.และธ.ค.นี้ คาดว่าจะมีปริมาณข้าวเปลือกหอมมะลิประมาณ 6 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการเตรียมแนวทางในการพยุงราคาข้าว เพื่อจะนำเสนอ ต่อคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว(นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบ โดยจะเสนอมาตรการจูงใจให้ชาวนา โรงสีและพ่อค้า ได้ดูดซับผลผลิตข้าวเปลือกที่จะออกสู่ตลาดรอบใหม่ โดยมีเป้าหมาย 2 ล้านตัน เช่น จูงใจให้ชาวนาเก็บข้าวในยุ้งฉาง และจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เป็นต้น รวมถึงการจัดทำข้าวถุงจำหน่ายให้ประชาชนในช่วงปีใหม่นี้ โดยมั่นใจว่า แนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน จะทำให้ราคาข้าวภายในประเทศ และรายได้ของชาวนาสูงขึ้น
"หลังจากนี้ จะเร่งทำความเข้าใจกับชาวนาและโรงสีถึงราคากลาง ที่พิจารณาว่ามีความเหมาะสมกับทุกฝ่าย หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มีความร่วมมือในการดันราคาข้าวเปลือกเจ้าให้ได้ตันละ 8,500 บาทแล้ว ตัวเลขราคากลางข้าว ได้มีการคิดอย่างรอบครอบ และกำหนดอยูบนทิศทางราคาข้าวที่เป็นไปได้ ซึ่งเอกชนรับได้"
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า มีโอกาสสูงที่การส่งออกข้าวไทยปีนี้ น่าจะได้ 11 ล้านตัน เนื่องจากช่วง 2 เดือนที่เหลือ เฉลี่ยการส่งออกจะเกิน 9 แสนตันต่อเดือน จาก 7 เดือนแรกของปีนี้ ส่งออกได้แล้วกว่า 8.3 ล้านตัน โดยมีมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และมีแนวโน้มที่ตัวเลขการส่งออก ในปี 2558 จะใกล้เคียงกับปี 2557
ดึงทุกฝ่ายช่วยซื้อข้าวเปลือกพณ.ใส่เกียร์ห้าดันราคาหอมมะลิ 1.5-1.6 หมื่น/ตัน
บ้านเมือง : พาณิชย์ ดึงผู้ส่งออกข้าวร่วมมือดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ 1.5-1.6 บาท/ตัน เตรียมชงมาตรการดันนบข.สัปดาห์หน้า ด้าน "ปนัดดา" อุบผลสอบคุณภาพข้าว-ส่งถึงมือนายกฯ แล้ว พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการดูแลราคาข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลนาปี 2557/58 ที่กำลังทยอยออกมาในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ โดยมีปริมาณมากถึง 6 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งเห็นพ้องที่จะกำหนดเป้าหมายในการผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ให้เกษตรกรขายได้ในราคาตันละ 1.5-1.6 หมื่นบาท โดยเป็นระดับราคาที่เกษตรกรพอใจ
ในการประชุมทางผู้ส่งออกข้าวก็ได้เสนอแนวทางที่จะทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ 1.5-1.6 หมื่นบาท/ตัน ซึ่งก็มีหลายวิธีการทั้งการดูดซับปริมาณส่วนเกินของข้าวมาเก็บไว้ในสต๊อกก่อน คาดว่าจะดูดซับออกมา 2 ล้านตัน โดยในการดูดซับก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแน่นอน และรัฐก็อาจจะดูแลช่วยเหลือในส่วนนี้ให้" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
สำหรับ รายละเอียดของมาตรการในการผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ขณะนี้ แต่จะมีมาตรการที่เพิ่มเติมนอกเหนือจากการดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาด เพราะต้องรอข้อสรุปและนำเสนอมาตรการให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นชอบก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ การดูแลราคาข้าวเปลือกเจ้า โดยได้กำหนดเป้าหมายไว้ที่ตันละ 8,500 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้าในตลาดใกล้เคียงกับราคาเป้าหมาย ถือเป็นราคาที่สมดุลกับทุกฝ่ายทั้งผู้ส่งออก ชาวนา และโรงสี และรูปแบบความร่วมมือกับภาคเอกชนก็จะดำเนินการต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไปด้วย
"ข้าวเปลือกเจ้ารัฐบาลอยากเห็นราคาเป้าหมายที่ตันละ 8,500 บาท ต้องใช้วิธีการกำหนดราคากลางขึ้นมาในลักษณะที่สร้างความยุติธรรมกับทุกกลุ่ม โดยราคากลางไม่ใช่ราคาบังคับ แต่เป็นราคาที่ยืนเป็นราคาแนะนำ ซึ่งการดูแลราคาข้าวควรจะปรับให้ผันแปรไปตามราคาตลาดโลก เพราะถ้าหากราคาตลาดสูงขึ้น ชาวนาก็ควรจะได้ราคาที่สูงขึ้นด้วย เรื่องนี้เราได้ทำความเข้าใจกับโรงสีแล้ว" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการรุกตลาดส่งออกข้าว โดยรัฐบาลและเอกชนประกอบการในการรุกตลาดส่งออกข้าว โดยรัฐบาลและเอกชนจะต้องร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลในการส่งออกข้าวเป็นรายตลาดๆ พร้อมทั้งสนับสนุนการทำแบรนด์ข้าวหอมมะลิไทย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทย และเป็นช่วงตลาดส่งออกสำคัญๆ ของไทย เช่น แอฟริกา จีน หรือฮ่องกง กลับคืนมา และทำให้ไทยกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวได้เหมือนเดิม
ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคม ผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปีนี้ไทยมีโอกาสจะส่งออกข้าว 11 ล้านตัน เพราะการส่งออกข้าวช่วง 9 เดือนสามารถส่งได้แล้ว 8 ล้านกว่าตัน เชื่อว่าอีก 3 เดือนที่เหลือหากส่งออกได้เดือนละ 1 ล้านตัน ตัวเลขส่งออก 11 ล้านตัน เป็นไปได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ กล่าวถึงการรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐว่า ได้จัดรายงานผลสรุปการตรวจสอบดังกล่าวส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปประชุมที่ประเทศอิตาลี ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่าหลังเดินทางกลับจากอิตาลีแล้ว จะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว(นบข.) ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาตัวเลขทั้งหมดที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบฯ ส่งให้ จากนั้นจะชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบ
เมื่อถามว่านายกฯ ได้กำชับหรือสั่งการเกี่ยวกับบทลงโทษ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตอย่างไรบ้าง ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ถ้าพบว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯ ทำงานไม่เต็มที่ ไม่ยึดกฎระเบียบปฏิบัติตามการสั่งการของคณะอนุกรรมการฯ ก็ต้องพิจารณา หากเป็นหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาข้าวและไซโลข้าว ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานด้านกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือองค์กรอื่นก็ตาม
พาณิชย์ เร่งดันราคาข้าวเปลือก ดึงโรงสี-พ่อค้าร่วมกันซื้อลุ้นส่งออกทะลุ 11 ล้านตัน
ไทยโพสต์ : นนทบุรี * รมว.พาณิชย์ดึงโรงสี-ผู้ส่งออกร่วมดันราคาข้าวเปลือก อ้อนซื้อจากชาวนาตามราคาเป้าหมาย เปลือกเจ้าตันละ 8,500 บาท หอมมะลิ 15,000-16,000 บาท ชง นบข.ไฟเขียว ด้านเอกชนเสนอจับคู่ "โรงสี-พ่อค้า" ดูดซับข้าวออกจากตลาด 3 แสนตัน การันตีราคาขึ้น ลุ้นส่งออกปีนี้ทะลุ 11 ล้านตัน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการดูแลราคาข้าวเปลือกหอมมะลินาปี ปี 2557/58 ที่ทยอยออกมาในช่วงปลายเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีปริมาณถึง 6 ล้านตันข้าวเปลือก โดยที่ประชุมเห็นพ้องที่จะกำหนดเป้าหมายในการผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ให้เกษตรกรขายได้ตันละ 15,000-16,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ
"ได้หารือกันถึงมาตรการที่จะผลักดันราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในช่วง 2 เดือนนี้เป็นไปตามราคาเป้าหมาย ซึ่งมีหลายมาตรการ เช่น การดูดซับข้าวออกจากตลาด ซึ่งได้ขอความร่วมมือทั้งโรงสี และผู้ส่งออกให้ช่วยด้วย คาดว่าจะดูดซับข้าวออกจากตลาดประมาณ 2 ล้านตัน แต่ต้องเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นชอบก่อน คาดว่าจะประชุมสัปดาห์หน้า" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
สำหรับวิธีการปล่อยเงินกู้ให้เกษตรกร 80% ของมูลค่าข้าวเปลือกเพื่อนำไปใช้ซื้อข้าวมาเก็บไว้ในยุ้งฉางตนเองในช่วงที่ข้าวเปลือกออกมาก เพื่อรอการขายในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะนำมาใช้ ส่วนการขอความร่วมมือจากทั้งโรงสีและผู้ส่งออก ให้รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรตามราคาเป้าหมายตันละ 15,000-16,000 บาท รัฐจะช่วยดูแลด้วย
ขณะที่การดูแลราคาข้าวเปลือกเจ้า ที่ต้องการเห็นเกษตรกรขายได้ไม่ต่ำกว่าตันละ 8,500 บาทนั้น จะมีการกำหนดราคากลางในการขายข้าวแบบที่สร้างความยุติธรรมกับทุกกลุ่ม ทั้งเกษตรกร โรงสี และผู้ส่งออก โดยราคากลางที่จะกำหนดขึ้น ไม่ใช่ราคาบังคับที่ภาคเอกชนจำเป็นต้องซื้อจากเกษตรกร แต่เป็นราคาแนะนำที่ภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐตัดส่วนแบ่งกำไรของตนเอง เพื่อให้เกษตรกรขายข้าวได้ในราคาสูงขึ้น
ส่วนการระบายข้าวสารใน สต็อกรัฐบาล ได้มอบนโยบายกรม การค้าต่างประเทศว่าต้องดำเนินการไม่ให้กระทบกับราคาข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ที่กำลังออกมา ถ้ากระทบก็ยังไม่ระบาย คาดว่าจะ เปิดประมูลข้าวรอบที่ 3 ราวสัปดาห์ หน้า ส่วนปริมาณต้องพิจารณาอีกครั้งตามความเหมาะสม
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมได้เสนอมาตรการให้มีการจับคู่ระหว่างโรงสีและผู้ส่งออก ที่จะซื้อข้าวในตลาดตามราคาเป้า หมาย โดยผู้ส่งออกจะซื้อข้าว สารจากโรงสีกิโลกรัมละ 29 บาท ทอนกลับมาเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิที่โรงสีจะต้องไปซื้อจากเกษตรกร ตันละ 15,000 บาท ในปริมาณรับซื้อ 300,000 ตัน จะเป็นการทำควบคู่กับมาตรการผลักดันให้เกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉาง คาดว่าจะช่วยดูดซับปริมาณข้าวเปลือกหอมมะลิออกจากตลาดได้อีก 2 ล้านตัน และจะช่วยผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเป็นไปตามเป้าหมายที่ รมว.พาณิชย์กำหนดไว้
นายชูเกียรติ กล่าวว่า ปีนี้ไทยมีโอกาสจะส่งออกข้าวได้มากถึง 11 ล้านตัน เพราะช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ส่งออกได้แล้ว 8 ล้านกว่าตัน อีก 3 เดือน หากส่งออกเดือนละ 1 ล้านตัน ปีนี้จะเพิ่มเป็น 11 ล้านตันได้.