- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 04 May 2020 20:01
- Hits: 6069
พาณิชย์ ส่งรถเร่ธงฟ้านำสินค้าถูกขายอีก 7 จังหวัด เน้นมีชุมชน โรงงาน นิคมอุตสาหกรรม
พาณิชย์”เตรียมส่ง ‘รถเร่ธงฟ้า’ นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพอีก 300 คัน วิ่งจำหน่ายให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยในต่างจังหวัด นำร่อง 7 จังหวัด ที่เป็นแหล่งชุมชน มีโรงงาน และนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่มาก ดีเดย์สัปดาห์นี้
นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดตัวรถเร่ธงฟ้า นำสินค้าสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่ ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง เจลล้างมือ ไปจำหน่ายให้กับประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด และจะเพิ่มสินค้าเนื้อไก่ เป็นสินค้าพิเศษเข้ามา เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตเนื้อไก่ให้มีช่องทางการระบายสินค้าเพิ่มขึ้น หลังจากที่ตลาดซบเซา โดยจะเริ่มก่อนประมาณ 7 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และนครปฐม
“ที่เลือก 7 จังหวัดนี้เป็นจังหวัดนำร่อง เพราะเป็นจังหวัดที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีหมู่บ้าน มีชุมชนมาก และยังเป็นจังหวัดที่มีผู้มีรายได้น้อยอาศัยอยู่มากด้วย เพราะเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม จึงเลือกมาดำเนินการก่อน ถ้าได้เสียงตอบรับที่ดี ก็จะทำต่อ เบื้องต้น จะมีรถเร่ธงฟ้าออกวิ่งประมาณ 300 คัน”
ส่วนจังหวัดอื่นๆ ได้มีการมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดลงสำรวจในทุกพื้นที่ เพื่อประเมินความต้องการของประชาชน เพราะบางจังหวัดสามารถหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพได้ง่าย มีทั้งตลาดสด ตลาดนัด ร้านโชวห่วย ห้างสรรพสินค้า ซึ่งสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการ หากจะส่งรถเร่ธงฟ้าเข้าไป ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับ การจัดรถเร่ธงฟ้าออกไปจำหน่ายสินค้าให้กับประชาชน เนื่องจากปัจจุบันยังมีการล็อกดาวน์ การเปิดให้บริการของร้านค้า ตลาด ห้างสรรพสินค้า แม้จะมีการคลายล็อกดาวน์ลงแล้ว แต่ก็ยังไม่เปิดเต็มรูปแบบ ทำให้ประชาชนยังคงหาซื้อสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพได้ยาก การส่งรถเร่ธงฟ้า จึงเป็นการเพิ่มทางการในการซื้อสินค้าให้กับประชาชน ที่ต้องอยู่บ้านเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งรถเร่ธงฟ้าจำนวน 350 คัน ออกวิ่งจำหน่ายสินค้าจำเป็นให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 350 คัน และยังมีเรือเร่ธงฟ้า นำสินค้าออกไปจำหน่ายให้กับประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมน้ำ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
พาณิชย์เผยราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทรงตัว หลังคนเลิกตื่นกักตุน
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย.63 จากการสำรวจในพื้นที่และสอบถามจากผู้ประกอบการว่า การซื้อขายมีทิศทางที่ดีขึ้น ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ และราคายังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา โดยอาหารสดส่วนใหญ่ปรับราคาเพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่แปรปรวน และปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด
ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว และบางรายการเคลื่อนไหวตามการจัดโปรโมชั่น สินค้าอนามัย (เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ) มีจำหน่ายเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนหน้ากากอนามัย ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่หันไปใช้หน้ากากผ้าทดแทน
ในขณะที่ภาคการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอ และมีอัตรากำลังการผลิตเหลืออยู่ แต่ความต้องการซื้อชะลอตัวและยังคงมีปัญหา/อุปสรรคในด้านสภาพคล่อง ต้นทุน การขนส่ง และแรงงานอยู่ ภาคการผลิตและจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง มีการปรับลดอัตรากำลังการผลิต ตามคำสั่งซื้อและการก่อสร้างที่ชะลอตัว สำหรับภาคการส่งออก ส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง และทรงตัว ยกเว้น สินค้าในกลุ่มผลไม้สด และปลาแปรรูป มีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งนี้ มาตรการห้ามส่งออกไข่ได้สิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย.63
“สถานการณ์ราคาและการผลิตยังไม่น่าเป็นห่วง ส่วนการบริโภคของประชาชน ไม่พบว่ามีการตื่นตกใจซื้อของไปเก็บจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา” ผู้อำนวยการ สนค. กล่าว
ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มลดลงจากมาตรการปิดประเทศของประเทศคู่ค้า และปัญหาการขนส่งเป็นสำคัญ ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกับรัฐบาลจีน เพื่อให้เปิดด่านขนส่งสินค้าอีก 2 ด่าน คือ ด่านรถไฟผิงเสียง และด่านตงซิง ซึ่งสินค้าไทยโดยเฉพาะผลไม้จะสามารถส่งผ่านด่านดังกล่าวไปทางเวียดนามได้เพิ่มเติม รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยกลุ่มต่าง ๆ ค้าขายผ่านทางออนไลน์ได้มากขึ้นต่อไป
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการให้รัฐช่วยด้านสภาพคล่อง การชดเชยรายได้ การลดต้นทุน เช่น ลดค่าไฟฟ้า และให้หาทางขยายการส่งออกทางช่องทางอื่น ๆ เช่น ทางอากาศ เป็นต้น ซึ่งหลายอย่าง ภาครัฐได้ดำเนินการไปแล้ว แต่อาจจะมีมาตรการอื่น ๆ ออกมาเสริมได้ และขณะนี้ได้เริ่มมีการผ่อนคลายการ lock down บางส่วน ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวเร็วขึ้นได้ในเวลาต่อไป
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web