- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 23 April 2020 21:10
- Hits: 3133
จุรินทร์ ถกแผนดันส่งออกอาหารสำเร็จรูป ปิ้งไอเดียทำคลิปโปรโมต 10 ภาษา
จุรินทร์ นำทีมผู้บริหารพาณิชย์พบปะกับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ส่งออกอาหารสำเร็จรูป ร่วมมือทำแผนช่วยเหลือเกษตรกร และผลักดันการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศ ทั้งในช่วงวิกฤตและหลังวิกฤตโควิด-19 ปิ้งไอเดียทำคลิปพีอาร์ผลิตภัณฑ์อาหารไทย 10 ภาษา สร้างการยอมรับในคุณภาพ มาตรฐาน พร้อมลุยเจาะตลาดเพิ่ม เร่งเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู ไทย-อังกฤษ แก้ปัญหาถูกเก็บภาษีสูง ขายออนไลน์ แก้เรื่องขนส่งติดขัด ดันบริโภคน้ำผลไม้เพิ่ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เดินทางไปพบปะกับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป ทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และเกษตรกร ที่โรงงานเทพผดุงพร พุทธมณฑลสาย 4 ว่า เป็นการมาหารือร่วมกันเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ และกำหนดแนวทางที่จะเดินหน้า ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเป็นห่วงโซ่การผลิตต้นทาง และผลักดันการส่งออกเพื่อนำรายได้เข้าประเทศ ทั้งในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 และหลังการระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารสำเร็จรูปและแปรรูปอันดับ 10 ของโลก มีสินค้าที่ส่งออกเป็นอันดับ 1 อยู่ 3 ตัว คือ สับปะรดกระป๋อง มะพร้าวกะทิ และข้าวโพดหวานกระป๋อง ปี 2562 ส่งออกมูลค่า 5.79 แสนล้านบาท คิดเป็น 7.6% ของการส่งออกรวมทั้งหมด และช่วง 3 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-มี.ค.) ส่งออกแล้ว 1.37 แสนล้านบาท โดยสินค้าที่มีศักยภาพการส่งออก เช่น อาหารทะเลสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป สับปะรดกระป๋องผลิตภัณฑ์กะทิ และข้าวโพดหวาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกัน ได้ข้อสรุปที่จะเดินหน้าทำการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์าอาหารไทย โดยจะทำคลิปขึ้นมา 10 ภาษา เพื่อสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยว่าการผลิตมีคุณภาพ มาตรฐานสากล มีความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า โดย 10 ภาษา ประกอบด้วย อังกฤษ สเปน รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน เช็ก อาหรับ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี และยังได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการขาย โดยประชุมออนไลน์ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งทำแผนเจาะตลาดอาเซียน เอเชีย ตะวันออกกลาง รัสเซีย และประเทศที่แตกมาจากรัสเซีย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้มีโอกาสทำตลาด
นอกจากนี้ จะเร่งรัดเจรจาการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) และไทย-สหราชอาณาจักร โดยเร็ว และเร่งแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีสับปะรดกระป๋องของออสเตรเลียในอัตราที่สูง และอียูเก็บภาษีข้าวโพดหวานกระป๋องสูง ซึ่งได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ไปเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหาแล้ว
ส่วนมาตรการอื่นๆ จะจัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพในการเป็นช่องทางระบายสินค้าด้านการเกษตรให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้แปรรูป และผู้ส่งออก เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ยังมีปัญหาติดขัด โดยเฉพาะการส่งออกทางบกผ่านเวียดนาม สปป.ลาว ไปจีน และทางด่านไทย-มาเลเซีย การเร่งใช้กลไกเกษตรพันธสัญญา เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ การส่งเสริมบริโภคน้ำผลไม้ 100% ซึ่งยังติดในเรื่องภาษีความหวาน ที่ควรจะทบทวนในส่วนของน้ำผลไม้ และการผลักดันให้ห้องเย็นที่มีอยู่กว่า 600 แห่งทั่วประเทศ เป็นสถานที่เก็บพืชผลทางการเกษตร เพื่อชะลอการออกสู่ตลาด
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web