WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaag1จุรินทร์

จุรินทร์ ตรวจสอบการระบายผลไม้ผ่านห้าง พร้อมสั่งพาณิชย์จังหวัดทำหน้าที่เซลล์แมนช่วยขาย

     จุรินทร์ ตรวจห้าง ติดตามผลการช่วยเกษตรกรระบายผลไม้ หลังลงนาม MOU ซื้อผลไม้ 1.67 หมื่นตัน มูลค่า 762 ล้านบาท เผยปีนี้ ต้องปรับระบบบริหารจัดการใหม่ เหตุเจอสถานการณ์โควิด-19 เล็งเพิ่มการจำหน่ายในประเทศทุกช่องทาง สั่งพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศทำหน้าที่เซลล์แมนขายผลไม้ พร้อมเร่งดันขายผ่านช่องทางออนไลน์

     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม Tops market ในห้างเซ็นทรัล สาขาแจ้งวัฒนะ ตามโครงการความร่วมมือระบายสินค้าเกษตร-ผลไม้ กับห้างสรรพสินค้า ว่า เป็นการมาติดตามความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่ห้างโมเดิร์นเทรด ทั้งบิ๊กซี เทสโก้ โลตัส เดอมอลล์ แมคโคร และท็อปส์ มาร์เก็ต ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการเป็นแหล่งระบายผลไม้ให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ซึ่งได้ทำสัญญากว่า 40 สัญญา เพื่อระบายผลไม้จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งช่วยให้สามารถขายผลไม้จากเกษตรทั่วประเทศได้ถึง 16,700 ตัน และมีมูลราคา 762 ล้านบาท

       สำหรับ ผลไม้ที่ได้มีการลงนามซื้อขายผ่านตลาดข้อตกลงนั้น ทางโมเดิร์นเทรดได้ทำสัญญากับสถาบันเกษตรกรจากจังหวัดเชียงใหม่ ลําพูน น่าน สุโขทัย ตราด จันทบุรี กว่า 40 สัญญา มีผลไม้ 9 ชนิด ได้แก่ ส้มเขียวหวาน ลําไย ลิ้นจี่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สละ และสับปะรด

     “เวลานี้จำเป็นต้องเร่งทำเป็นกรณีพิเศษ คือ เรื่องผลไม้ ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว และจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนถัดจากนี้ไป แต่ในช่วงที่ผ่านมา เราต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องปรับแผนงานทั้งหมด ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยขณะนี้เราประสบปัญหาผลไม้ในภาพรวมที่จะต้องส่งออก 60% ต้องปรับมาเป็นตลาดในประเทศบางส่วน เพื่อช่วยชาวสวน ซึ่งจากนี้จะเน้นทั้งการขายออฟไลน์ และออนไลน์”

       ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดออฟไลน์ ที่ผ่านมาได้ร่วมกับสมาคมค้าส่งค้าปลีกสินค้าเกษตรไทยและสมาคมตลาดสดในการช่วยระบายผลไม้ไปยังตลาดในประเทศ เช่น ตลาดไท และยังเร่งระบายผ่านห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด รวมทั้งกำลังเร่งใช้ตลาดในท้องถิ่นช่วยกระจาย โดยจะให้พาณิชย์จังหวัดประสานงานกับสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตผลไม้ทั่วประเทศที่มี 114 สหกรณ์ เพื่อร่วมมือนำผลไม้ไปขาย ต้องทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนจังหวัดขายผลไม้ เช่น ลองกองจากนราธิวาส เอาไปขายที่อุบลราชธานี ที่กรุงเทพฯ และที่ภาคเหนือ หรือมะม่วงจากอีสาน จากภาคเหนือ เอาไปขายที่กรุงเทพฯ และภาคอื่นๆ เป็นต้น

      ส่วนช่องทางออนไลน์ จะร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ไปรษณีย์ไทยและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น ลาซาด้า ช้อปปี้ จตุจักรมอลล์ ช่วยทำแคมเปญสนับสนุนการบริโภคผลไม้ไทยเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งปกติจะส่งออก แต่ปีนี้จะได้กินของดีในราคาประหยัด รวมทั้งรวมมือกับห้างที่มีช่องทางออนไลน์ เปิดให้สั่งซื้อผลไม้ทางออนไลน์ และร่วมมือกับแอปพลิเคชัน เช่น แกร็บ จำหน่ายผลไม้ทางออนไลน์ด้วย

 

จุรินทร์ บุกห้างโมเดิร์นเทรด นำเกษตรกรทำสัญญาขายผลไม้ 16,700 ตัน 762 ล้านบาท พร้อมสั่งพาณิชย์ทั่วประเทศทำหน้าที่”เซลล์แมนจังหวัด”ขายผลไม้ให้เกษตรกร

       นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตรวจเยี่ยมTops market ในห้างเซ็นทรัลตามโครงการความร่วมมือระบายสินค้าเกษตร-ผลไม้ กับห้างสรรพสินค้า ที่ Tops market สาขาแจ้งวัฒนะ โดยนายจุรินทร์ ใช้เวลาช่วงเช้าของวันนี้ตรวจเยี่ยมโครงการความร่วมมือเชื่อมโยงและกระจายสินค้าเกษตร-ผลไม้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด ซึ่งมีทั้งวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงปลอดสารพิษเพื่อการส่งออก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี สหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตร จังหวัดตราดวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออกอำเภอบางแพจังหวัดราชบุรีกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์วิถีธรรมชาติจังหวัดกำแพงเพชรและเกษตรกรจังหวัดนนทบุรี สุโขทัยอุทัยธานี นครปฐม สมุทรสาครสุพรรณบุรี ยะลา และอื่นๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความกลุ่มใจของกลุ่มเกษตรกรที่ได้มีโอกาสสินค้าเกษตรเข้าร่วมรายการในห้างสรรพสินค้าไหญ่

       ให้หลังการตรวจเยี่ยม นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือนี้เกิดจากนโยบายที่ได้ทำข้อตกลง MOU เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ในทุกห้างสรรพสินค้า โดยหลักการร่วมมือกัน “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อร่วมมือกันทำงานให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพจากเกษตรกรและกระทรวงพาณิชย์ช่วยระบายสินค้าทางการเกษตรไปยังตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับระยะเวลานี้ที่จำเป็นต้องเร่งทำเป็นกรณีพิเศษคือเรื่องผลไม้ ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้วจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนถัดจากนี้ไป สำหรับการเตรียมการเรื่องตลาดผลไม้นั้นได้มีการประชุมร่วมกันกับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ล้ง สหกรณ์การเกษตร กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรผู้ทำผลไม้แปรรูป และผู้ส่งออกร่วมกัน

       "แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาเราต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องปรับแผนงานทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนี้เราได้ข้อสรุปร่วมกันว่าสำหรับผลไม้นั้นจะต้องช่วยกันดำเนินการนอกจากทางด้านการผลิตที่ผลไม้ไทยถือว่ามีคุณภาพมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่งทางด้านการตลาดต้องดำเนินการทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ และขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินการช่วยระบายผลไม้ทั้งในส่วนตลาดออฟไลน์ และตลาดออนไลน์ควบคู่ไปด้วยกัน โดยเฉพาะสำหรับตลาดต่างประเทศขณะนี้ประสบปัญหาอยู่ว่าเรื่องผลไม้ในภาพรวมเราจะต้องส่งออกตัวสำคัญร้อยละ 60 ต้องปรับ มาเป็นตลาดในประเทศเพื่อช่วยชาวสวนเพิ่มให้มากขึ้นและส่วนของตลาดออนไลน์ในสัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียงหลายแพลตฟอร์มเพื่อนำผลิตผลของเกษตรกรขึ้นไปบนออนไลน์เพื่อที่จะได้ช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับเกษตรกรแต่สำหรับตลาดออฟไลน์นั้น ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมืออย่างดีกับตลาดค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ " นายจุรินทร์ กล่าว

      รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ไปประชุมร่วมกับสมาคมค้าส่งค้าปลีกสินค้าเกษตรไทยและสมาคมตลาดสดในการช่วยระบายผลไม้ไปยังตลาดในประเทศที่ตลาดไท นอกจากเราใช้ตลอดค้าส่งอันที่สองเราใช้ตลาดในท้องถิ่นพาณิชย์จังหวัดจะประสานกับเกษตรกรเพื่อช่วยระบายผลไม้ในประเทศ ในจังหวัดต่างๆให้ได้มากที่สุด ประการที่สาม ในการที่ได้สั่งการให้เตรียมการที่จะนำสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตผลเม้ทั่วทั้งประเทศที่กระทรวงเกษตรส่งรายชื่อมาให้มีทั้งหมด 114 สหกรณ์ด้วยกันจะต้องประชุมร่วมกันกับพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัดเพื่อให้พาณิชย์จังหวัดไปสำรวจตลาดที่ตนเองรับผิดชอบและทำการสั่งซื้อเพื่อที่จะไประบายในจังหวัดของตัวเองช่วยให้ลองกองจากนราธิวาส สามารถขายที่อุบล ที่อีสานที่ภาคเหนือที่กรุงเทพได้ช่วยให้มะม่วงจากอีสานจากภาคเหนือมาขายกรุงเทพภายภาคหน้าอื่นได้สลับกันโดยพาณิชย์จังหวัดจะเป็นสื่อกลางทำหน้าที่เซลล์แมนจังหวัดขายผลไม้ให้เกษตรกรและ

     ประการที่สี่ การร่วมมือกับโมเดิร์นเทรดต่างๆมีการทำ MOU ร่วมกันเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาและที่มาที่ท็อปส์วันนี้ก็เกิดจาก MOU ที่เราได้ลงนามร่วมกันที่จะช่วยเป็นแหล่งระบายผลไม้ให้กับเกษตรกรซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากทั้งบิ๊กซีโลตัส เดอะมอล์ แมคโคร ท็อปส์ มาร์เก็ต ที่มาเยี่ยมวันนี้ ขอบคุณท็อปส์ด้วยที่เป็นหนึ่งในสี่โมเดิร์นเทรดใหญ่ในการที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์โดยได้ทำสัญญา 40 สัญญา เพื่อระบายผลไม้จากหลายจังหวัดทั่วประเทศซึ่งช่วยให้สามารถขายผลไม้จากสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศได้ถึง 16,700 ตันและมีมูลราคา 762 ล้านบาทสำหรับความร่วมมือที่วันนี้ซึ่งท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ช่วยระบายในหลายสาขาของท็อปส์ช่วยให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ได้มีโอกาสในการระบายผลไม้ของตนเองผ่านโมเดิร์นเทรดขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทางท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตในวันนี้

      และผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆ ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2563 ออกมา 3 มาตรการ ประกอบด้วย

    มาตรการที่ 1 ส่งเสริมการซื้อขายผลไม้ผ่านตลาดข้อตกลง โดยมีการทำข้อตกลงระหว่าง Tops Market/ The Mall / Makro/ Lotus / Big C กับ สถาบัน เกษตรกรจากจังหวัดเชียงใหม่ ลําพูน น่าน สุโขทัย ตราด จันทบุรี กว่า 40 สัญญา โดยมีผลไม้ 9 ชนิด ได้แก่ ส้มเขียวหวาน ลําไย ลิ้นจี่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สละ และสับปะรด ปริมาณรวม 16,699.30 ตัน มูลค่ารวมกว่า 761.988 ล้านบาท

     มาตรการที่ 2 เพิ่มช่องทางการจัดจําหน่าย โดยจับมือกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาจํากัด(CPN)จัดพื้นที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ให้เกษตรกร จําหน่ายผักและผลไม้ให้กับผู้บริโภคโดยตรงผ่านกิจกรรม “ตลาดผลไม้รวมใจ” ระหว่างวันที่ 15 - 30 เม.ย. 63 โดยมีเซ็นทรัล 5 สาขา (ประกอบด้วย เวสเกต /ลาดพร้าว / พระราม 2/พระราม3/อิสวิลล์)และมีกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วม 14 กลุ่ม (พะเยา /อุตรดิตถ์/ พิจิตร/ ศรีสะเกษ/ อุดรธานี /ลพบุรี / จันทบุรี/ นครปฐม / ราชบุรี/ สมุทรสาคร / ปทุมธานี / ปัตตานี)

     มาตรการที่ 3 มาตรการรณรงค์การบริโภคในประเทศ เชิญชวนให้ประชาชนในประเทศบริโภคผลไม้ไทยตามฤดูกาล คนไทย ได้บริโภคผลไม้เกรดส่งออก รสชาติอร่อย ในราคา เหมาะสม และภายใต้ ความร่วมมือการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2563 และการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ COVID-19 ห้างท็อปส์ได้มีมาตรการเกษตรกรทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดย ช่องทางออฟไลน์ ท็อปส์รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปทั่วประเทศ จาก 1,170 ชุมชน 24,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ สินค้าเกษตรกว่า 9,000 รายการ และช่องทางออนไลน์ สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.tops.co.th และแอปพลิเคชั่น Grab ครอบคลุมพื้นที่บริการ 41 จังหวัดซึ่งจากสถานการณ์ COVID-19 พบว่า ผู้บริโภคนิยมสั่งซื้อผัก ผลไม้ อาหารสดเพิ่มมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!