- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 18 April 2020 22:08
- Hits: 3081
สมาชิก RCEP ประชุมทางไกลนัดแรกฉลุย ลุยขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย ปูทางลงนามปลายปี
สมาชิก RCEP นัดประชุมผ่านระบบทางไกลครั้งแรกผ่านฉลุย หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำหลายประเทศจำกัดการเดินทาง ทำให้ประชุมแบบปกติไม่ได้ เผยได้เดินหน้าขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย คาดแล้วเสร็จภายในก.ค.นี้ เพื่อให้สามารถลงนามได้ในปลายปี ตามที่ผู้นำตั้งเป้าหมายไว้ ระบุเตรียมนัดประชุมคณะเจรจา อีกครั้ง 20-24 เม.ย. หารือปรับตารางข้อผูกพัน ตั้งกลไกการทำงานของ RCEP และดึงอินเดียเข้าร่วมวง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP-TNC) ฝ่ายไทย ได้เข้าร่วมการประชุม RCEP ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งถือเป็นการนำมาใช้ในการประชุมเป็นครั้งแรก หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ มีมาตรการจำกัดการเดินทางเข้า-ออกประเทศ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดการประชุม RCEP ตามรูปแบบปกติได้
โดยในการประชุมดังกล่าว มีการหารือเกี่ยวกับแผนการทำงานในปี 2563 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกันว่าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชุมต่างๆ ของ RCEP ในช่วงนี้จนถึงช่วงกลางปี 2563 เช่น การประชุมคณะทำงานขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย และการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลง RCEP เป็นต้น มาเป็นการประชุมผ่านระบบทางไกลแทน
ทั้งนี้ ในส่วนการประชุมคณะทำงานเพื่อขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 6 บท เหลืออีก 14 บท ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และหลังจากนี้ สมาชิกจะประชุมผ่านระบบทางไกลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมายแล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.2563 ซึ่งจะทำให้สมาชิก RCEP มีเวลาเพียงพอในการดำเนินกระบวนการภายในได้ทันการลงนามความตกลงในปลายปีนี้ตามที่ผู้นำ RCEP ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้
นางอรมน กล่าวว่า การประชุม RCEP-TNC ครั้งที่ 29 จะมีการประชุมทางไกลระหว่างวันที่ 20-24 เม.ย.2563 เพื่อหารือประเด็นคงค้าง เช่น การปรับตารางข้อผูกพันของสมาชิก RCEP ให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน การจัดตั้งกลไกการทำงานของ RCEP ภายหลังความตกลงมีผลบังคับใช้ และการประสานงานกับอินเดียเพื่อร่วมอยู่ในความสำเร็จของ RCEP เป็นต้น โดยการนำการประชุมผ่านระบบทางไกลมาใช้ ซึ่งจะทำให้การทำงานของ RCEP ดำเนินไปได้ตามกำหนด
สำหรับ การลงนามความตกลง RCEP จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งในส่วนของไทย RCEP จะช่วยขยายการส่งออก รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของไทย โดยเฉพาะน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารส่งออกที่สำคัญ จะสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และยังจะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่คุณค่าในระดับภูมิภาคได้ พร้อมทั้งสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุนในประเทศสมาชิก RCEP ในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น ก่อสร้าง ค้าปลีก ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์และบันเทิง เป็นต้น
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web