- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 18 April 2020 19:59
- Hits: 3216
พาณิชย์ จับแหลก ยอดวันเดียวพุ่ง 19 ราย ทำผิดคดีเจลแอลกอฮอล์-หน้ากากอนามัย
พาณิชย์ จับแหลก ผู้กระทำความผิดเจลแอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย ยอดวันเดียวพุ่ง 19 ราย เจอทั้งไม่ปิดป้ายแสดงราคา ไม่แจ้งราคาซื้อขาย สต๊อก ขายแพงเกินจริง ลั่นเดินหน้าตรวจสอบและจับกุมพวกเอารัดเอาเปรียบประชาชนต่อไป
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 17 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์เพิ่มสูงถึง 19 ราย แยกเป็นการจับกุมในกรุงเทพฯ 3 ราย และต่างจังหวัด 16 ราย ทำให้ยอดการจับกุมเพิ่มขึ้นเป็น 361 ราย เป็นกรุงเทพฯ 163 ราย และต่างจังหวัด 198 ราย
สำหรับ รายละเอียดการจับกุม ในกรุงเทพฯ 3 ราย ได้แก่ ร้านค้าทั่วไปจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ จำนวน 2 ราย โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิด ตามมาตรา 28 และตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ 1 ราย พบการกระทำความผิดเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุน และไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือรายวัน ต่อ กกร. จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 26
ส่วนในต่างจังหวัด 16 ราย แยกเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย เป็นร้านค้าทั่วไป จำนวน 8 ราย ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร 6 ราย และจังหวัดเพชรบุรี 2 ราย
กระทำความผิดตามมาตรา 25 (1) มาตรา 29 และมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินสมควร และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ในจังหวัดนครสวรรค์ 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบขายปลีก ในราคาชิ้นละ 18 จำนวน 58 ชิ้น และยังพบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุแพกละ 5 ชิ้น ในราคา 80 บาทต่อแพก เฉลี่ยชิ้นละ 16 บาท รวม 75 ชิ้น
กระทำความผิดตามมาตรา 25 และมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร ในจังหวัดขอนแก่น 3 ราย เป็นร้านค้าทั่วไปพบจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 450–620 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 9.00–12.40 บาท
กระทำความผิดตามมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร โดยการล่อซื้อและจับกุมร้านค้าทั่วไปจำหน่ายหน้ากากอนามัย 3 ราย ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม 2 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย แบบขายปลีกในราคาชิ้น 15–20 บาท จังหวัดนครพนม 1 ราย พบจำหน่ายหน้าอนามัยทางการแพทย์ บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่อง 730 บาท เฉลี่ยชิ้นละ14.60 บาท และจังหวัดอุตรดิตถ์ 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคา 990 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 19.80 บาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าติดตาม ตรวจสอบ และจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ต่อไป โดยจะมีการตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าทั่วไป หากพบขายเกินราคา มีการกักตุนสินค้า หรือเอาเปรียบประชาชน จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยผู้บริโภคหากพบเห็นการกระความผิด สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
พาณิชย์ จับรายวัน รวบผู้กระทำความผิดหน้ากากอนามัย 6 ราย ขายไข่ไก่แพง 1 ราย
พาณิชย์ แถลงผลจับกุมหน้ากากอนามัยรายวัน รอบนี้จับเพิ่มได้อีก 6 ราย เป็นร้านขายยาจำหน่ายราคาแพงเกินควร และเจอขายในเฟซบุ๊กขายเกินราคาที่กำหนด ที่เหลือผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา รวมยอดทั้งหมดเพิ่มเป็น 342 ราย ส่วนไข่ไก่ แม้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังมีพวกเอาเปรียบ จับเพิ่มได้ 1 ราย รวมเป็น 27 ราย
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 16 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 6 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 1 ราย และต่างจังหวัด 5 ราย ทำให้ยอดจับกุมเพิ่มขึ้นเป็น 342 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 160 ราย และต่างจังหวัด 182 ราย
ทั้งนี้ รายละเอียดการจับกุมในส่วนของกรุงเทพฯ 1 ราย เป็นการจับกุมร้านขายยา มีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาสีฟ้า บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 890 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 17.80 บาท แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 ส่วนในต่างจังหวัด 5 ราย แยกเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 28 จำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย 4 ราย ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 ราย จังหวัดสกลนคร 1 ราย จังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย และจังหวัดอุดรธานี 1 ราย (จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก) และในจังหวัดอุดรธานี 1 ราย กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากกากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก แจ้งข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด ตามมาตรา 25
สำหรับ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนไข่ไก่ แม้สถานการณ์ภาพรวมจะดีขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์ ยังคงติดตามตรวจสอบ และดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามข้อร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่ราคาแพงเกินสมควรเพิ่ม 1 ราย ในจังหวัดราชบุรี ทำให้สถิติการจับกุมดำเนินคดีเรื่องไข่ไก่ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 27 ราย
“ขอย้ำเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมกักตุนสินค้า ค้ากำไรเกินควร และเอารัดเอาเปรียบประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าจำเป็นอื่นๆ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หากมีการตรวจสอบพบจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โดยผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด”นางลลิดากล่าว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web