WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaDFTA

พาณิชย์ เผยไทยส่งออกถุงมือยางเพิ่ม หลังโควิด-19 ระบาด ชี้เอฟทีเอมีส่วนช่วยหนุน

     พาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด พบสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการป้องกันไวรัสส่งออกได้เพิ่มขึ้น ทั้งถุงมือยาง ยางสังเคราะห์ที่ใช้ทำถุงมือ เผยเอฟทีเอมีส่วนช่วยหนุน หลังคู่เจรจาลดภาษีนำเข้า โดยส่งออกไปจีนสูงสุด ตามด้วยอาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย พร้อมแนะศึกษารายละเอียดการลดภาษีก่อนส่งออก เพื่อที่จะได้ใช้สิทธิและทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้น  

      นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หลายประเทศปิดโรงงานผลิตหรือชะลอการผลิตรถยนต์ ทำให้ความต้องการยางลดลงตามไปด้วย แต่ไทยยังส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ยางได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันไวรัส เช่น ถุงมือยาง ยางสังเคราะห์ที่ใช้ทำถุงมือยาง โดยได้รับรายงานว่าในช่วง 2 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ก.พ.) การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางและยางแปรรูปของไทยไปตลาดโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้สินค้าของไทยแข่งขันได้ ส่วนหนึ่งมาจากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า ที่ช่วยให้สามารถขยายการส่งออกสินค้าได้มากขึ้น

      “ได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งศึกษาข้อมูลช่องทางการขยายตลาดส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ยางของไทย โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกให้ผู้ประกอบการไทย ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ให้ได้เพิ่มขึ้นต่อไป”

     นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนของปี 2563 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง และยางแปรรูปในลักษณะผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น ยางล้อรถยนต์ ถุงมือยาง ยางยืด ยางรัดของ และยางสังเคราะห์ เป็นต้น ไปตลาดโลกมีมูลค่า 1,969 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% และในจำนวนนี้ เป็นการส่งออกไปยังประเทศคู่เจรจาเอฟทีเอมูลค่า 965 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.83% โดยส่งออกไปจีนสูงสุด ตามด้วยอาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย 

    ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีเอฟทีเอ 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ โดยมี 13 ประเทศ ไม่เก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางส่งออกจากไทยแล้ว ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ยังเหลืออีก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ชิลี และเปรู ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางบางรายการจากไทย เช่น จีน เก็บภาษียางสังเคราะห์ อัตรา 5% เกาหลีใต้ เก็บภาษียางสังเคราะห์ อัตรา 5% อินเดีย เก็บภาษียางนอกชนิดที่ใช้กับรถยนต์นั่ง และของที่ทำด้วยยาง เช่น rubber band อัตรา 5% และชิลี เก็บภาษียางนอกชนิดที่ใช้กับรถยนต์นั่งและรถบัสอัตรา 1.32% เป็นต้น ซึ่งในการส่งออก จะต้องศึกษาและดูว่าประเทศที่ส่งออกไปนั้น ไทยมีเอฟทีเอด้วยหรือไม่ ถ้ามีก็ควรที่จะใช้สิทธิเอฟทีเอในการส่งออก เพื่อสร้างแต้มต่อและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทย

       สำหรับ ในปี 2562 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปประเทศคู่เอฟทีเอ มูลค่า 5,143 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 46% ของการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางทั้งหมดของไทย ที่มีมูลค่า 11,238 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยครองตำแหน่งผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง และยางแปรรูป เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากจีน เยอรมนี และสหรัฐฯ โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และออสเตรเลีย แบ่งเป็นประเภท เช่น ยางยานพาหนะ สัดส่วน 51% ของการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทย ยางสังเคราะห์ สัดส่วน 19% และถุงมือยาง สัดส่วน 11%

       อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไทยไปตลาดโลก ในปี 2562 กับปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ความตกลงเอฟทีเอฉบับแรกของไทยกับอาเซียนจะมีผลใช้บังคับ พบว่า ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปตลาดโลก เพิ่มสูงขึ้น 2,981% และส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางไปประเทศคู่เอฟทีเอ ขยายตัว 5,970% โดยหากแยกเป็นรายตลาด พบว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางของไทยไปประเทศคู่เอฟทีเอเพิ่มขึ้นทุกตลาด ยกเว้นฮ่องกง ที่เพิ่งเริ่มใช้บังคับมิ่.ย.2562 โดยอาเซียนขยายตัวสูงสุด 5,674% รองลงมา จีน ขยายตัว 2,721% นิวซีแลนด์ ขยายตัว 706% และเกาหลีใต้ ขยายตัว 574% ซึ่งสอดคล้องกับสถิติที่พบว่าผลิตภัณฑ์ยางเป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยขอใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอในการส่งออกเป็นอันดับต้น

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!