WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBDลลิดา จิวะนันทประวัติ

พาณิชย์ สรุปผลการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย/แอลกอฮอล์ เพิ่มเป็น 248 ราย กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 (ประจำวันที่ 3 เมษายน 2563)

    พาณิชย์ เผยผลการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ได้เพิ่มอีก 7 ราย ส่วนไข่ไก่ไม่พบผู้กระทำความผิดต่อเนื่อง เหตุสถานการณ์ดีขึ้น ฟาร์มได้รับคำสั่งซื้อชะลอตัวลง ผู้จำหน่าย รายใหญ่ส่งสินค้าเข้าตลาดมากขึ้น ขณะที่ห้างและร้านค้าปลีกมีสินค้าจำหน่ายเพียงพอ

      นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ ได้เพิ่มอีก 7 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 2 ราย โดยเป็นการจับกุมร้านค้าออนไลน์บนเฟซบุ๊ก จำหน่ายหน้ากากอนามัยนำเข้าจากจีน ราคากล่องละ 665 บาท ราคาเฉลี่ย 13.30 บาทต่อชิ้น รวม 2.5 แสนชิ้น ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 29 แล้ว และจับกุมผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ไม่ปิดป้ายแสดงราคา โดยได้เปรียบเทียบปรับตามมาตรา 28 แล้ว

       ส่วนในต่างจังหวัด 5 ราย โดยจับกุมร้านค้าทั่วไปจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริง 2 รายที่จังหวัดเพชรบูรณ์และชลบุรี จับกุมร้านค้าที่จำหน่ายเกินราคาควบคุม 1 ราย ที่จังหวัดระนอง และจับกุมร้านค้าไม่ปิดป้ายแสดงราคา 2 ราย ที่จังหวัดชัยภูมิ ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเป็น 248 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 122 ราย และต่างจังหวัด 126 ราย

        ส่วนการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 2 เม.ย.2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม เพราะขณะนี้ ผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดปกติ ฟาร์มไข่ไก่ได้รับคำสั่งซื้อชะลอตัวลงจากช่วงสัปดาห์ก่อนที่มีความต้องการมาก ทำให้สามารถส่งไข่ไก่ให้กับผู้ค้าส่งได้มากขึ้น ทำให้ได้รับสินค้าเพียงพอที่จะกระจายต่อไปยังผู้ค้าปลีก ขณะที่ผู้จำหน่ายรายใหญ่ ทั้งซีพี เบทาโกร ก็กระจายไข่ไก่เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น โดยสถานการณ์ในห้างโมเดิร์นเทรด เช่น แม็คโคร บิ๊กซี เทสโก้โลตัส มีสินค้าวางจำหน่ายเพิ่มขึ้น แต่ยังจำกัดการซื้อของประชาชนคนละ 1-2 แผง เพื่อกระจายให้ทั่วถึง ส่วนประชาชนมีการซื้อเท่าที่จำเป็น

      สำหรับ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) และมาตรา 25 (5) ไม่แจ้งต้นทุนซื้อขาย สต๊อก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

       ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในช่วงนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ขอให้ผู้ค้าสินค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเด็ดขาด และหากผู้บริโภคพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน และในต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด

 

พาณิชย์ สรุปผลการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย/เจลแอลกอฮอล์ เพิ่มเป็น 241 ราย กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 (ประจำวันที่ 2 เมษายน 2563)

     โฆษกกระทรวงพาณิชย์ สรุปผลการจับกุมสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ จับผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงได้อีก 5 ราย ทั้งขายผ่านเฟซบุ๊กและร้านค้าทั่วไป ส่วนไข่ไก่ไม่พบผู้กระทำผิด หลังสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง ฟาร์มเร่งป้อนเข้าสู่ตลาด ร้านค้าทั่วไปมีจำหน่าย เผยล่าสุดพาณิชย์ เพิ่มรถธงฟ้า เรือธงฟ้า นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นขายให้กับประชาชน

      นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2563 กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ได้เพิ่มอีก 5 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 4 ราย ได้แก่ ร้านค้า Online บน Platform Facebook 2 ราย เป็นการล่อซื้อและจับกุม พบขายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 750–770 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15-15.40 บาท จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดขายแพงเกินสมควร ร้านค้าทั่วไป 1 ราย กระทำความผิดในข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และอีก 1 ราย กระทำความผิดไม่แจ้งต้นทุน ปริมาณการผลิต และปริมาณคงเหลือ และในต่างจังหวัด 1 ราย คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นร้านค้าทั่วไป ซึ่งได้แจ้งข้อหากระทำความผิดขายเกินราคาควบคุมและขายแพง เกินสมควร

       สำหรับ ถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ในภาพรวม มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วทั้งสิ้น 241 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 120 ราย และในต่างจังหวัด 121 ราย

        ส่วนการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 1 เม.ย.2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม เพราะขณะนี้สถานการณ์ไข่ไก่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟาร์มผลิตไข่ไก่ ได้ส่งไข่ไก่ป้อนเข้าสู่ตลาด พ่อค้าคนกลาง มีไข่ไก่ส่งกระจายต่อไปยังผู้ค้ารายย่อย ทำให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อไข่ไก่ได้เป็นปกติ ทำให้ยอดจับกุมรวมตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-2 เม.ย.2563. ยังคงเดิมที่ 24 ราย

      ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

       นายสุพพัตกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยล่าสุดมีรถธงฟ้า ที่ตะเวนออกจำหน่ายสินค้าในแหล่งชุมชน หมู่บ้านต่างๆ รวม 260 คัน โดยนำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันปาล์ม และเจลล้างมือ เป็นต้น ไปจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด และยังเพิ่มทางเลือกสำหรับประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำ ได้จัดส่งเรือธงฟ้านำสินค้าจำเป็นไปจำหน่ายถึงหน้าบ้านด้วย ส่วนในต่างจังหวัด ก็จะมีการดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้

      สำหรับ เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ปริมาณการผลิตเริ่มมีมากขึ้นแล้ว หลังจากที่กรมสรรพสามิตปลดล็อกให้มีการนำแอลกอฮอล์มาใช้ได้ ทำให้ผู้ผลิตต่างๆ เริ่มมีการผลิตป้อนเข้าสู่ตลาด ส่วนปัญหาการขาดแคลนภาชนะบรรจุและหัวปั๊ม ก็มีการนำเข้าจากจีนเข้ามาแล้ว

       อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในช่วงนี้จะให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ จึงขอให้ผู้ค้าสินค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเด็ดขาด และหากผู้บริโภคพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน และในต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด

****************************************** 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!