- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 31 March 2020 19:30
- Hits: 2893
การจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนกุมภาพันธ์
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 6,407 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 30,298 ล้านบาท
- ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 597 ราย คิดเป็น ร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 332 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 191 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,713 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.56 รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,599 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.96 ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 84 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.31 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 11 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 ตามลำดับ
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม จำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.พ. 63 มีจำนวน 13,349 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.พ. 62) จำนวน 13,874 ราย โดยลดลงจำนวน 525 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.พ. 63 มีจำนวน 46,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,003 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.พ. 62) จำนวน 34,551 ล้านบาท
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนกุมภาพันธ์
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีจำนวน 815 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 6,026 ล้านบาท
- ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 104 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 51 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 21 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 563 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.08 รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 223 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.36 ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 26 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.19 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.37 ตามลำดับ
- ธุรกิจเลิกสะสม จำนวนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.พ. 63 มีจำนวน 2,222 ราย เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จำนวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. - ก.พ. 62) จำนวน 2,213 ราย สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.พ. 63 มีจำนวน 9,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,933 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. - ก.พ. 62) จำนวน 6,993 ล้านบาท
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกุมภาพันธ์
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 29 ก.พ. 63) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน757,178 ราย มูลค่าทุน 18.42 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 186,103 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.58 บริษัทจำกัด จำนวน 569,816 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.25 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,259 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 ตามลำดับ
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 447,316 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.08 รวมมูลค่าทุน 0.39 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.12 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 222,898 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.44 รวมมูลค่าทุน 0.73 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.96 ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 71,338 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.42 รวมมูลค่าทุน 1.94 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.53 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15,626 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.06 รวมมูลค่าทุน 15.36 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.39 ตามลำดับ
การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว
เดือนกุมภาพันธ์
- เดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 59 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 20 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 39 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 16,840 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2563 จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น 9% (เพิ่มขึ้น 5 ราย) ในขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 301 % (12,642 ล้านบาท)
- นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 17 ราย เงินลงทุน 1,311 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,756 ล้านบาท และเกาหลีใต้ 4 ราย เงินลงทุน 188 ล้านบาท
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web