- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 23 March 2020 23:24
- Hits: 6599
ไทยขึ้นแท่นส่งออก 'อาหารสัตว์' เบอร์ 4 โลก เผยเอฟทีเอมีส่วนช่วยหนุน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยไทยขึ้นแท่นผู้ส่งออก 'อาหารสัตว์เลี้ยง' รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก มียอดส่งออกปี 62 สูงถึง 1,693 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เป็นการส่งออกไปยังคู่เจรจาเอฟทีเอเกินครึ่ง 954 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือสัดส่วน 56% เหตุเอฟทีเอช่วยขจัดภาษี ล่าสุดมี 15 ประเทศไม่เก็บภาษีแล้ว เหลืออีกแค่ 3 ประเทศเท่านั้นที่ยังเก็บอยู่บางรายการ แนะคุมมาตรฐาน ผลิตอาหารสัตว์ที่ตลาดต้องการ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามผลการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง ในปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่า มีมูลค่าสูงถึง 1,693 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% และในจำนวนนี้ เป็นการส่งออกไปยังประเทศที่มีการทำเอฟทีเอกับไทย 18 ประเทศ เป็นมูลค่า 954 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 56% ของการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยไปทั่วโลก โดยเป็นอาหารสำหรับสุนัขและแมว สัดส่วน 82% และอาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สัดส่วน 18% มีประเทศคู่ค้าสำคัญ 5 อันดับแรก ทั้งที่ทำเอฟทีเอกับไทยและยังไม่มีเอฟทีเอ ได้แก่ อาเซียน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย และยังส่งผลให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับที่ 4 ของโลกแล้ว รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐฯ และจีน
ทั้งนี้ เอฟทีเอถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย เพราะช่วยขจัดอุปสรรคด้านภาษีศุลกากรในประเทศคู่ค้า ทำให้ได้แต้มต่อในการแข่งขัน โดยปัจจุบันสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทุกรายการไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าใน 15 ประเทศที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรูและฮ่องกง มีเพียงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ยังคงการเก็บภาษีนำเข้ากับไทยในบางรายการสินค้า
ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย มาจากจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น คุณภาพการผลิตของไทยที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก การเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยของบริษัทผู้ผลิตต่างชาติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ความตกลงเอฟทีเอฉบับแรกของไทยกับอาเซียนจะมีผลบังคับใช้ จนถึงปี 2562 รวมระยะเวลากว่า 27 ปี พบว่า มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 828% การส่งออกกับคู่เอฟทีเอขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยอาเซียนขยายตัวสูงสุด 6,306% รองลงมาได้แก่ จีน ขยายตัว 3,969% เกาหลีใต้ ขยายตัว 650% อินเดีย ขยายตัว 573% นิวซีแลนด์ ขยายตัว 531% และออสเตรเลีย ขยายตัว 244% เป็นต้น
นางอรมน กล่าวว่า เพื่อให้สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทยครองใจผู้บริโภคในตลาดโลก ผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารสัตว์ของไทยควรรักษามาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับหลักการสากลด้านสุขอนามัย และปฏิบัติตามกฎระเบียบการนำเข้าอย่างเคร่งครัด รวมทั้งต้องศึกษาแนวโน้มตลาดให้ดี เพราะปัจจุบันเจ้าของสัตว์เลี้ยงใส่ใจสุขภาพสัตว์เลี้ยงรวมถึงอาหารที่ให้สัตว์เลี้ยงบริโภค อาหารสัตว์เลี้ยงจึงควรเป็นอาหารคุณภาพดี มีประโยชน์ และช่วยดูแลสุขภาพให้กับสัตว์เลี้ยง มีความหลากหลายในชนิดของอาหาร เช่น อาหารปลอดสารพิษ อาหารแคลอรี่ต่ำ อาหารมีส่วนผสมทั้งเนื้อสัตว์และผัก ตลอดจนอาหารสำหรับสัตว์ที่เจ็บป่วย
พาณิชย์ ปลดล็อกส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงไปนิวซีแลนด์สำเร็จ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยข่าวดีนิวซีแลนด์ยอมรับเอกสารรับรองการส่งออกของกรมปศุสัตว์ไทยแล้ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีเนื้อโคเป็นส่วนประกอบของไทยสามารถส่งออกไปยังตลาดนิวซีแลนด์ได้ง่ายขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 กระทรวงอุตสาหกรรมขั้นปฐมของนิวซีแลนด์ (Ministry of Primary Industries : MPI) ได้แจ้งยอมรับเอกสารรับรองการส่งออก (Official certificate for dried or retorted pet food processed in Thailand) ของกรมปศุสัตว์ไทยแล้ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องการส่งเสริมการค้าการลงทุนและการลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน และไทยได้ขอให้นิวซีแลนด์ช่วยแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP JC) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 – 29 พฤศจิกายน 2562
นางอรมน เสริมว่า ที่ผ่านมาผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยไม่สามารถส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีเนื้อโคเป็นส่วนประกอบไปนิวซีแลนด์ได้ เพราะต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงอุตสาหกรรมขั้นปฐมของนิวซีแลนด์ โดยผู้ผลิตของไทยจะต้องตอบแบบสอบถามตามข้อกำหนดด้านเทคนิคและสุขอนามัย และต้องมีเอกสารรับรองการส่งออกจากกรมปศุสัตว์ของไทยที่นิวซีแลนด์ยอมรับ จึงจะสามารถส่งออกไปนิวซีแลนด์ได้ ดังนั้น การยอมรับเอกสารดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ประกอบการสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีเนื้อโคเป็นส่วนประกอบของไทยสามารถส่งออกไปยังตลาดนิวซีแลนด์ได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ส่งออกไทย
ทั้งนี้ ธุรกิจสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงถือเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่น่าจับตามอง โดยมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์ เช่น สุนัขและแมว ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด ในปี 2562 ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ และจีน มีมูลค่าส่งออก 1,693 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปี 2561 มีตลาดส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญ ได้แก่ อาเซียน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย สำหรับในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์ถือเป็นตลาดที่ไทยส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2560 ไทยส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทยไปนิวซีแลนด์มีมูลค่าเพียง 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ปี 2562 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็น 10 ล้านเหรียญสหรัฐ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web