WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaagEวิชัย โภชนกิจ

'พาณิชย์'กระจาย“แมสก์’เพิ่มเป็นวันละ 1.71 ล้านชิ้น รพ.ได้ 9 แสนชิ้น ประชาชน 8.1 แสนชิ้น

     พาณิชย์ แจ้งข่าวดี กระจายหน้ากากอนามัยได้เพิ่มเป็นวันละ 1.71 ล้านชิ้น หลังผู้ผลิตร่วมมือปรับสายการผลิตหันมาทำแบบสีเขียวเพิ่มขึ้น เผยแบ่งจัดสรรให้สาธารณสุข 9 แสนชิ้น เพื่อกระจายไปโรงพยาบาลรัฐ เอกชน สถานพยาบาล ส่วนอีก 8.1 แสนชิ้น กระจายให้ผู้ทำงานกลุ่มเสี่ยง และประชาชน ผ่านร้านสะดวกซื้อ ร้านธงฟ้า ร้านขายยา และล่าสุด ‘คาเฟ่ อเมซอน’ จะเข้าร่วมเป็นช่องทางจำหน่ายด้วย

      นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมฯ ได้ขอความร่วมมือไปยังโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยทั้ง 11 แห่ง ปรับสายการผลิตจากการผลิตหน้ากากชนิดอื่น เช่น หน้ากากคาร์บอน และ N 95 มาเป็นการผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากโรงงานผลิตเป็นอย่างดี ทำให้มีหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นจากเดิมวันละ 1.2 ล้านชิ้น เป็น 1.56 ล้านชิ้นต่อวัน และล่าสุดวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.71 ล้านชิ้นต่อวัน ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณการกระจายให้กระทรวงสาธารณสุขและกระจายให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้และประชาชนได้มากขึ้น

     ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข จะได้เพิ่มเป็นวันละ 9 แสนชิ้น เพื่อนำไปกระจายให้โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลกรมการแพทย์ โรงพยาบาลรัฐนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 5.7 แสนชิ้น สถานพยาบาลเอกชน จำนวน 1.8 แสนชิ้น โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช จำนวน 8 หมื่นชิ้น และสถานพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แก่ สำนักอนามัย จำนวน 7 หมื่นชิ้น

     ขณะที่กรมการค้าภายใน จะกระจายไปให้ประชาชนจำนวน 8.1 แสนชิ้น โดยขายหน้ากากอนามัยบรรจุแพ็ก 4 ชิ้น แพ็กละ 10 บาท ผ่านร้านธงฟ้าและร้านขายยา จำนวน 2 แสนชิ้น , เทสโก้โลตัส (180 สาขา) จำนวน 1 แสนชิ้น แม็คโคร (95 สาขา) จำนวน 1 แสนชิ้น , บิ๊กซี (150 สาขา) จำนวน 1 แสนชิ้น , วิลล่ามาร์เก็ต (36 สาขา) จำนวน 6 หมื่นชิ้น , ท็อปส์ (204 สาขา) จำนวน 1 แสนชิ้น , สมาคมร้านขายยา จำนวน 1.5 หมื่นชิ้น , สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จำนวน 1 หมื่นชิ้น , 7-11 จำนวน 1.2 แสนชิ้น และกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ 5,000 ชิ้น ทั้งนี้ ล่าสุดทางคาเฟ่ อเมซอน จะเข้ามาร่วมเป็นช่องทางในการกระจายหน้ากากอนามัยด้วย

      “การกระจายหน้ากากอนามัย ณ ตอนนี้ ศูนย์บริหารจัดการสินค้าหน้ากากอนามัย จะทำหน้าที่กระจายให้กับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ก่อน อย่างโรงพยาบาล สถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ จะได้รับเป็นลำดับแรก และคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่างคนทำงานในสนามบิน ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ จากนั้นกระจายให้กับประชาชนที่ต้องใช้ป้องกันตนเอง โดยการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยที่มีตอนนี้วันละ 1.71 ล้านชิ้น แต่ละส่วนสามารถปรับขึ้นลงได้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง”นายวิชัยกล่าว

       นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการผลิตหน้ากากอนามัย ได้มีการหารือกับโรงงานผลิตแล้ว คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เต็มที่เป็นวันละ 2.2 ล้านชิ้น หลังจากที่มีการปรับสายการผลิต ปรับจูนเครื่องจักร และวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ผลิต เพราะเดิมผลิตหน้ากากชนิดอื่น เมื่อปรับสายการผลิต ก็ต้องปรับในเรื่องวัตถุดิบด้วย โดยคาดว่าปลายสัปดาห์หน้า น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

      ส่วนปัญหาการจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ที่มีพนักงานซื้อสินค้าแล้วนำมาขายเองนั้น ได้หารือกับร้านสะดวกซื้อและมีการกำหนดกติกาแล้ว คือ ห้ามพนักงานของร้านทุกร้านซื้อ ถ้าปฏิบัติไม่ได้ จะไม่ส่งสินค้าให้ขายอีก ห้ามเปิดขายตอนกลางคืน เพราะขายแล้ว แทนที่คนทั่วไปจะได้ซื้อ กลายเป็นว่าพนักงานขายซื้อกันไปหมด และขอให้ตรวจสอบบัตรประชาชน เพื่อป้องกันการวนซื้อ  

 

พาณิชย์ จับ 4 ผู้ค้าสำเพ็งขายหน้ากากแพง ลั่นจัดหนักพวกโก่งราคา”เจล-แอลกอฮอล์”

      ปลัดพาณิชย์ แถลงผลจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผิดกฎหมาย เผยวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา จับได้อีก 12 ราย เป็นผู้ค้าในสำเพ็ง 4 ราย ที่เหลือจับได้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ลั่นจากนี้จะจัดหนักพวกค้ากำไรเกินควร ‘เจลล้างมือ-แอลกอฮอล์’ ใครเจอที่ไหนแจ้ง 1569 ด่วน 

       นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ณ วันที่ 12 มี.ค.2563 ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้อีก 12 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 ราย โดยเป็นการล่อซื้อและจับกุมแผงลอยสำเพ็ง 4 ราย พบขายหน้ากากอนามัยกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท จึงแจ้งข้อหาขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควรทั้ง 4 ราย และยังพบที่ร้านค้าเขตดินแดง 1 ราย และผู้ค้าในเขตนนทบุรี 1 ราย โดยเป็นการขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควร ส่วนในต่างจังหวัด มีจำนวน 6 ราย ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย สุพรรณบุรี  1 ราย พัทลุง 1 ราย ทั้ง 4 รายขายหน้ากากอนามัยในราคาชิ้นละ 17-20 บาท จึงได้แจ้งข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและขายแพงเกินสมควร และที่ปทุมธานีอีก 2 ราย ที่ขายหน้ากากอนามัยราคาแพงเกินสมควรและไม่ปิดป้ายแสดงราคาขายเจลล้างมือ

      “ที่ตลาดสำเพ็ง มีคนแจ้งเข้ามามาก มีตรงนั้น ตรงนี้ แต่มีปัญหาตอนไปจับ พอไปปิดร้านหนี เอาสินค้าไปซ่อน เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปซุ้ม ไปดัก จนเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) สามารถจับกุมได้ ขณะที่เปิดร้านขายตอนดึก รวมๆ แล้วมีสินค้าที่จับได้ 12,700 ชิ้น ซึ่งได้จับส่งตัวดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ทั้งขายเกินราคาควบคุม มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนหรือทั้งจำทั้งปรับ และค้ากำไรเกินควร จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว”

       ส่วนผลการจับกุมดำเนินคดี จนถึงวันที่ 12 มี.ค.2563 จับได้รวม 135 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 88 ราย และในต่างจังหวัด 47 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ นอกจากจับกุมหน้ากากอนามัย ยังมีการจับกุมผู้กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควร และจับกุมผู้จำหน่ายแอลกอฮอล์ ที่แม้ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมในข้อหาขายแพงด้วย เพราะถือว่าค้ากำไรเกินควร อีกทั้งแอลกอฮอล์ ยังเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมในตัวมันเองอยู่แล้ว

        นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มงวดในการจับกุมผู้ค้ากำไรเกินควรในส่วนของเจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เหมือนกับที่ทำการจับกุมผู้ค้าหน้ากากอนามัยผิดกฎหมายด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก โดยราคาไหนที่ถือว่าแพงเกินสมควร สามารถตรวจสอบได้จากเมื่อก่อนขายกี่บาท ปัจจุบันขายกี่บาท เจอที่ไหนจะจับทันที ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านขายยา ห้าง หรือในออนไลน์

     ทั้งนี้ ยืนยันว่าแอลกอฮอล์ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการขาดแคลน เพราะไทยเป็นผู้ผลิตรายสำคัญ โดยมีวัตถุดิบที่ได้จากมันสำปะหลัง และน้ำตาล และกรมสรรพสามิตเองก็ปลดล็อกให้นำมาใช้ได้ จึงไม่ขาดแคลน และไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคา แต่ถ้ายังมีปัญหา เดี๋ยวจะมีมาตรการออกมาจัดการ ส่วนผู้บริโภค หากพบเจอที่ไหนขายแพง ขอให้แจ้งมายังสายด่วน 1569 หรือหรือสื่อโซเชียลของกรมการค้าภายใน (https://bit.ly/2W4clYI)

พาณิชย์ สรุปผลการจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเพิ่มเป็น 135 ราย (ประจำวันที่ 13 มี.ค. 63)

      นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รายงานผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ของ วันที่ 12 มีนาคม 2563 จำนวน 12 ราย ดังนี้

      - กรุงเทพฯ จำนวน 6 ราย โดยเป็นการล่อซื้อและจับกุมแผงลอยสำเพ็ง 4 ราย พบขายหน้ากากอนามัยกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท จึงแจ้งข้อหาขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควรทั้งสี่ราย นอกจากนี้ยังพบที่ร้านค้าเขตดินแดง 1 ราย และผู้ค้าในเขตนนทบุรี

       1 ราย โดยเป็นการขายเกินราคาควบคุมและข้อหาขายแพงเกินสมควร

        - ต่างจังหวัด จำนวน 6 ราย ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด 1 ราย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย จังหวัดสุพรรณบุรี 1 ราย จังหวัดพัทลุง 1 ราย ทั้งสี่รายขายหน้ากากอนามัยในราคาชิ้นละ 17-20 บาท จึงได้แจ้งข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินสมควร และจังหวัดปทุมธานีอีก 2 ราย พบขายหน้ากากอนามัยราคาแพงเกินสมควรและไม่ปิดป้ายแสดงราคาขายเจลล้างมือด้วย

        โดยสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดถึงวันที่ 12 มีนาคม 2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 135 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 88 ราย และในต่างจังหวัด 47 ราย นอกจากได้จับกุมคนขายหน้ากากอนามัยแพงอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศแล้ว ที่ผ่านมากระทรวงยังได้ตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควรอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ด้วย

     ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงได้เน้นย้ำเรื่องการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม หากพบขายแพงเกินสมควร ก็มีความผิดในข้อหาขายสินค้าแพงเกินสมควรตามมาตรา 29 จึงขอให้ผู้ค้าสินค้าทั้งหลายห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด

      สำหรับ โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในข้อหาขายเกินราคาควบคุม จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขายมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ในข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายก็ต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ด้วย

      หากพบเห็นผู้กระทำผิด โปรดแจ้งข้อมูลและหลักฐานมายัง สายด่วน 1569 หรือสื่อโซเชียลของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!