WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaa วิชัย โภชนกิจ

พาณิชย์ เคาะชดเชยส่วนต่างข้าวงวดที่ 13 เหลือจ่ายแค่ 3 ชนิด หลังราคาตลาดพุ่ง

      พาณิชย์ เคาะส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว งวดที่ 13 เหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 3 ชนิดได้รับเงินชดเชย โดยข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ไม่ได้รับชดเชยแล้ว หลังราคาตลาดพุ่ง ส่วนข้าวเปลือกเหนียวไม่ได้เหมือนเดิม คาดแนวโน้มราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังมาตรการเสริมที่รัฐนำมาใช้ได้ผล และผลผลิตข้าวลดลง ทำให้แย่งกันซื้อมากขึ้น

         ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยมีมติให้จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 13 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 3 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกหอมมะลิ ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ที่เคยได้รับการชดเชยเมื่องวดที่ผ่านมา ไม่ได้รับแล้ว รวมถึงข้าวเปลือกเหนียว ไม่จ่ายชดเชยส่วนต่าง เพราะราคายังสูงกว่าราคาประกัน

1aaa Kงวดที่13

 

       สำหรับ การชดเชยส่วนต่าง เกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 26 ม.ค.- 1 ก.พ.2563 จะได้รับการชดเชย โดยมีรายละเอียด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ราคาตลาดเฉลี่ยตันละ 8,143.60 บาท ได้รับส่วนต่างตันละ 1,856.40 บาท , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาตลาดตันละ 10,150.66 ได้รับส่วนต่างตันละ 849.34 บาท , ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาตลาดตันละ 14,674.03 ได้รับชดเชยตันละ 325.97 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาตลาดตันละ 14,006.35 บาท ไม่ได้รับชดเชย และราคาข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 18,238.32 ไม่ได้รับชดเชยเช่นเดียวกัน

      ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 13 ราคาข้าวได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เงินชดเชยที่รัฐต้องจ่ายลดลง และข้าวที่ต้องจ่ายชดเชยลดลงเหลือเพียงแค่ 3 ชนิด เพราะราคาข้าวเปลือกในตลาดเพิ่มตัวสูงขึ้น จากมาตรการเสริมที่รัฐบาลได้นำมาใช้ ทั้งการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตันละ 1,500 บาท ทำให้เกษตรกรชะลอการนำเข้าออกไปขาย การช่วยสนับสนุนดอกเบี้ยให้กับสถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการค้าข้าวในการรวบรวมข้าวและเก็บสต๊อก ทำให้มีการดึงผลผลิตข้าวส่วนเกินออกจากตลาด และคาดว่าจากนี้ไป ราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มงวดต่อไป จะชดเชยน้อยลง เพราะผลผลิตข้าวลดลง โดยข้าวนาปรังเสียหายจากภัยแล้ง ทำให้มีการแย่งซื้อข้าวกันมากขึ้น

       ส่วนผลจากการคำนวณส่วนต่าง งวดที่ 13 เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยสูงสุด คือ ข้าวเปลือกเจ้า จะได้รับเงินรวม 55,692 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุม ได้เงินรวม 21,233.50 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้เงินรวม 4,563.58 บาท 

     ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ประกันรายได้ข้าวเปลือกจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ครัวเรือนละ 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน แต่ถ้าเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!