- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 16 January 2020 17:28
- Hits: 3989
พาณิชย์ ยันน้ำมันปาล์มขวดไม่ขาด ไม่แพงเกินเพดาน เหตุสต๊อกมีพอ ผลผลิตใหม่กำลังออก
กรมการค้าภายในขอผู้บริโภคเบาใจ ไม่มีปัญหาน้ำมันบริโภคขาดแคลน หลังราคาน้ำมันปาล์มขวดขยับขึ้น ยันยังไม่เกินขวดละ 42 บาทตามเพดานที่กำหนด เหตุสต๊อกมีเพียงพอและผลผลิตฤดูกาลใหม่กำลังออกสู่ตลาด แถมมีน้ำมันบริโภคทางเลือกอีกเพียบ ซัดพวกปล่อยข่าวนำเข้า ไร้มูลความจริง คาดปีนี้เป็นปีทองชาวสวนปาล์ม หลังรัฐกำหนดบี 10 เป็นน้ำมันมาตรฐาน ดึงผลผลิตส่วนเกินออกหมด แถมนำไปผลิตไฟฟ้า คุมเข้มนำเข้า แย้มอาจไม่ต้องจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ยาว
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีราคาน้ำมันปาล์มขวดปรับราคาสูงขึ้น ตามต้นทุนผลปาล์มดิบที่ปรับสูงขึ้นเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 7.00-7.20 บาท และทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้นว่า กรมฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอย่างใกล้ชิด และขอให้ผู้บริโภคเบาใจว่าน้ำมันปาล์มขวดมีเพียงพอต่อการบริโภค เพราะขณะนี้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบมีอยู่ในระดับที่เหมาะสมประมาณ 3 แสนตัน เพียงพอใช้บริโภคและใช้ในอุตสาหกรรม ส่วนราคาที่ปรับสูงขึ้นปัจจุบันยังไม่เกินขวดละ 42 บาท ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดที่กำหนดไว้ ยกเว้นในพื้นที่ห่างไกล ที่อาจจะมีภาระด้านต้นทุนค่าขนส่งอยู่บ้าง
“ตอนนี้ ยังตรึงราคาอยู่ได้ เพราะสต๊อกเก่าน้ำมันปาล์มดิบที่นำมาผลิตน้ำมันปาล์มขวดที่เป็นต้นทุนเก่ายังมีอยู่ ทำให้ราคาไม่ปรับสูงขึ้นตามผลปาล์มดิบ และผู้บริโภคยังมีทางเลือกในการบริโภคน้ำมัน โดยราคาน้ำมันถั่วเหลืองขณะนี้อยู่ที่ขวดละ 33-36 บาท และยังมีน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว เป็นทางเลือกอีก จึงเบาใจได้ว่าไม่มีปัญหาเรื่องน้ำมันขาดแคลน และขอให้ลืมไปได้เลยในเรื่องของการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ ยังไม่มีการหารือในเรื่องนี้แต่อย่างใด การนำเสนอข่าวของคนบางคน บางกลุ่ม ไม่มีมูลความจริง หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่มีใครเคยพูดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”นายวิชัยกล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ผลผลิตปาล์มน้ำมันฤดูกาลใหม่ กำลังจะออกสู่ตลาดประมาณกลางเดือนก.พ.2563 ทำให้มีน้ำมันปาล์มดิบเข้ามาเติมในสต๊อก ซึ่งอาจจะทำให้ราคาผลปาล์มดิบปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง และไม่ต้องกังวลว่าจะมีปริมาณสต๊อกเพิ่มขึ้น เพราะมาตรการของรัฐบาลที่มีอยู่ สามารถช่วยผลักดันราคาให้สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะการกำหนดให้น้ำมัน บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ที่ขณะนี้ทุกปั๊มได้มีการติดตั้งหัวจ่ายไปแล้วประมาณ 2,000 ปั๊ม ภายในเดือนมี.ค.2563 นี้ จะต้องมีครบทุกปั๊ม ทำให้ดึงผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบออกไปได้มาก
ทั้งนี้ ยังมีน้ำมันปาล์มดิบอีกประมาณ 9 หมื่นตัน ที่กำหนดให้นำไปผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้ไปแล้ว 1.6 แสนตัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่จะช่วยลดปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ส่วนการป้องกันการลักลอบนำเข้า ได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับตา ตรวจสอบการลักลอบตามพื้นที่เสี่ยงทั้งทางบก ทางทะเล หรือด่านที่มีข้อมูลว่าจะมีการลักลอบนำเข้า ทำให้สามารถป้องกันการลักลอบนำเข้าได้ และยังจะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กำหนดด่านที่จะอนุญาตให้มีการนำเข้า จากเดิมสามารถนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบได้ทุกด่านทั้งทางบก ทางทะเล เป็นเหลือเพียงด่านทางทะเล คือ ด่านมาบตาพุด ด่านกรุงเทพ (คลองเตย) และแหลมฉบัง ส่วนการขออนุญาตนำเข้าเพื่อข้ามแดนส่งต่อไปยังอีกประเทศหนึ่ง กำหนดให้นำเข้าได้ด่านเดียว คือ ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) เท่านั้น และกำหนดด่านปลายทางที่จะนำผ่านไปยังแต่ละประเทศด้วย เพื่อป้องกันการนำเข้ามาและไม่มีการนำออกจริง
สำหรับ การติดตั้งมิเตอร์ที่ถังสต๊อกน้ำมันปาล์มทั้งประเทศแบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มได้ตามปริมาณตัวเลขจริงทุกเวลา และเป็นการป้องกันการแอบอ้างสต๊อกเต็มและไม่ไปรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรจนทำให้ราคาตกนั้น ได้หารือกับสำนักงบประมาณแล้ว คาดว่าจะได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ผลจากการดำเนินมาตรการที่เข้มงวด คาดว่าในช่วงฤดูการผลิตที่เหลือของปีนี้ รัฐบาลอาจจะไม่ต้องจ่ายส่วนต่างให้กับชาวสวนปาล์มน้ำมันในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม เพราะราคาผลปาล์มดิบน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web