- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 16 December 2019 23:36
- Hits: 7649
จุรินทร์ โอนไว ประกาศโอนเงินส่วนต่างครบ 5 ชนิดพืชประกันรายได้ ก่อนสิ้นปี เป็นของขวัญปีใหม่เกษตรกร ทั่วไทย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ภาคอีสานเพราะเกษตรกรชี้แจงโครงการประกันรายได้ ที่จังหวัดอุบลราชธานี บ่ายวันนี้ โดยกล่าวว่า มาเพื่อรายงานความคืบหน้าของเกษตรกร โดยรัฐบาลแถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 กรณี ให้ประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
โดยผ่านมา 4 เดือนกว่าประกันรายได้ทำได้เกือบ 5 ตัว คือ ข้าว มัน ยาง ปาล์ม มาถึงวันนี้ จ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกแล้ว เหลือข้าวโพดจะจ่าย 20 ธันวาคม นี้ ถ้าผ่าน 20 ธค 2562 นี้ก็ถือว่าทำได้ครบทั้ง 5 ตัวซึ่งถือว่า "ทำได้ไว ทำได้จริง"
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประกันรายได้ข้าว จ่ายส่วนต่างงวดแรก 15 ตุลาคม 2562 เงินส่วนต่างคือ หัวใจนโยบายประกันรายได้ คือหลักประกันพืชเกษตรตัวไหนท่านจะไม่มีรายได้ตาม ยถากรมม คือรายได้ตามราคาผลตลิตตามตลาดหลัก ถ้าตลาดไม่ดีก็จะได้ราคาไม่ดีตามตลาด ถ้าผลผลิตไม่มีคุณภาพก็จะโดนกดราคา
ก่อนมีนโยบายประกันรายได้ท่านจะมีรายได้นี้เป็นหลัก แต่มีนโยบายแล้วท่านจะมีรายได้ สองทาง เช่น 15000 ประกัน ขาย 13000 ท่านมีส่วนต่าง 2000 ซึ่ง ท่านได้กระเป๋าซ้าย 13000 กระเป๋าขวา 2000 รวม 15000 ทำให้มีรายได้เพิ่มมา เพื่อเพียงพอกับการยังชีพ
" ปีนี้ปลูกข้าวหอมมะลิดีแล้ว ราคาดี ทั้งในและต่างประเทศท่านควรปลูก ที่ผ่านมาราคาข้าวหอมมะลิดี สูงกว่า 15000 แต่บังเอิญราคาแพงกว่า 15000 ท่านเลยไม่ได้ส่วนต่าง แต่ท่านเข้าใจผิดความจริงท่านไม่ขาด ซึ่งท่านได้สองกระเป๋าซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้" นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับ งวดถัดไป หอมมะลิ และหอมนอกพื้นที่ราคาอ่อนตัวลงแล้ว ท่านจะได้รับเงินส่วนต่าง สำหรับงวดนี้ หอมมะลิ 500 กว่าบาท/ ตัน ส่วนหอมมะลินอกพื้นที่ 400 กว่าบาทต่อตัน การช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุง ที่ผ่านมาให้จ่ายค่าต้นทุนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ 23,000 รายที่ยังไม่ได้ ไร่ละ 500 บาทไม่เกิน 20 ไร่ ค่าปรับปรุงและเก็บเกี่ยวก็จะได้เล่นกัน ตันละ 500 ไม่เกอน 20 ไร่ คือ ที่ครม.เห็นชอบ 11 ธันวาคม 62
สำหรับ ปาล์ม ประกันรายได้กิโลละ 4 บาท พร้อมสกัดการลักลอบการนำเข้าทำ และเปาไปบี 10 เพื่อเพิ่มการใช้ปาล์ม ปรากฏว่า วันนี้เมื่อประกาศ ราคาต้องขึ้น จาก 2.20 ขึ้นเป็น 2.40 ตอนนี้ขึ้นไป 4 บาทกว่า ล่าลุดไปถามหนองคาย 4.80 บาท มีเงินมากกว่าประกันรายได้ และปาล์มถ้าเกิดตก ท่านไม่ต้งอกังวลถ้าวันไหนราคาตก ก็จะได้รับเงินส่วนต่าง
กรณีมันสำปะหลัง ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท เกษตรกรมันสำปะหลังก็ได้รับเงินส่วนต่างไป
ยางพารา ทำประกันรายได้ 3 ชนิด ดิบชั้น3 กก.60 น้ำยาง 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก. ละ 23 บาท วันนี้ท่านขาย 20 ท่านได้ส่วนต่าง 3 บาททันที จำนวนกิโลคูณ 3 บาท โอนเข้าบัญชี ธกส. แต่ปัญหายางฯก่อนโอนเงินถ้ามาขึ้นทะเบียน กยท.ร่วมกับคณะกรรมการจังหวัด ไปตรวจพื้นที่ และชนิดของยางเนื่องจากชนิดของยาได้ส่วนต่างไม่เท่ากัน กว่า กยท. จะไปตรวจสวน งวดเเรก 1 พย 62 ยังตรวจสวนไม่ครบ บางรายยังไม่ได้เงิน แต่ยืนยันว่าเกษตรกรทุกราย แต่จะช้าเพราะการตรวจสวนช้า ต่อไปนี้ให้ชาวสวนยางมีสวนกี่ไร่ทำยางชนิดใด ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านรับรอง ถ้าเจ้าของสวนหรือกำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งเท็จก็จะเป็นผู้รับผิดชอบ ถัดจากนี้จะทำให้ตรวจสวนได้เร็วขึ้น คือ งวด 2 วันที่ 1 มกราคม 63 ไม่รอตรวจสวน งวด 3 วันทรฝี่ 1 มีนาคม 63 ซึ่งงวด 2 และ 3 ไม่ต้องตรวจสวน จะไวแล้วทีนี้ อีกประเด็น คือ กรณีไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่ขึ้นทะเบียนการปลูกไว้เป็นผู้ถือบัตรสีชมพู แค่ขึ้นทะเบียนตามจริงก็จะได้เงินส่วนต่างประกันรายได้
ส่วนข้าวโพด มติ 30 พย 63 นำเข้าครม 11 ธค 63 อนุมัติได้ 8.50 บาท 20 ธันวาคมนี้ โอนเงินส่วนต่างงวดแรก โดยของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ
ข้าว มัน ยาง ปาล์ม นั้นยังมีมาตรการเสริม เพื่อให้กระเป๋าซ้ายเพิ่มขึ้น ให้มีเงินมากที่สุด เช่น ช่วงข้าวออก เยอะ พณ ขอชะลอการขายข้าวเปลือก ให้เกษตรกรไม่นำข้าวออกมาขายซึ่งส่งผลให้ราคาตก เก็บตั้งแต่ 2 เดือนเป็นต้นไป ตันละ 1,500 บาท สามารถเอาไปจำนองเงินกู้กับ ธกส ได้อีก โดยไม่มีดอกเบี้ย เเละสถาบันเกษตรกร สถาบันเกษตรกรถ้าเก็บไว้ไม่นำออกมาขาย สามารถไเฝด้รับ ตันละ 1500 บาท โดย สถาบันได้ 1000 บาท เกษตรกรได้ 500 บาท ถ้าโรงสีใดช่วยซื้อข้าวมาเก็บไว้ให้โรงสีกู้เงิน แล้วรัฐบาลจัะช่วยร้อยละ 3 เช่นกู้มา 5 รัฐช่วย 3 ผู้ประกอบการจ่าย 2
ที่ผ่านมาไปบุก จีน ตุรจีน อินเดีย เยอรมัน ไปหนานหนิงขายมัน 2,600,000 ตัน ยางไปอินเดีย ขายยางได้ 100,000 ตัน ไม้ยางพาราก็เป็นอนาคตสำคัญของอินเดีย เร่งบ้านให้คนจนได้มีที่อยู่ ถ้าสร้างบ้านเสร็จจะต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ซึ่งอยาคตจะใช้ไม้อื่นแทนไม้สัก ซึ่งจะใช้ไม้ยาง ไปเปิดตลาดบังกัลลอ และอิสรามาบัส
ไปตุรกี ขายหมอนยาง กยท กับเอกชน โดย กยทกับเอกชนรวมเป็น 20 ล้านใบ ด้านผลไม้ก็ดูแล แต่ใช้ยาคนละขนาน มีมาตรการช่วยเหลือและผลไม้ราคาดี
******************************************
กด L Ike - แบ่งปัน เพจเวลา Corehoon-Powerเพื่อติดตามเคล็ดลับข่าวสารเทรนด์และ บทวิเคราะห์ดีๆอัพเดตทุกวันคัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
คลิกบริจาคเว็บสนับสนุน