WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaa Aoramon1กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเตรียมพร้อมสานสัมพันธ์การค้ากับสหราชอาณาจักร พร้อมเตรียมศึกษาประโยชน์ ผลกระทบ จัดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทำเอฟทีเอไทย-ยูเค หลังผลเลือกตั้งยูเคชี้ชัดเบร็กซิตมีแววได้ไปต่อ

      นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานทบทวนนโยบายการค้ากับสหราชอาณาจักร (ยูเค) เพื่อปูทางไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ยูเค ระหว่างกันในอนาคต หากทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมและเห็นว่าเป็นประโยชน์ และยังได้เตรียมจ้างหน่วยงานวิจัยภายนอก ศึกษาประโยชน์และผลกระทบต่อไทยถึงการทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหราชอาณาจักร (ยูเค) รวมทั้งเตรียมการจัดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และภาคประชาสังคม หลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมภายใต้แกนนำของนายบอริส จอห์นสัน ซึ่งผลักดันนำยูเคออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (เบร็กซิต) ได้รับคะแนนเสียงข้างมากในสภา และจะเดินหน้าต่อในเรื่องเบร็กซิต ก่อนที่จะรวบรวมเป็นข้อมูลเสนอระดับนโยบายตัดสินใจเรื่องการทำเอฟทีเอระหว่างสองประเทศต่อไป

     “ผลการเลือกตั้งของยูเค ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้พรรคอนุรักษ์นิยมภายใต้แกนนำของนายบอริส จอห์นสัน ได้รับคะแนนเสียงข้างมากในสภา ส่งผลให้นายจอห์นสันได้เป็นนายกรัฐมนตรีของยูเคต่อ และส่อแววว่านายจอห์นสัน จะเร่งเดินหน้าเบร็กซิตให้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 31 ม.ค.2563”

       ทั้งนี้ ตามขั้นตอน คาดว่า รัฐบาลใหม่ของยูเคคงต้องรีบนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวออกจากอียู เสนอให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติ และเร่งเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าใหม่กับอียูให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และมีผลใช้บังคับทันวันที่ 1 ม.ค.2564 ก่อนที่ยูเคจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการ

       ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ยูเคจะยังคงเป็นสมาชิกอียูและปฏิบัติตามกฎระเบียบของอียูต่อไป โดยอัตราภาษีและกฎระเบียบที่ยูเคปฏิบัติกับประเทศอื่นๆ จะยังคงเดิมเช่นปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปี 2563 ทำให้เกิดความแน่นอนทางการค้าและทิศทางในอนาคตของยูเค ซึ่งจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

     สำหรับ ยูเค เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 20 ของไทย และอันดับที่ 2 จากอียู รองจากเยอรมนี โดยในช่วง 10 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ต.ค.) การค้ารวมมีมูลค่า 5,285.17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก 3,282.10 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น รถยนต์และอุปกรณ์ ไก่แปรรูป รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น และนำเข้า 2,003.07 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ น้ำมันดิบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่ม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เป็นต้น

พาณิชย์ เร่งสานสัมพันธ์การค้ากับอังกฤษหลัง Brexit มีแววได้ไปต่อ

   กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เร่งเดินหน้าสานสัมพันธ์การค้าไทย-ยูเค ปูทางจัดทำเอฟทีเอระหว่างกัน หลังผลเลือกตั้งยูเคชี้เบร็กซิทมีแววไปต่อ พร้อมเตรียมศึกษาประโยชน์ ผลกระทบ และจัด  รับฟังความเห็นทุกภาคส่วน เชื่อเป็นโอกาสทางการค้าของผู้ประกอบการไทย

      นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามผลการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักร (ยูเค) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่พรรคอนุรักษ์นิยมภายใต้แกนนำของนายบอริส จอห์นสัน ได้รับคะแนนเสียงข้างมากในสภา ส่งผลให้นายจอห์นสันได้เป็นนายกรัฐมนตรีของยูเคต่อนั้น

   และส่อแววว่า นายจอห์นสันจะเร่งเดินหน้านำยูเคออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิท (Brexit) ให้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 31 มกราคม 2563 โดยจะมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน (transition period) ให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้มีเวลาปรับตัว จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ก่อนที่ยูเคจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการ

   นางอรมน เสริมว่า ผลการเลือกตั้งของยูเคครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าประชาชนยูเคส่วนใหญ่ยังต้องการออกจากการเป็นสมาชิกอียู โดยรัฐบาลใหม่ของยูเคคงต้องรีบนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวออกจากอียู เสนอให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติ และเร่งเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าใหม่กับอียูให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และมีผลใช้บังคับทันวันที่ 1 มกราคม 2564 ก่อนที่ยูเคจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการ

     ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านยูเคจะยังคงเป็นสมาชิกอียูและปฏิบัติตามกฎระเบียบของอียูต่อไป โดยอัตราภาษีและกฎระเบียบที่ยูเคปฏิบัติกับประเทศอื่นๆ จะยังคงเดิมเช่นปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปี 2563 ทำให้เกิดความแน่นอนทางการค้าและทิศทางในอนาคตของยูเค ซึ่งจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยผลการเลือกตั้งของยูเคส่งสัญญาณเชิงบวก เห็นได้จากค่าเงินปอนด์ที่เพิ่มสูงขึ้นเกือบร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

     นางอรมน เพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ยูเคสามารถเริ่มเจรจาจัดทำความตกลงทางการค้ากับประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทยด้วย ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะใช้โอกาสดังกล่าวเดินหน้าสานสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับยูเค โดยไทยอยู่ระหว่างจัดทำรายงานทบทวนนโยบายการค้ากับยูเค เพื่อปูทางไปสู่การจัดทำเอฟทีเอระหว่างกันในอนาคต หากทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมและเห็นว่าเป็นประโยชน์

      ขณะเดียวกัน กรมฯ เตรียมจ้างหน่วยงานวิจัยภายนอก ศึกษาประโยชน์และผลกระทบต่อไทย หากมีการทำเอฟทีเอกับยูเค รวมทั้งจัดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และภาคประชาสังคม เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลเสนอระดับนโยบายตัดสินใจเรื่องการทำเอฟทีเอระหว่างสองประเทศต่อไป

      ทั้งนี้ ยูเคเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 20 ของไทย และอันดับที่ 2 จากสหภาพยุโรป (รองจากเยอรมนี) โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 (มกราคม – ตุลาคม) การค้ารวมมีมูลค่า 5,285.17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออก 3,282.10 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น รถยนต์และอุปกรณ์ ไก่แปรรูป รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น

     และนำเข้า 2,003.07 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ น้ำมันดิบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องดื่ม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เป็นต้น

กรมเจรจาฯ เตรียมพร้อมถกอัพเกรดเอฟทีเอ ตั้งเป้าผลักดันลดภาษีสินค้าอ่อนไหวลงอีก

     กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเตรียมพร้อมถกคู่เจรจา อัพเกรดเอฟทีเอกับจีน อินเดีย เกาหลี ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เผยจะเน้นผลักดันลดภาษีสินค้าที่อยู่ในบัญชีอ่อนไหวลงมา เพื่อสร้างโอกาสและเปิดตลาดให้กับสินค้าและสินค้าเกษตรของไทยเพิ่มเติม หลังหลายรายการยังภาษีสูง

     นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาทบทวนและปรับปรุงความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับคู่เจรจา เพื่อให้มีการเปิดเสรีเพิ่มเติม หรือผนวกเพิ่มข้อบทใหม่ๆ ในความตกลง เพื่อให้ทันกับสภาพแวดล้อมและรูปแบบทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยมีเอฟทีเอที่อยู่ในเป้าหมายการทบทวน คือ อาเซียน-จีน อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เป็นต้น ซึ่งเอฟทีเอเหล่านี้ บังคับใช้มานานแล้ว จึงต้องมีการทบทวนเพื่อให้ดีขึ้น และเปิดเสรีมากขึ้น

     ทั้งนี้ การทบทวนเอฟทีเออาเซียน-จีน จะมีการหารือเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าในส่วนที่เหลือ ที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอ่อนไหวและอ่อนไหวสูง ซึ่งคงเหลือประมาณ 500 รายการ และปัจจุบันสินค้าอ่อนไหวภาษีลดลงเหลือ 0-5% แล้ว จะผลักดันให้ลดลงเหลือ 0% ส่วนสินค้าอ่อนไหวสูง ปัจจุบันเก็บภาษีไม่เกิน 50% จะต้องหาทางให้ปรับลดลงมาอีก โดยมีสินค้าที่อยู่ในเป้าหมายที่จะผลักดันให้มีการลดภาษี คือ ข้าว น้ำตาลทราย ข้าวโพด พืชน้ำมัน ยางพารา และปาล์ม

      สำหรับ อาเซียน-อินเดีย จะทบทวนความตกลงการค้าสินค้า เพื่อให้มีการลดภาษีสินค้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีการลดภาษีสินค้าระหว่างกันแล้วประมาณ 79% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด โดยมีสินค้าที่ไทยต้องการให้มีการลดภาษีเพิ่มเติม คือ น้ำมันปาล์ม ที่ปัจจุบันภาษีสูง 40-50% ยางพารา อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ และปิโตรเคมี ส่วนอาเซียน-เกาหลีใต้ จะเป็นเรื่องของการเจรจาเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหวเพิ่มเติม มีสินค้าที่ไทยต้องการผลักดันให้ลดภาษี เช่น ข้าว น้ำตาลทราย มันสำปะหลัง ผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด มะม่วง เป็นต้น

     ขณะที่เอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ในส่วนของการเปิดเสรีสินค้า จะไม่มีการหารือ เพราะได้มีการลดภาษีเป็น 0% หมดแล้ว แต่จะมีการหารือในประเด็นใหม่ๆ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พิธีการศุลกากร บริการทางการเงินและโทรคมนาคม ซึ่งในส่วนของไทย จะผลักดันให้มีการเปิดเสรีบริการที่เกี่ยวกับโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว เพราะเป็นสาขาที่ไทยมีความเข้มแข็ง

     “การทบทวนเอฟทีเอรอบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการอัพเกรดในเรื่องการเปิดเสรีการค้าสินค้า เพราะหลายประเทศยังมีการเก็บภาษีสูงอยู่ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งไทยจะผลักดันให้มีการปรับลดภาษีลงมา เพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างแต้มต่อให้กับการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย”นางอรมนกล่าว

     ก่อนหน้านี้ อาเซียนได้มีการอัพเกรดเอฟทีเอกันมาบ้างแล้ว โดยอาเซียนจีนได้มีการจัดทำพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีและเริ่มบังคับใช้กฎเฉพาะรายสินค้าฉบับใหม่ตั้งแต่ส.ค.2562 และญี่ปุ่นได้จัดทำพิธีสารฉบับที่ 1 เพื่อแก้ไขความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มการเปิดเสรีการค้าบริการ การเคลื่อนย้ายบุคลากร และการลงทุน และยังมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำเอฟทีเออาเซียน-แคนาดา

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

ais 790x90GC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!