- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 25 November 2019 19:01
- Hits: 2070
พาณิชย์ แย้มไม่ต้องจ่ายส่วนต่างปาล์มงวด 3 หลังราคาพุ่ง ส่วนข้าวมั่นใจส่วนต่างไม่บานปลาย
กรมการค้าภายใน เผยราคาผลปาล์มดิบพุ่งทะลุกิโลละ 4 บาท บางพื้นที่ขยับขึ้นถึง 4.60 บาท เหตุน้ำมันปาล์มดิบถูกนำไปใช้ผลิต บี10 ผลิตไฟฟ้า และมาตรการสกัดนำเข้าได้ผล แย้มไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้งวดที่ 3 ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นัดเคาะราคาประกัน 30 พ.ย. สำหรับมันสำปะหลัง นัดจ่ายส่วนต่าง 1 ธ.ค.นี้ คาดข้าวเปลือกยังไม่ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มจากเดิม 2 ชนิด “ข้าวเจ้า-ข้าวหอมปทุมธานี” หลังรัฐอัดมาตรการดันราคา
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มดิบได้ปรับตัวสูงขึ้นเกินกิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท โดยบางพื้นที่ราคาขึ้นไปสูงถึงกก.ละ 4.60 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการต่างๆ ที่รัฐนำมาดำเนินการได้ผลดี โดยเฉพาะการผลักดันให้นำน้ำมันปาล์มดิบไปใช้ผลิตน้ำมันดีเซล บี10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน และการนำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีก ก็ยิ่งทำให้ความต้องการเพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลดีต่อราคา
ทั้งนี้ ยังได้รับผลดีจากการเข้มงวดสกัดการลักลอบนำเข้า ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมศุลกากรและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสกัดการลักลอบ ทำให้ไม่มีน้ำมันปาล์มดิบจากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามา ขณะที่ผลผลิตภายในประเทศ เริ่มออกสู่ตลาดลดลง
“ผลจากราคาผลปาล์มดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม งวดที่ 3 รัฐไม่ต้องจ่าย เพราะราคาตลาดสูงกว่าราคาประกัน ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลลงได้ หลังจากที่งวดที่ 1 จ่ายส่วนต่างไปกก.ละ 1.32 บาท และงวดที่ 2 กก.ละ 1 บาท”นายวิชัยกล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นสินค้าตัวสุดท้ายในโครงการประกันรายได้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนัดประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรในวันที่ 30 พ.ย.2562 ที่จังหวัดลำปาง เพื่อเคาะราคาประกันรายได้ เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) พิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป โดยคาดว่าน่าจะดำเนินการจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ จะมีการคิกออฟจ่ายเงินส่วนต่างในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ในวันที่ 1 ธ.ค.2562 โดยราคาประกันรายได้อยู่ที่กก.ละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน โดยเกษตรกรทุกรายที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกและแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยวกับกรมส่งเสริมการเกษตร จะได้สิทธิรับเงินส่วนต่าง โดยเงื่อนไขการใช้สิทธิ เกษตรกรหนึ่งครัวเรือน ใช้สิทธิได้ 1 ครั้ง และจะจ่ายงวดแรกวันที่ 1 ธ.ค.2562 จากนั้นจะจ่ายทุกวันที่ 1 ของเดือนเป็นเวลา 12 เดือน
ส่วนการจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปัจจุบันมีการจ่ายข้าวเปลือก 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้ากับข้าวเปลือกหอมปทุมธานี โดยงวดที่ 4 ยังมั่นใจว่าการจ่ายส่วนต่างข้าวเปลือก จะยังคงมีจำนวนแค่ 2 ชนิดเหมือนเดิม เพราะราคาข้าวอีก 3 ชนิดที่เหลือยังคงเกินราคาประกัน และรัฐยังมีมาตรการเข้ามาช่วยผลักดันราคาข้าว 3 โครงการ คือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก มีเป้าหมายดึงข้าวออกจากระบบ 6.5 ล้านตัน ใช้งบประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web