- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 04 October 2019 11:16
- Hits: 1040
จุรินทร์ ลุยแก้อุปสรรค ดันค้าชายแดนไทย-เมียนมา ยันสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เปิดแน่ 30 ต.ค.นี้
จุรินทร์ ถกภาครัฐและเอกชน แก้ปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ยันสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เปิดใช้งาน 30 ต.ค.นี้ ส่วนการขยายระยะเวลาเปิด-ปิดด่านแม่สอด เตรียมถก 2 ชาติ พร้อมเร่งยกระดับด่านการค้า 3 แห่ง ‘ด่านสิงขร-ห้วยต้นนุ่น-เจดีย์สามองค์’ เผยยังได้รับพิจารณาข้อเสนอภาคเอกชน ทั้งเปิดทางรถบรรทุกเมียนมาวิ่งเข้ามาได้ลึกขึ้น ออก Form D ปรับวันบอร์ดดิ้งพาส และตั้งเซ็นทรัลแลปที่แม่สอด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับภาครัฐ เอกชน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าชายแดนระหว่างไทยและเมียนมา ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการเร่งรัดเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ที่อำเภอแม่สอด ซึ่งปัจจุบันมีความชัดเจนว่าจะมีการเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ต.ค.2562 หลังจากที่ได้มีการลงนามใน MOU เปิดสะพานระหว่างกันไปแล้ว ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา และให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรต่อไป โดยมั่นใจว่าจะทำให้การขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศสะดวกมากขึ้น และจะช่วยเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างกันได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 มีความแออัดมาก ทำให้การขนส่งสินค้าไม่สะดวกและมีความล่าช้า
ส่วนที่ภาคเอกชนเสนอให้ขยายระยะเวลาการเปิด-ปิดด่านการค้าชายแดนแม่สอด จากเดิมเวลา 05.30-21.30 น. เป็นเวลา 05.30-24.00 น. จะต้องหารือในคณะกรรมการร่วมระหว่าง 2 ประเทศก่อน
สำหรับ การเสนอให้มีการยกระดับด่านการค้า 3 จุด ระหว่างไทยเมียนมา ได้แก่ ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด่านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน และด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ในส่วนของด่านสิงขร เมียนมาได้ให้การรับรองผลการสำรวจภูมิประเทศแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะนัดประชุม JBC ในการดำเนินการเปิดด่านต่อไป ส่วนด่านห้วยต้นนุ่น และด่านเจดีย์สามองค์ จะต้องสำรวจภูมิประเทศให้แล้วเสร็จก่อน ทั้งนี้ เฉพาะด่านเจดีย์สามองค์ เอกชนต้องการให้ขยายวงเงินสินค้าที่ขนส่งผ่านด่านจากเดิมกำหนดไม่เกินครั้งละ 5 แสนบาท เป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งการจำกัดสิทธิ์ดังกล่าวเป็นประกาศของกองกำลังสุรสีห์ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะทำหนังสือหารือเพื่อให้พิจารณาขยายวงเงิน และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป
ขณะที่ประเด็นอื่นๆ ที่ภาคเอกชนเสนอ เช่น ขอให้สามารถนำรถบรรทุกของเมียนมาข้ามสะพานด่านแม่สอดเข้ามาถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศไทยที่ อ.แม่สอด เพื่อสามารถบรรทุกสินค้าไทยกลับไปเมียนมาได้สะดวกขึ้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตาก รับไปที่จะหารือร่วมกับอธิบดีกรมขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการให้บรรลุผลต่อไป , การผลักดันการตรวจหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (From D) ขอให้ทางการเมียนมาดำเนินการเรื่องเอกสาร Form D ได้อย่างรวดเร็วที่ด่านทุกด่าน ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะประสานกับทางการเมียนมา เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 1 ธ.ค.2562 , การอนุญาตให้ผู้ถือบอร์ดดิ้งพาส ข้ามแดนไทย-เมียนมา มีความสอดคล้องเหมาะสมยิ่งขึ้น จากปัจจุบันคนสามารถข้ามมาได้ 7 วัน แต่รถยนต์ข้ามได้ 1 วัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับไปพิจารณา และขอให้มีการจัดตั้งห้องเซ็นทรัลแลป ที่ อ.แม่สอด จากปัจจุบันตั้งอยู่ที่จ.เชียงใหม่
“ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ หากแก้ไขได้ทั้งหมด จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้า และเพิ่มมูลค่าการส่งออก และการค้าชายแดนระหว่าง 2 ประเทศได้มากขึ้น และทำให้การส่งออกในภาพรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น”นายจุรินทร์กล่าว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web