- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 24 September 2019 19:03
- Hits: 4540
พาณิชย์ ชี้ช่องโคเนื้อ ใช้เอฟทีเอขยายตลาดต่างประเทศ แนะโฟกัสอาเซียน-จีน
พาณิชย์ ชี้ช่องทำเงิน แนะเกษตรกร สหกรณ์โคเนื้อในภาคอีสาน ศึกษาใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอเป็นใบเบิกทางส่งออกสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ เผยตลาดอาเซียนและจีน มีโอกาสสูง เหตุไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว
นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ “พัฒนาความพร้อมของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 ณ โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร ว่า เป้าหมายของการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ และสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคเนื้อในภาคอีสาน ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) สร้างแต้มต่อในการส่งออกสินค้าเกษตรในพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ไปตลาดต่างประเทศ เพราะปัจจุบัน คู่เจรจาเอฟทีเอของไทยหลายประเทศได้มีการลดภาษีนำเข้าให้กับไทยแล้ว
“ปัจจุบัน อาเซียน และจีน ไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ยกเว้นแค่สปป.ลาวและเวียดนาม ที่ยังมีการเก็บภาษีนำเข้าเนื้อโคแปรรูปจากไทยอยู่ จึงต้องการให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้มากขึ้น และได้มอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ช่วยเร่งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ต่อไปแล้ว”
ทั้งนี้ ยังได้ชี้แนะแนวทางการรับมือโคเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ไทยจะต้องเปิดเสรีในปี 2564 โดยมั่นใจว่าสินค้าของไทยจะแข่งขันได้ เพราะที่ผ่านมา ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือ ทั้งการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีการจัดทำเอฟทีเอจำนวน 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ เช่น ไทย-ชิลี ไทย-เปรู ไทย-ญี่ปุ่น อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-จีน เป็นต้น โดยเอฟทีเอหลักๆ อย่าง อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ภาษีนำเข้าเนื้อโคและผลิตภัณฑ์ที่เก็บจากไทยเป็น 0% แล้ว และไทยควรใช้โอกาสส่งออกไปประเทศเหล่านี้มากขึ้น โดยมีตลาดส่งออกของโคมีชีวิตสำคัญ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา ส่วนเนื้อโคและผลิตภัณฑ์ มีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และกัมพูชา
Click Donate Support Web