- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 23 September 2019 14:45
- Hits: 3351
จุรินทร์ นำทัพ ! บุกมณฑลกวางซี เปิดตลาดใหม่ขายมันสำปะหลังที่จีน ทำข้อตกลงแล้วรวม 18,000 ล้านบาท
ที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง นครหนานหนิง ประเทศจีน พิธีเปิดงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีนครั้งที่ 16 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติหนานหนิง (Nanning International Convention & Exhibition Center: NICEC)
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มาเข้าร่วมและเป็นตัวแทนประเทศไทยนำพาคณะมาร่วมพิธีเปิด CHINA-ASEAN expo ครั้งที่ 16 โดย 1. ในปีหน้าจะมีการยกระดับ FTA ระหว่าง อาเซียนและจีนอีกครั้งเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน
- ในโอกาสที่ได้เข้าพบท่านรองนายกรัฐของจีนได้คุยถึงเรื่องการทำ MOU ระหว่างสินค้าเกษตรไทยกับจีน ซึ่งเคยมีการทำไว้เรื่องข้าว 2,000,000 ตันในช่วงที่ผ่านมาประเทศจีนซื้อข้าวไปทั้งสิ้น 700,000 ตันเหลืออีกประมาณ 1,300,000 ตันโดยทางเราต้องการให้บรรลุผลในทางปฏิบัติ โดยจีนได้มีการทำ MOU ที่จะซื้อยางพาราจากประเทศไทย 200,000 ตันที่ผ่านมาได้มีการซื้อไป 16,800 ตันซึ่งยังไม่ครบตาม MOU ได้นำเรียนรองนายกฯของจีนเพื่อให้ส่งออกข้าวและอย่างมายังจีนได้มากขึ้น
- ความสัมพันธ์ทางการค้ากับมณฑลกวางซีซึ่งเป็นมณฑลที่ติดอยู่กับอาเซียนมากที่สุดมณฑลหนึ่งของประเทศจีน สำหรับประเทศไทยต้องการส่งพืชผลทางการเกษตรมานั้นโดยผมได้นำทีมงานกระทรวงพาณิชย์และพระเอกชนมาเข้าร่วมงานและเจรจากับผู้นำเข้าของจีนมีประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม 2-3 ราย
สำหรับ มันสำปะหลังโดยปกติประเทศจีนจะนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยปีละประมาณ 7,000,000 ตัน มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่ในปีที่แล้วเกิดปัญหานำเข้าเพียง 3,000,000 ตัน ในปีนี้ตั้งเป้าที่จะฟื้นตัวเลขเดิมให้กลับมาใหม่โดยตั้งใจที่จะมาขายมันสำปะหลังโดยเฉพาะ มันเส้น 2,600,000 ตันและแป้งมัน 80,000 ตัน มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาทซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จภายในหนึ่งปีนับจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งมีบริษัทลงนาม MOU 4 บริษัทใหญ่ที่จะนำเข้าทั้งมันเส้นและแป้งมัน โดยกว่างซีถือเป็นตลาดใหม่ของไทยจึงสามารถบุกเบิกและนำส่งมายังพื้นที่นี้ได้อีกมากในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำต่อไปในเดือนพฤศจิกายนนี้ คือ กระทรวงพาณิชย์ จะเชิญผู้ใช้มันสำปะหลังและพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น ยางพารา และผลไม้จากทั่วโลก มาพบกับผู้ส่งออก และผู้ผลิตของไทยเพื่อเพิ่มมูลค่า ส่วนเรื่องผลไม้ซึ่งประเทศจีนนำเข้าผลไม้จากประเทศไทยเป็น อันดับหนึ่ง ครองตลาดร้อยละ 23 ลำดับตามมาคือประเทศชิลี ร้อยละ 20 และเวียดนามร้อยละ 10 และได้มีการทำ MOU ระหว่างผู้ส่งออกของไทยกับผู้นำเข้าของจีนได้ประมาณ 100 ล้านบาทในงานนี้ โดยผลไม้ที่มีศักยภาพในตลาดของจีนประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด และลำไย เป็นต้น มีผลไม้ดาวรุ่งตัวใหม่ คือ มะพร้าวน้ำหอม
นอกจากนั้น ในการเจรจาระหว่างตนกับผู้อำนวยการพรรคคอมมิวนิสต์จีนของกวางซี ได้หารือกันในเรื่องที่ประเทศไทยจะมาจากเทศกาลผลไม้ที่นี่โดยเฉพาะในเมืองหนานหนิง ที่เป็นเมืองหลวงของมณฑลนี้คือเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ จะช่วยเพิ่มการส่งออกผลไม้มายังเมืองกวางซีได้มาก และในเดือนพฤศจิกายน 2562 จะมีการจัดพบกันระหว่างผู้ส่งออกผลไม้ไทยกับผู้นำเข้าผลไม้ทั่วโลกอีกครั้งที่กรุงเทพมหานคร
ครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์กับการยางแห่งประเทศไทยได้มาร่วมกันส่งเสริมการส่งออกยางพารากับประเทศจีนเพิ่มเติมด้วย โดยมีการเจรจากับบริษัทผู้นำเข้ายางรายใหญ่ของจีนคือ ชิโน เคม กับ บริษัทฉงชิ่ง ฉางอาน
เหมิงเชิง ซึ่งจะมีการพบปะเจรจากันต่อไปถึงการซื้อขายจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และยังได้แนะนำลงทุนทำโรงงานผลิตยางในประเทศไทยที่ภาคใต้จังหวัดสงขลาที่มีนิคมอุตสาหกรรมยางโดยเฉพาะ โดยทาง BOI ได้จัดทำ one top service สำหรับผู้สนใจไปลงทุนทำยางที่ประเทศไทย
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
Click Donate Support Web