- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 21 September 2019 19:09
- Hits: 9970
พาณิชย์ วีรศักดิ์ ลงพื้นที่มุกดาหาร หนุนเกษตรกรโคเนื้อ ใช้เอฟทีเอส่งออกตลาดอาเซียน-จีน
วีรศักดิ์ เตรียมนำคณะลงพื้นที่พบปะกับเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ในจังหวัดมุกดาหาร ชี้ช่องการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอขยายการส่งออกโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดต่างประเทศ เน้นอาเซียนและจีน ที่ลดภาษีนำเข้าให้กับสินค้าไทยแล้ว พร้อมชี้แนะแนวทางการรับมือโคเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ไทยจะต้องเปิดเสรีในปี 64 ด้วย
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ย.2562 จะนำคณะจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร เพื่อผลักดันให้สหกรณ์และเกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ขยายการส่งออกสินค้าเกษตรในพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ไปตลาดต่างประเทศ เช่น อาเซียนและจีน ซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้วภายใต้ข้อตกลงร่วมกันในเอฟทีเอ
ทั้งนี้ ตามกำหนดการ วันที่ 23 ก.ย.2562 จะลงพื้นที่พบปะและให้ความรู้แก่เกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัด อำเภอหนองสูง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเลี้ยงโคขุน จำนวน 3,181 ราย จำนวนโคที่ขึ้นทะเบียนขุน 5,200 ตัว มีปริมาณการเลี้ยงโคขุนสูงเป็นลำดับต้นๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในวันที่ 24 ก.ย.2562 จะเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการ “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” ณ โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร ให้กับสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกร ในจังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ นครพนม และสกลนคร เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีโคเนื้อ การเปิดตลาดสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัด เป็นศูนย์กลางการรวบรวมโคเนื้อเพื่อชำแหละแปรรูปเนื้อโคคุณภาพ ส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ เช่น บริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท โชคชัยอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด บริษัท อาร์โนส์ เซ็นทรัล บุชเชอร์ จำกัด บริษัท กินชะโด (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น โดยสหกรณ์ฯ ยังมีแผนจะส่งออกเนื้อโคไปตลาดญี่ปุ่นที่มีความต้องการบริโภคสูงด้วย
“กรมฯ มั่นใจว่าการลงพื้นที่และการจัดสัมมนาในครั้งนี้ จะทำให้สหกรณ์ เกษตรกร เข้าใจถึงช่องทางการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ขยายช่องทางการส่งออกของไทย โดยเฉพาะส่งออกไปยังตลาดอาเซียนและจีน และยังจะช่วยเน้นการเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรไทยรับมือโคเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่ไทยต้องลดภาษีนำเข้าในต้นปี 2564 ด้วย”นางอรมนกล่าว
Click Donate Support Web