- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 14 September 2019 22:58
- Hits: 6049
จุรินทร์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร ชี้แจงประกันรายได้ 'ข้าว' ยันจ่ายเงินส่วนต่างล็อตแรก 15 ต.ค.นี้
จุรินทร์ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร ชี้แจงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูก 'ข้าว'ยันเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างล็อตแรก 15 ต.ค.นี้ ย้ำเกษตรกรที่ปลูกข้าว แม้จะเจอภัยแล้ง น้ำท่วม หรือปลูกไว้กินเอง มีสิทธิ์ได้รับเงินจากโครงการประกันรายได้ทั้งหมด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการประชุมชี้แจงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ว่า ได้ตั้งใจที่จะมาบอกพี่น้องเกษตรกรเกี่ยวกับนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้กับเกษตรกร โดยยืนยันว่าเกษตรกรจะมีรายได้ 2 ทาง คือ 1.รายได้จากการขายข้าวตามราคาตลาด และ 2.เงินส่วนต่างที่รัฐบาลประกันให้โดยโอนเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ มีเกษตรกรจาก 5 จังหวัด ได้แก่ ศรีษะเกษ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ยโสธร และมหาสารคาม รวมแล้วประมาณ 1,000 คน มารับฟังการชี้แจง
สำหรับ การประกันรายได้ กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ ณ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน (ครัวเรือนละ 14 ตัน) , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน (ครัวเรือนละ 16 ตัน) , ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน (ครัวเรือนละ 30 ตัน) , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน (ครัวเรือนละ 25 ตัน) และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน (ครัวเรือนละ 16 ตัน)
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากจะมีคำถามว่าเกษตรกรที่ปลูกข้าวแล้วเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง ภัยธรรมชาติจนนาล่ม จะได้เงินส่วนต่างนี้หรือไม่ คำตอบ คือ ได้ และอาจมีคำถามว่าถ้าเกษตรกรปลูกข้าวเพื่อเก็บไว้กิน จะได้เงินส่วนต่างนี้หรือไม่ คำตอบ คือ ได้ แต่เกษตรกรจะต้องไปขึ้นทะเบียนก่อน โดยจะมีการจ่ายส่วนต่างล็อตแรกในวันที่ 15 ต.ค.2562
“การโอนเงินส่วนต่าง จะเริ่มโอนเงินงวดแรกในวันที่ 15 ต.ค.2562 จะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน และแจ้งรอบเก็บเกี่ยวไว้ ขอย้ำว่า เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้และปลูกข้าวจริง ไม่ว่าจะเจอปัญหาภัยแล้ง ประสบภัยน้ำท่วม มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินส่วนต่างนี้แน่นอน และนโยบายประกันรายได้จะดำเนินการตลอดอายุรัฐบาลชุดนี้”นายจุรินทร์กล่าว
พร้อมกันนี้ นายจุรินทร์ได้ย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์ยังมีมาตรการเสริมที่จะช่วยยกระดับราคาข้าวในช่วงที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดมาก โดยมีกระบวนการดูดซับผลผลิตมาเก็บไว้ เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกจนส่งผลกระทบถึงเกษตรกร และยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์จะช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าว ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ ชาวนา กลางน้ำ คือ โรงสี แปรรูป ปลายน้ำ คือ ผู้ส่งออก
รายงานข่าวแจ้งว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ปี 2562/63 รอบที่ 1 ต้องปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค.2562 ยกเว้นภาคใต้ วันที่ 16 มิ.ย.2562-28 ก.พ.2563 ระยะเวลาได้รับสิทธิชดเชยให้เป็นไปตามวันเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรระบุในทะเบียนเกษตรกร ส่วนราคาส่วนต่าง คณะอนุกรรมการกำกับดูแล จะเป็นผู้กำหนดและประกาศครั้งแรกในวันที่ 16 ต.ค.2562 และครั้งต่อไปทุกๆ 15 วัน จนถึงวันสิ้นสุดการใช้สิทธิ์ตามโครงการ คือ วันที่ 31 ต.ค.2563 โดยเงินส่วนต่างที่เกษตรกรจะได้รับครั้งแรก คือ วันที่ 15 ต.ค.2562 ซึ่ง ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันประกาศราคากลางอ้างอิงในแต่ละรอบ โดยที่เกษตรกรไม่ต้องไปทำสัญญากับ ธ.ก.ส.
Click Donate Support Web