- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Wednesday, 11 September 2019 18:30
- Hits: 3092
พาณิชย์ แจงปินส์ไม่ต่อเอ็มโอยูซื้อข้าวจีทูจี เหตุเปิดเสรีนำเข้า คาดไทยขายข้าวคุณภาพดีได้เพิ่ม
กรมการค้าต่างประเทศแจงสาเหตุรัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่ต่ออายุเอ็มโอยูซื้อขายข้าวจีทูจีกับรับบาลไทย เหตุมีการเปลี่ยนระบบการนำเข้าใหม่ ให้เอกชนนำเข้าได้โดยเสรี และยกเลิกการประมูลแบบจีทูจี เผยจะทำให้ไทยได้ประโยชน์กว่าเดิม เหตุจะขายข้าวคุณภาพดีได้มากขึ้น
นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลฟิลิปปินส์แจ้งไม่ต่ออายุบันทึกความตกลงว่าด้วยการซื้อขายข้าวระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลฟิลิปปินส์ ว่า เอ็มโอยูฉบับล่าสุดของไทย ได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2561 กรมฯ จึงได้ทำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติให้รัฐบาลไทยลงนามเอ็มโอยูฉบับใหม่ ซึ่งจะใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562-31 ธ.ค.2563 แต่ในช่วงปี 2562 ยังไม่ทันที่ ครม. จะได้พิจารณาอนุมัติ รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อข้าวแบบใหม่ โดยยกเลิกการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และเปิดเสรีให้ภาคเอกชนเป็นผู้นำเข้าเองทั้งหมด จากเดิมที่จะมีทั้งการประมูลขายแบบจีทูจีเป็นส่วนใหญ่ และเปิดให้นำเข้าโดยภาคเอกชนเป็นบางส่วน ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงไม่จำเป็นต้องทำเอ็มโอยูกับรัฐบาลฟิลิปปินส์อีกต่อไป
“การปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อข้าวของฟิลิปปินส์ จะมีผลดี คือ ภาคเอกชนของฟิลิปปินส์จะนำเข้าได้โดยเสรีมากขึ้น และเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออกไทยจะส่งออกได้มากขึ้นกว่าการใช้ระบบประมูลแบบเดิม โดยเฉพาะจะส่งออกข้าวคุณภาพดี ราคาสูงได้มากขึ้น แต่ก็ต้องแข่งขันกับคู่แข่งด้วย ทั้งเวียดนาม อินเดีย เป็นต้น”
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ได้กำหนดให้ประเทศที่จะเข้าร่วมประมูลขายข้าวแบบจีทูจีให้กับฟิลิปปินส์ จะต้องลงนามในเอ็มโอยูก่อนจึงจะเข้าร่วมได้ ซึ่งไทยได้ลงนามเอ็มโอยูมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ 2 ปี และในเนื้อหาสาระของเอ็มโอยูระบุว่าทั้ง 2 ประเทศจะซื้อขายข้าวระหว่างกันปริมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นกรอบกว้างๆ แต่จะซื้อขายได้ตามปริมาณที่กำหนดหรือไม่ อยู่ที่ความต้องการของผู้ซื้อ ส่วนประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินเดีย ก็ต้องลงนามเอ็มโอยู
นางมนัสนิตย์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ไทยสามารถชนะการประมูลขายข้าวแบบจีทูจีให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์เฉลี่ยปีละ 3-5 แสนตัน โดยไม่เสียภาษีนำเข้า ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว 25% เพราะรัฐบาลฟิลิปปินส์นำไปแจกให้กับประชาชนยากจนในฟื้นต่างๆ ทั่วประเทศ แต่เมื่อเปลี่ยนมาให้เอกชนเป็นผู้นำเข้า จะทำให้มีการนำเข้าข้าวคุณภาพดีเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำออกขายในท้องตลาดทั่วไป แต่จะต้องเสียภาษีนำเข้า โดยหากเป็นประเทศในอาเซียนจะเสียภาษีนำเข้า 35% และนอกอาเซียน 50%
อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆ นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะนำคณะผู้ส่งออกไทยเดินทางไปฟิลิปปินส์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ รวมถึงอาจจะพบปะกับหน่วยงานนำเข้าของฟิลิปปินส์ด้วย
Click Donate Support Web